ปีขาลขับรถพาสามสาวมาที่บ้านส่วนตัวของนับตังค์ ยังไม่ได้คุยกันกับเพื่อน ว่าจะพาเธอกับเพื่อนของเธอมา แต่ก็พามาแล้ว ด้วยคิดว่าบ้านของนับตังค์นั้นน่าจะมีพื้นที่พอให้รวมตัวกัน ซ้ำข้างๆบ้านมันยังมีร้านอาหารให้สั่งกินง่ายๆ ถือว่ามีครบในส่วนที่กำลังต้องการพอดี
“ไหนบอกว่าจะเลี้ยง นี่มันไม่ใช่ร้านอาหารนี่”
เอื้อมดาวนั่งอยู่เบาะหน้า เห็นตั้งแต่เขาเลี้ยวรถเข้ามาในตัวบ้านขนาดสามห้องนอนแล้ว ไอ้คนนี้คิดไม่ซื่อจริงๆ เธอต้องรีบพาเพื่อนชิ่งหนี
“ไม่แหกตาดูเหรอว่าร้านมันอยู่ข้างๆ ที่จอดรถก็ไม่มี จอดไว้ในบ้านไอ้นับนี่แหละ สั่งมากินในนี่ด้วยสะดวกกว่าที่ร้านเยอะ”
แม้จะรำคาญเสียงแว๊ดๆของเธอ แต่โดยรวมแล้วก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ ดีนะที่เขาถูกใจ ถ้าไม่มีความรู้สึกพวกนั้น เขาถีบลงรถตั้งแต่เธอก้าวขึ้นมาแล้ว ผู้หญิงอะไรวะ บ่นเก่งชิบหาย
แววตาสังเกตคนทั้งสองตั้งแต่ขึ้นรถมา เพื่อนเธอที่ออกไปทางเรียบร้อยอ่อนหวาน เอาแต่บ่นไม่หยุด เป็นมุมที่เธอไม่เคยเห็นเลย ยิ่งปีขาล ยิ่งน่าแปลกใจ ผู้ชายที่นิ่งเงียบดูเถื่อนๆ กลับต่อล้อต่อเถียงกับเพื่อนเธอเหมือนไม่รู้จักเหนื่อย และยังทำท่าทางราวกับว่า ยิ่งเพื่อนเธอพูดมากเท่าไหร่ เขายิ่งอยากจะพูดให้มากกว่า ทั้งยังกระตุกยิ้มให้หัวใจเธอหวั่นไหวอยู่ตลอด ทั้งที่ตอนอยู่กับเธอ เขาแทบไม่เคยยิ้มให้เลย
“ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากล ฉันจะแจ้งตำรวจทันที”
เอื้อมดาวลงจากรถไปยืนรอเงียบๆ แต่ในหัวไม่เงียบเลย กำลังคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองด้วยความสับสน เธอกลัวผู้ชายไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมกับผู้ชายชื่อปีขาล มันถึงต่างออกไป หรือว่าเธอกลัวจนเลยขีดจำกัดของตัวเองไปแล้ว ถึงได้ทำใจกล้าต่อว่าเขามาตลอดทางแบบนั้น
“ขอโทษนะเอื้อมที่ไม่ได้รางวัลใหญ่”
“ไม่เป็นไร ถ้าขาดเหลืออะไรบอกกันนะ วันนี้เรามาผลาญเงินผู้ชนะกันเถอะ”
เอื้อมดาวไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น แต่แปลกที่พอเป็นผู้ชายอย่างปีขาล เธออยากทำให้เขากระอักเลือด อาจจะเป็นเพราะเขาเองก็แกล้งเธอตั้งแต่ทีแรกละมั้ง เธอก็เลยอยากเอาคืน
“แต่เราก็ได้รางวัลนะ”
อิ่มอุ่นยิ้มกว้าง ไม่รู้ว่าแววตาลืมหรือตั้งใจไม่บอกกันแน่ ว่าวงของพวกเธอได้ที่สอง แม้เงินรางวัลจะน้อย แต่ได้ก็คือได้ และควรจะบอกเพื่อนด้วย
“ลืมเลย เราได้ที่สองเชียวนะเอื้อม”
แววตายิ้มแหยๆส่งไปให้เพื่อน เธอลืมไปเลย เพราะมัวแต่คิดถึงความสัมพันธ์ของเพื่อนกับปีขาล สงสัยต้องย้ำตัวเองให้มากกว่านี้ ว่าเธอกับพี่ขาลเป็นได้แค่อดีต
“ทั้งๆที่เราเล่นดีกว่าตั้งเยอะ”
“คุยกันเสร็จหรือยัง เข้าไปข้างในเถอะ ไอ้พวกนั้นรออยู่”
ปีขาลเงยหน้าจากจอสมาร์ทโฟนยี่ห้อดัง บอกสามสาวเสียงเรียบ เมื่อกี้เขาไลน์บอกเจ้าของบ้าน ว่าพาสามสาววงน้องใหม่ในงานเมื่อคืนมาด้วย นอกจากมันจะไม่ว่าแล้ว ยังบอกให้รีบพาเข้ามา มันกับเพื่อนจะแต่งเนื้อแต่งตัวหล่อๆรอ เป็นอะไรที่ทำให้หงุดหงิดชะมัด รู้งี้พาไปที่อื่นดีกว่า
สามสาวเดินตามเข้าไปเงียบๆ สายตาสอดส่องสำรวจภายในบ้านอย่างตื่นเต้น บ้านหลังนี้จัดว่าสวยทั้งด้านนอกและด้านใน บ้านสไตล์ลอฟท์ให้ความรู้สึกมั่นคง และดูลึกลับ เพราะตัวบ้านเป็นปูนสีดำเกือบทั้งหลัง
“เห้ย! มาจริงด้วยวะ”
นับตังค์ที่กำลังนั่งเล่นเกมส์อยู่บนโซฟา ละสายตาจากหน้าจอ มองสาวสาวที่ก้าวเข้ามาให้ห้องรับรองแขก เมื่อรู้สึกว่ามองนานเกินไป จนตัวละครในเกมหยุดนิ่งก็ก้มหน้าลงไปใหม่ ทีมต้องการเขา นั่นคือสิ่งที่ต้องทำตอนนี้ เขายังไม่อยากแพ้ เพราะลงแรงค์กับเพื่อนๆอยู่
“มึงก็เลิกเล่นดิ แขกมาบ้าน ไปหาน้ำมาให้แขกไป๊!”
ปีขาลเขี่ยเท้าเข้ากับขาของเพื่อนเบาๆ เพื่อให้มันขยับตัวออกไปจากโซฟา ให้เอื้อมดาวกับเพื่อนของเธอได้นั่ง
“กูลงแรงค์อยู่ มึงไปหยิบมาดิ”
“นี่ใช่บ้านกูไหม?”
“แต่มึงพามา”
“งั้นกูพากลับ”
“ไอ้เหี้ย! เอาไปเล่นดิ อย่าแพ้นะมึง”
นับตังค์โยนโทรศัพท์ไปให้ปีขาลรับ เดินฟึดฟัดหายออกไปจากห้องรับแขกอย่างรวดเร็ว
“อยากกลับอะ หาสาระไม่ได้เลย ไหนบอกจะเลี้ยง ไม่เห็นมีอะไรให้กินเลย”
เอื้อมดาวถือวิสาสะนั่งลงโซฟาฝั่งตรงข้ามกับปีขาลที่กำลังมุ่งมั่นสานต่อสิ่งที่เพื่อนของเขาโยนให้อยู่
“นั่นสิ”
“เนอะ”
แววตาอยากกลับ เพราะอึดอัดที่ต้องเห็นปีขาล ส่วนอิ่มอุ่นเธอเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยชอบการสุงสิงกับคนอื่นเท่าไหร่ ที่ยอมมาด้วยเพราะของกินล้วนๆ แต่ดูแล้วเหมือนจะไม่ได้กินอย่างที่หวัง
“นี่คุณ”
เอื้อมดาวเรียกคนที่ก้มหน้ามองแต่จอโทรศัพท์ อยากจะเดินไปแย่งมันออกจากมือเขามาก เขาจะได้เงยหน้าขึ้นมามองเธอบ้าง หงุดหงิดแล้วเนี่ย!
“ปีขาล!”
“น่ารำคาญว่ะ เอาไปสั่งดิ”
ปีขาลโยนโทรศัพท์ของตัวเอง ที่เปิดแอพพลิเคชันของร้านอาหารไว้ ไปทางโซฟาที่เอื้อมดาวนั่งอยู่ เมื่อเห็นว่ามันตกลงบนตักเธออย่างไม่ได้ตั้งใจ ก็ก้มหน้าลงกดโทรศัพท์ในมือต่อ เขาต้องชนะ ไม่งั้นไอ้นับบ่นหูชา ไอ้นั่นมันจริงจังกับเกมส์นี้มาก ไม่รู้เหมือนกันว่าจะจริงจังอะไรขนาดนั้น
เอื้อมดาวถอนหายใจอย่างเอือมระอา อย่าว่าแต่แต่งงานเลย แค่เป็นแฟนยังไม่อยาก ผู้ชายที่ไม่สนใจตัวเอง จะเอามาทำซากอะไร มือเล็กเลื่อนหน้าจอ จิ้มสั่งทุกอย่างที่ขึ้นโชว์แบบไม่ต้องคิด ร้านอาหารเดี๋ยวนี้ทำดีกว่าเมื่อก่อน สั่งผ่านมือถือก็ได้ ง่ายดี
“น้ำมาแล้วครับ”
นับตังค์ถือถาดขนาดใหญ่ที่มีแก้วกับน้ำ เข้ามาในห้องอย่างระมัดระวัง เพราะบ้านเขามีเพื่อนมาค้างด้วยบ่อยๆ จึงมีน้ำสำรองไว้หลากหลาย เขาจึงเลือกมาหลายๆอย่าง เผื่อสาวๆไม่ชอบน้ำเปล่า
“ขอบคุณค่ะ”
สามสาวเอ่ยขอบคุณแทบจะพร้อมกัน อยากจะไปช่วยยกอยู่หรอกแต่เป็นแขก นั่งอยู่เฉยๆดีที่สุด
“พี่ชื่อนับตังค์ ไอ้นั่นคงไม่ต้องแนะนำแล้ว ส่วนไอ้สองตัวที่กอดคอกันเดินเข้ามา ชื่อโทนี่กับโทน ไม่ต้องบอกเนอะใครโทนี่ใครโทน”
นับตังค์แนะนำตัว เขาเป็นคนแบบนี้ ถือว่าเฟรลลี่ที่สุดในกลุ่ม เพราะคนที่เหลือนิสัยเหมือนปีขาลทั้งหมด ถ้าเขาเป็นไปด้วยอีกคน มีหวังวงขายไม่ออกแน่ๆ
“สวัสดีค่ะ เอื้อมดาวค่ะ”
“อิ่มอุ่น”
“แววตา” แววตาแนะนำตัวเสียงเบาสุด ก็ทุกคนในนี้รู้จักเธอดีแล้วนี่นา ให้มาทำแบบนี้ก็รู้สึกเขินนะสิ
“แล้วไปไงมาไง ถึงได้ถูกไอ้ขาลลากมาได้” นับตังค์ลงไปนั่งข้างปีขาล ที่ยื่นโทรศัพท์คืนมาให้ มองเพื่อนอีกสองคนที่นั่งลงข้างๆกันเหมือนชีวิตขาดกันไม่ได้ อย่างเอือมระอา
“กูตั้งใจว่าจะทาบทามมาร้องเพลงในค่ายกู ของดีขนาดนี้ มึงคิดว่ากูจะปล่อยไปเหรอ”
นอกจากเอื้อมดาวที่เขาสนใจรูปร่างหน้าตาของเธอ คนอื่นๆเขาก็สนใจ เอาเป็นว่าทั้งสามคน เหมาะที่จะปั้นเป็นศิลปินในค่ายเพลงเปิดใหม่ของเขามาก
“มึงเอาจริงเหรอวะขาล งานเพลงเดี๋ยวนี้มันไม่ค่อยบูมเหมือนเมื่อก่อนนะเว้ย กูว่าเอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า”
ทำเล่นๆขำๆมันก็ได้อยู่ แต่สิ่งที่ปีขาลกำลังจะทำไม่ใช่แบบนั้นนะสิ
“กูอยากทำ”
ปีขาลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงมั่นคง มองทุกคนในห้องอยู่ตลอด เหมือนรอว่าจะเอายังไงต่อ เปิดมาซะขนาดนี้แล้ว
“ค่าตัวแพงนะ”
เอื้อมดาวพูดขึ้น สบสายตาจริงจังอย่างไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แค่เขาบอกว่าอยากทำค่ายเพลง เธอก็เหมือนจะพาตัวเองไปเป็นคนเด็กในค่ายของเขาซะแล้ว อยากรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีดีแค่ไหน ทำค่ายเพลงมันยากมาก การที่จะดันเด็กในค่ายตัวเองให้ดังได้อะถือว่ายากที่สุด ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะทำได้เลย ต้องมีความสามารถควบคู่กันด้วย
“แต่ถ้าเป็นเมียก็ทำฟรี ช่วยกันทำมาหากินว่าไหม”
หยอดเก่ง! นั่นคือสิ่งที่เอื้อมดาวรู้สึก
“น้องเขาเหมือนไม่อยากได้มึงวะ พี่ว่างนะ ไม่รวยเท่ามัน ที่สำคัญกว่าคือเด็ด”
นับตังค์ขยิบตาข้างหนึ่งส่งให้เอื้อมดาว สาวๆบอกว่าเขาทำท่านี้เด็ดสุดแล้ว
“ขอโทษค่ะ หนูไม่สนทั้งคู่”
เอื้อมดาวเสมองไปทางอื่น ด้วยท่าทางเอือมๆคนทั้งคู่ที่เล่นมุกหยอดเธอ ก็คนเพิ่งเจอเมื่อคืนอะ มาบอกเป็นมงเป็นเมีย มันเร็วไปไหม
“กูไปรออาหารดีกว่า เหม็นสาบนกสองตัว”
โทนี่ลุกขึ้นยืน ไม่ลืมเดินไปคว้ามือคนของตัวเองไปด้วย อิ่มอุ่นได้แต่ส่งสายตาไม่พอใจไปให้ ส่วนคนอื่นๆได้แต่ทำหน้างงๆ