“จะกลับยัง” ปีขาลมองนาฬิกา นี่ก็ดึกแล้วเขาอยากไปส่ง สวยแบบนี้ไม่ปล่อยกลับคนเดียวหรอกนะ เดี๋ยววัยรุ่นแถวนี้มันฉุดเอาเขาจะแย่ ขี้เกียจตามหาตัวไอ้พวกนั้นมากระทืบ ก็บอกแล้วคนนี้พี่ขาลจอง
“เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย” เอื้อมดาวกอดตุ๊กตาเสื้อไว้แน่น มองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ
“จะไปส่ง”
“ไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“เดี๋ยวก็เป็น กลับเหอะ ขี้เกียจหวง” ปีขาลถือวิสาสะจับข้อมือเล็กไปกุมไว้ ออกแรงลากเธอไปตามทางเดิน โดยคนตัวเล็กกว่าออกแรงขืนตัวไว้
“ปล่อยนะ ไม่งั้นกรี๊ดให้คนช่วยนะ” แววตากลมโตรื้นด้วยน้ำใสแวววาว ความกลัวเกาะกุมหัวใจเมื่อโดนผู้ชายที่ไม่รู้จักลากออกไปจากงาน ทั้งที่คนมองมากมายเขาก็ไม่คิดจะปล่อย
“จะไปส่งที่บ้าน”
“ไม่เอา”
“เห้อ! กลัวเหรอ” ปีขาลปล่อยข้อมือเล็กให้เป็นอิสระ เมื่อหันกลับมาเจอใบหน้าสวยนองน้ำตา อะไรวะ ก็แค่จะไปส่งที่บ้าน รู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านขึ้นมาทันที
“กลัวสิ คุณเป็นใครก็ไม่รู้ อยู่ก็บอกจะไปส่ง” เอื้อมดาวถอยออกห่าง มองคนที่เดินผ่านไปมาอย่างขอความช่วยเหลือ
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่า พ่อฉันเป็นผู้ว่า ฉันไม่กล้าหาเรื่องให้ตัวเองหรอก จะกลับกับฉัน หรือไอ้พวกนั้นล่ะ” ปีขาลชี้มือไปที่พวกขี้เมาที่นั่งล้อมวงอยู่ไม่ไกลนัก พวกมันมองเธอนานแล้ว คงต้องใจทำเรื่องไม่ดี เขาถึงพยายามอยู่ใกล้เธอ เพื่อไม่ให้พวกมันเข้ามาทำอะไรเธอได้
“ใครจะไปเชื่อ ถ้าฉันบอกว่าพ่อฉันเป็นนายกคุณจะเชื่อเหรอ”
“เชื่อ เพราะพ่อเธอเป็นจริงๆ”
“คุณรู้จักพ่อฉันเหรอ”
“อืม ก็ไม่เชิงหรอก รู้จักผ่านพ่ออีกทีน่ะ” ปีขาลเกาหัวนิดๆ เมื่อรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนขึ้น เขาก็ว่าเธอหน้าคุ้นๆ ที่แท้ก็เคยเจอ ตอนที่พ่อเขารับตำแหน่งเมื่อสองปีก่อน เขาว่าใช่แน่ๆ ผู้หญิงที่มาร้องเพลงในงานวันนั้น ต้องเป็นยัยเตี้ยนี้แน่ๆเลย
“เชื่อได้แน่นะ”
“หรือจะโทรให้พ่อเธอมารับ”
“ไม่ๆ ฉันขับรถมา”
“งั้นฉันไปส่ง”
ปีขาลสรุปเองเสร็จสรรพ บังคับให้คนตัวเล็กพาเขาเดินไปหารถของเธอด้วยการกดสายตามองต่ำ ใบหน้าสวยงอง่ำเหมือนถูกขัดใจ แต่ก็ยอมเดินไปหารถที่จอดไว้
“ขาถึงเหรอ”
ปีขาลแซวขำๆ เมื่อเห็นคนตัวเล็กหยุดลงข้างรถบิ๊กไบค์สีดำ แม้รุ่นนี้จะคันไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็นั่นแหละ ขาแค่นั้น มันจะถึงพื้นเหรอ
“ถึง ถึงปากคนแถวนี้ด้วย”
เอื้อมดาวอยากจะทำแบบที่พูดอยู่เหมือนกัน เท้าเธอถึงปากหมาๆของเขาแน่ๆ แต่คงไม่กล้าหรอก เพราะเขาน่ากลัวจะตาย
“เก่งแฮะ” ปีขาลไม่ถือสาหาความเด็กยังไม่โตหรอก หยิบหมวกกันน็อคมาสวมลงบนหัวเล็กๆเพื่อปิดกั้นสายตาจากใบหน้างาม ยังไม่เอ่ยปากถาม มือเล็กก็ยื่นกุญแจรถให้
“ถ้าฉันเป็นอะไรไป พ่อฉันตามฆ่าคุณตายแน่”
เอื้อมดาวขู่เสียงดังผ่านกระจกกั้นหมวกออกมา คุ้นๆว่าผู้ว่าฯจังหวัดมีลูกชายชื่อปีขาลจริงๆ ถึงได้กล้าให้เขาไปส่ง เธอไม่ไว้ใจผู้ชายพวกนั้นเลย ไปกับเขาน่าจะปลอดภัยกว่า ไม่รู้จริงหรือเปล่า แต่ถ้าเขาเป็นลูกผู้ว่าฯจริง ความเสี่ยงก็มีน้อยกว่า เพราะท่านผู้ว่าค่อนข้างจะเด็ดขาด ถ้าเขาพลาดทำอะไรเธอขึ้นมา เขาได้ติดคุกหัวโตแน่
“ไม่พาไปฆ่าหรอกน่า”
ปีขาลเก็บคำพูดสุดท้ายไว้ในใจ อยากจะพาไปเอาวันนี้เลยแหละ แต่ถ้าเธอเป็นลูกของนายกเทศมนตรีจังหวัดนี้จริงๆมันจะยุ่ง ขอเช็คให้แน่ใจก่อนว่าเธอเป็นลูกเต้าเหล่าใคร เกิดฉุดคร่าไป ก็ไม่อยากมีปัญหา
ปีขาลจอดรถลงหน้าบ้านหลังใหญ่ในตัวจังหวัด บ้านที่เขาเคยมากับพ่อหลายครั้ง แต่ไม่เคยเห็นเธอเลย หลอกเค้าว่าเป็นลูกสาวคนบ้านนี้เปล่าวะ
“ใช่ลูกนายกเล็กจริงไหมเนี้ย!”
ปีขาลถามคนที่กำลังก้าวลงจากรถ เอื้อมดาววิ่งมาคว้าปากเขาไว้แทบไม่ทัน ผู้ชายอะไรเสียงดังชิบหาย
“เดี๋ยวพ่อก็เอาปืนมายิงหรอก เบาๆหน่อยสิ” เอื้อมดาวคลายมือออกทันที เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าทำอะไรลงไป มองหน้าคนที่มาส่งนิดๆ ก็เป็นคนใจดีนิดๆแหละ แม้ท่าทางจะกวนโอ้ยเหมือนเดิมก็เถอะ
“ขอบคุณรึยัง”
“ใครขอ เสือกตัวเองทั้งนั้น”
เอื้อมดาวยักคิ้วให้หนึ่งที ก็มันจริงนี่น่า เขาเสือกตัวเองเข้ามา แล้วยังมีหน้ามาบอกให้ขอบคุณอีก
“เดี๋ยวกูก็ลากลงข้างทางเลยนี่ ขอบคุณดีๆดิ” เขาไม่ใช่คนใจดีเท่าไหร่ ยิ่งเด็กมันปีนเกลียวยิ่งไม่ชอบ เขาเป็นพี่หลายปีอยู่นะ แล้วดูคำพูดคำจา มันน่าหาอะไรยัดปากชิบหาย
“ขอบคุณ!”
“ขอบคุณค่ะพี่ขาล”
“เรื่องอะไรต้องพูด ไม่อยากรู้จักด้วย”
“พูด!”
“เอ้าไอ้ประสาทนี่ คนเขาไม่อยากรู้จัก”
“แต่กูอยากรู้จัก พรุ่งนี้จะมารับไปกินข้าว แต่งตัวสวยๆล่ะ อีเตี๊ย”
ปีขาลยกนิ้วเขกลงบนหน้าผากเล็ก ที่กำลังทำท่าทางกวนตีนใส แม่งนึกว่าใสใส ที่ไหนได้ กวนตีนสัดๆ แบบนี้แหละถึงจะอยู่กันยืด
“เตี้ยบ้านแกดิ”
เอื้อมดาวมองแผ่นหลังที่เดินข้ามถนนไปอย่างรวดเร็ว เดี๋ยวนะ ถ้าไอ้นั่นเป็นลูกผู้ว่าจริงๆก็อยู่บ้านหลังนั้นอะดิ
ชิบหาย! ไอ้นั้นปีนรั่วบ้านฝั่งตรงข้ามเข้าไปแล้ว !
เอื้อมดาวรีบวิ่งเข้าบ้าน พร้อมตุ๊กตาตัวใหญ่ในมือ ปล่อยรถไว้นอกบ้าน เพราะอีกไม่นานคนงานที่บ้านก็คงออกมาเอาไปเก็บไว้ที่เดิม เดินเข้าห้องนอนตัวเองอย่างเร่งรีบ พร้อมกับปิดประตูดังลั่น