‘เมียในอนาคต’

1173 Words
ดวงตากลมโตมองตุ๊กตาที่ห้อยอยู่หน้าร้านต่างๆ ตาละห้อย ที่บ้านก็มีไม่ใช่ไม่มี แต่ความอยากมี มันก็ยังมีไม่จบไม่สิ้น มือเล็กๆเอื้อไปคว้าเจ้าตุ๊กตารูปเสือตัวโตแต่ต้องรีบดึงมือกลับ เมื่อมีคนคว้ามันไปก่อน “ขอโทษ…ค่ะ” เอื้อมดาวกำลังจะด่าแหละ เพราะมือนั้นคว้าตุ๊กตาโดนมือเธอเหมือนตั้งใจ เธอจึงชักมือกลับและขอโทษทีหลัง แต่เมื่อเห็นหน้าคนๆนั้นชัดๆ เขาดูน่ากลัวจนเธอต้องหาคำลงท้ายต่อไปอีกที ปีขาลกระตุกยิ้มขึ้น เมื่อเห็นหน้าคนที่เขาแอบมองอย่างชัดเจน ดวงตากลมโตดูน่าค้นหา ถึงจะดูบ๊องแบ๊วแต่ก็ดูท้าทายอยู่ในที จมูกเชิ่ดรั้นคงจะดื้อน่าดู แต่ปากสีแดงอมชมพูกลับอวบอิ่มน่าจูบชิบหายเลย “มึงจะไปแย่งเด็กมันเล่นทำไมวะขาล” เสียงเพื่อนตะโกนแข่งเสียงเพลงในงานมาแซว เมื่อเห็นเขายืนถือตุ๊กตาอยู่ตรงหน้า คนที่เพื่อนมันมองว่าเป็น ‘เด็ก’ ‘เด็กพ่อมึงสิ นมโตขนาดนี้’ ปีขาลตอบกลับเพื่อนในใจ จะว่าเด็กก็เด็กแหละ เพราะตัวเตี้ยกว่าเขามาก สูงถึง160 หรือเปล่าเขาก็ไม่แน่ใจ แต่อะไรๆมันไม่เด็กเลยนะสิ โดยเฉพาะหน้าอกที่มันโตกว่าอายุหน้าไปมากโข “เอื้อมไปเร็ว เริ่มแข่งแล้ว” เอื้อมดาวหันไปมองตามเสียงเรียก เพื่อนเธอเดินไปตรงนู้นตั้งแต่เมื่อไหร่ มิน่าละรู้สึกเสียวสันหลังแปลกๆ ที่แท้ข้างหลังเธอก็ไม่มีอะไร มีเพียงสายลมและความว่างเปล่านี่เอง “ไม่เอาแล้วเหรอ” ปีขาลมองตุ๊กตาเสือในมือ ตอรแรกเธอตั้งใจจะคว้ามันแน่ๆ และเขาก็ตั้งใจคว้ามันมาถือไว้ เพื่อหาเรื่องทำความรู้จักกับเธออีกที “ไม่ค่ะ แค่จะจับดูเฉยๆ เห็นมันน่ารักดี” เอื้อมดาวจำต้องหันไปตอบทั้งที่อยากจะเดินไปหาเพื่อนเต็มที ก็เขาน่ากลัวอะ ลายสักโผล่พ้นแขนเสื้อที่พับขึ้นไปเหนือข้อศอก ลายแปลกๆเพราะเธอไม่ค่อยชอบคนสักนัก หน้าก็ดูเหวี่ยงๆเหมือนพร้อมมีเรื่องกับทุกคน ตอบดีๆไว้ น่าจะเป็นภัยกับตัวน้อยที่สุด “ฉันก็ว่างั้นแหละ” ปีขาลไม่ได้มองของในมือ เพราะมีอะไรที่น่ามองกว่านั้นเยอะ ใบหน้าสวยขมวดมุ่นนิดๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินไปหาเพื่อน ปีขาลมองตามก่อนจะยกยิ้มถูกใจ ‘โอเค นี่แหละเมียในอนาคตกู’ ปีขาลเดินผิวปากเป็นเพลงไปรวมกลุ่มกับเพื่อน กลับมาบ้านคราวนี้สงสัยจะได้เมียกลับไปฝากพ่อแม่ ไม่เคยคิดอยากมีเมียมาก่อน จนมาเจอไอ้เด็กตัวเล็กนั่น เขาจึงหมายมั่นอยู่ในใจ ว่าก่อนกลับไปกรุงเทพ จะต้องได้เมียกลับไปด้วย “อารมณ์ดีอะไรของมึง” นับตังค์มองเพื่อนสนิทที่เดินผิวปากเข้ามาใกล้อย่างอารมณ์ดี ทั้งที่การแข่งกำลังเริ่ม ไอ้นี่ก็มั่นใจเกินเบอร์ ไม่คิดเลยหรือไงว่าปีนี้อาจจะมีคู่แข่งมือฉกาจมาล้มแชมป์สามสมัยลง ชิลล์เกินจนดูน่าหมั่นไส้ “ไม่ต้องเสือกน่า” ปีขาลไม่ชอบให้ใครวุ่นวายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และคำพูดของเขาก็เป็นแบบนี้ปกติ เพื่อนจะไม่เข้าใจก็ช่างแม่ง เขาไม่แคร์ “เออ” นับตังค์ไม่ถือสาหาความมันหรอก ไม่งั้นคงไม่คบกันมานานขนาดนี้ ไอ้ขาลชื่อไม่สามัคคีกับปาก เพราะปากมันปากปีจอ ถึงจะหมาปากสุดๆ แต่ก็วิ่งนำหน้าทุกครั้งที่เพื่อนมีเรื่อง จึงมีแต่เพื่อนรัก ทั้งๆที่ควรจะเกลียดมันมากกว่า “ปีนี้เล่นเพลงไรดีวะ” โทนี่ มือกลองหนุ่มลูกครึ่งถามอย่างเป็นการเป็นงาน เพื่อนทั้งสามคนจึงเงียบ เพื่อคิดชื่อเพลงที่จะเล่น “เพลงไรก็เล่นๆเหอะ กรรมการที่นี่ไม่ได้มีความสามารถในการตัดสินขนาดนั้น” ปีขาลสรุปอย่างทุกที กรรมการก็คนมีหน้ามีตาในหมู่บ้านละแวกนี้ทั้งนั้น ไม่มีใครรู้เรื่องดนตรีมากมายนักหรอก เขาจึงไม่รู้สึกอะไรกับชัยชนะเลยสักครั้ง ที่ลงแข่งก็ลงไปงั้นแหละ ฆ่าเวลา ต่อให้ไม่มีการแข่งนี้ เขาก็พาคนในวงไปได้ไกลกว่านี้อยู่แล้ว และตอนนี้กำลังก้าวเข้าสู่วงดนตรีระดับประเทศแล้วด้วย “เออ งั้นเล่นเพลงXXXที่กำลังฮิตแล้วกัน” โทนมือกีตาร์อีกคนเสนอชื่อเพลงที่กำลังนิยมอยู่ตอนนี้ เพื่อนคนอื่นๆก็พยักหน้าเห็นด้วย เป็นอันจบเรื่องคุย และสี่หนุ่มก็หันหน้าหนีคนละทิศละทางทันที ไม่ได้ทะเลาะกัน แต่เพื่อหลีสาวที่เดินผ่าน ยกเว้นปีขาลคนเดียวที่สายตาไม่เคยวอกแวกเลยสักครั้ง จ้องมองสาวเสื้อดำที่เจอก่อนหน้านั้นเงียบไ พร้อมกับผิวปากเพลงที่ดังขึ้นในหัวอย่างอารมณ์ดี เอื้อมดาวนั่งขนลุกชูชันทั้งที่อากาศร้อนจัด ยกมือพัดหน้าจนผมสีดำพลิ้วไหวนิดๆ แต่ก็ไม่รู้สึกดีขึ้นเลย ไม่รู้ตื่นเต้นหรืออะไร ทำไมถึงกระวนกระวายใจแปลกๆ รู้สึกเหมือนมีแต่คนจับจ้องจนวางตัวไม่ถูก “ตื่นเต้นเหรอ” แววตาถามคนที่นั่งยกมือพัดหน้าไปมา ทั้งยังกระสับกระส่ายดูแปลกไปจากทุกที จะว่าตื่นเวทีก็ไม่น่าใช่ เพราะเอื้อมดาวเจนสนามพอสมควร ขึ้นเวทีมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว คงไม่ตื่นเต้นกับเวทีเล็กๆแบบนี้หรอก “ไม่รู้สิ แต่คนมองแปลกๆ ไม่มั่นใจเลยอะ” “ฮ่าๆ เรื่องนี้เองเหรอ คนมองของแปลกไง” อิ่มอุ่นหัวเราะร่า ก็นึกว่าเพื่อนเป็นอะไร คนแถวนี้มองของแปลกจริงๆนั้นแหละ แต่ไม่ได้หมายถึงมองในทางที่ไม่ดีหรอก “สงสัยต้องไปเล่นน้ำตากแดดบ่อยๆ จะได้กลมกลืนสักที” ปากบางขยับเป็นระบายยิ้ม เมื่อถูกมองเป็นของแปลกก็เริ่มเข้าใจ เอื้อมดาวเกิดและโตที่นี่ถึงมัธยมต้น พอขึ้นมัธยมปลายพ่อก็ย้ายไปกรุงเทพ เพราะทางนั้นเศรษฐกิจมันดีกว่าที่นี่มาก เธอเลยได้โอกาสสานฝันเรียนด้านดนตรีไปด้วย ช่วงแรกๆก็ไปๆมาแทบทุกปี แต่พอขึ้นมหาลัยก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย และเพิ่งกลับมาอยู่ที่นี่ได้สองเดือน จึงถือเป็นของแปลกสำหรับที่นี่ เพราะเธอผิวขาวกว่าทุกคน หน้าตาก็จัดว่าดูดีกว่า เพราะเด็กสาวแถวนี้ส่วนใหญ่ออกแนวลุยๆ ไม่ได้ดูแลตัวเองเหมือนที่เอื้อมดาวทำ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD