12
“แต่เรื่องค่าใช้จ่ายที่ดรีมพูดมา พี่ก็กะว่าจะเป็นคนรับผิดชอบอยู่แล้ว พี่คิดว่าจะหางานพิเศษทำหลายๆ ที่มันก็พอจะหมุนได้ ไม่เห็นจำเป็นต้องให้พี่ไปขายตัวเลย”
ศิรินทิพย์ไม่ใช่คนงอมืองอเท้า เธอจะทำงานให้มากขึ้น เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ให้มากพอที่จะเลี้ยงชีวิตคนอีกสามคนที่เธอรักสุดใจ
“แล้วทำงานพิเศษอะไรมันจะได้เงินพอมายาไส้ทุกคนในบ้านล่ะ พี่เตยลองคิดคำนวณเงินที่จะต้องใช้ในบ้านสิว่ามันเท่าไหร่ แล้วไอ้เงินพิเศษที่พี่บอกว่าจะไปทำมันพอหรือเปล่า แล้วที่พี่บอกว่าให้ช่วยกันประหยัด พี่จะมาลดเงินที่พี่เอมให้ดรีมทุกวันๆ ละห้าร้อยไม่ได้หรอกนะเพราะแค่นี้ดรีมก็ไม่พอแล้ว ไหนจะค่ากิน ค่ารถแท็กซี่ ค่าไปกินกับเพื่อนอีก โอ๊ย…สารพัด” ลักษณาวดีโวยไว้ก่อน
“อีกอย่างถ้าพี่เตยขายตัวเลี้ยงดูเราสามคนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเรื่องใหญ่โตอะไรเลย เพราะพี่เตยน่าจะเป็นคนรับผิดชอบดรีมกับพี่เอมและแม่มากกว่า ให้พี่เอมขายตัวซะอีก เพราะพี่เป็นคนทำให้ครอบครัวของดรีมฉิบหาย ต้องตกยากกลายเป็นคนจนแทนที่จะเสวยสุขเหมือนก่อน แต่พี่เตยก็ไม่ได้ทำอะไรที่จะแสดงให้ดรีมเห็นเลยว่า พี่เตยสำนึกผิด ไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น ปล่อยให้ทุกสิ่งอย่างตกที่พี่เอมคนเดียว พี่เอมต้องไปขายตัว ขายความสาวเพราะใคร ไม่ใช่เพราะพี่ที่ตอนนั้นไม่สบายหนักถึงขั้นนอนโรงพยาบาล แล้วต้องใช้เงินหลายหมื่นในการรักษา พี่เอมหาเงินไม่ได้จนต้องเอาความสาวเข้าแลกกับเงิน ต้องทนทุกข์ทรมานมาจนถึงทุกวันนี้ ทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว ส่วนพี่เตยทำอะไรได้มากกว่าเป็นช่างสระผม ได้เงินเดือนละไม่กี่พัน ถึงเวลาแล้วที่พี่เตยจะต้องรับผิดชอบในทุกเรื่อง”
น้องสาวตัวดีพูดกระแทกใจศิรินทิพย์เหลือเกิน คำพูดยืดยาวทำให้น้ำตาของเธอไหลรินได้อย่างไม่ยาก หัวใจของเธอรู้สึกห่อเหี่ยวและเสียใจ จนไม่อาจจะกลั่นถ้อยคำโต้ตอบลักษณาวดีได้ เพราะทุกคำพูดที่เธอได้ยิน ล้วนแล้วแต่เป็นความจริงทั้งสิ้น
“ดรีม...พี่”
“ข้อนี้สำคัญมากเลยนะ ถ้าพี่เตยไม่ขายตัวก็เท่ากับว่าพี่เตยเป็นคนเนรคุณคนที่เลี้ยงดูพี่เตยมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ทั้งที่ไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ จะพูดไปขนาดพ่อแม่แท้ๆ ยังไม่ต้องการพี่เตยเลย สำเหนียกในบุญคุณของพ่อกับแม่ของดรีมบ้าง ว่าต้องเสียค่านม ค่าข้าว ค่าเสื้อผ้า ค่านั่นค่านี้ให้พี่ดรีมตั้งเท่าไหร่ ยังไม่หมดนะ วันที่พ่อของดรีมตายมีใครเป็นต้นเหตุ ลองนึกดูสิว่าใครเป็นต้นเหตุทำให้พ่อของดรีมตาย ทำให้กิจการทุกอย่างของพ่อถูกแย่งชิงไปต่อหน้า ใครที่ทำให้ความสุขสบายที่ดรีม พี่เอม และคุณแม่เคยได้รับ เปลี่ยนเป็นความยากจน อดมื้อกินมือ หาเงินตัวเป็นเกลียว ใครล่ะพี่เตย ใครกันที่ทำให้ครอบครัวของดรีมเป็นอย่างนี้ ผิดเหรอที่พี่เตยจะขายตัวตอบแทนข้าวแดงแกงร้อน”
เหมือนเสาเข็มตอกย้ำความรู้สึกผิดเข้าไปจนมิดหัวใจ ศิริน-ทิพย์ จนไม่อาจสลัดหลุดความรู้สึกนั้นให้เคลื่อนไปจากหัวใจและจิตใจได้ ทุกคำพูดของน้องสาวเป็นความจริงทุกอย่าง เธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวของพ่อแม่บุญธรรมต้องกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว
ศักดิ์สิทธิ์และกมลทิพย์ไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆ ของศิรินทิพย์ เมื่อยี่สิบสามปีก่อน ทารกแรกเกิดยังไม่ถึงหนึ่งเดือนถูกพ่อแม่บังเกิดเกล้า นำมาทิ้งไว้หน้าประตูบ้านหลังใหญ่ ฐานะร่ำรวย ศักดิ์สิทธิ์ที่ขับรถกลับบ้านตามปกติ มองเห็นทารกน้อยอยู่หน้าประตู เกิดความเอ็นดูแลสงสารจึงอุ้มร่างของทารกน้อยคนนั้นเข้าไปในบ้าน และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทารกน้อยที่ถูกตั้งชื่อว่า ศิรินทิพย์ก็เป็นสมาชิกใหม่ของบ้าน ถูกเลี้ยงดูไม่ต่างกับลูกในไส้ แล้วเรื่องนี้เธอเองก็รู้มาตั้งแต่จำความได้
ชีวิตครอบครัวดูราบรื่นปกติ จนมาเมื่อสี่ปีก่อนเรื่องไม่ขาดฝันเกิดขึ้น ในคืนนั้นศิรินทิพย์กลับบ้านดึก เนื่องจากมีกิจกรรมที่มหาวิทยาลัย แต่ทว่าเธอบอกกับศักดิ์สิทธิ์ว่าจะกลับเอง ไม่ต้องมารับเพราะช่วงนั้น พ่อบุญธรรมไม่สบาย ศิรินทิพย์ต้องการให้พักผ่อนอยู่กับบ้านมากกว่า
ทว่าความรักที่ศักดิ์สิทธิ์มีต่อลูกสาวคนที่สองนั้นมากกว่าที่จะให้เธอกลับบ้านตามลำพัง ความเป็นห่วงที่มีมากส่งผลให้ศักดิ์สิทธิ์ตัดสินใจเดินทางไปรับศิรินทิพย์หน้ามหาวิทยาลัย เหตุการณ์แลดูจะเป็นปกติเหมือนทุกครั้งที่เขาไปรับลูกสาวคนที่สอง
แต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นเหมือนที่ผ่านมา จังหวะที่ศิรินทิพย์เดินออกมากจากมหาวิทยาลัย เพื่อเดินไปบิดายังรถยนต์ที่จอดห่างจากประตูราวห้าสิบเมตร เธอเดินพ้นประตูมาได้ไม่กี่เมตร ร่างของชายสามคนที่อยู่ในอาการเมาสุราได้ปรี่เข้ามาเธอ พูดจาลวนลามและล้อมหน้าล้อมหลังศิรินทิพย์ ศักดิ์สิทธิ์เห็นดังนั้นจึงลงจากรถก่อนจะเข้าไปห้ามปราม
เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นหนึ่งในชายสามคนที่ตกอยู่ในอาการมึนเมาชักมีดออกมา แล้วจ้วงแทงศักดิ์สิทธิ์หลายครั้ง จนร่างของเขาทรุดลงกับพื้นแล้วไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
หลังจากศักดิ์สิทธิ์เสียชีวิต ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ กิจการของครอบครัวถูกหุ้นส่วนปลอมแปลงเอกสารยึดไปต่อหน้า ไม่เพียงเท่านั้น บ้านและทรัพย์สินอื่นๆ ก็ถูกพี่ชายของศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นคนเห็นแก่ตัวตัวยง โกงสมบัติไปอย่างเลือดเย็น ส่งผลให้กมลทิพย์ สินีนารถ ศิรินทิพย์และลักษณาวดีต้องออกจากบ้านหลังใหญ่ มีทรัพย์สินส่วนตัวเพียงหยิบมือติดมาเท่านั้น
บ้านเช่าคือที่อยู่ใหม่ของศิรินทิพย์และครอบครัว สินีนารถต้องออกจากมหาวิทยาลัย มาทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว คนเป็นแม่ไปซื้อจักรเก่าๆ มาเย็บผ้าโหลช่วยเหลือลูกสาวอีกทางหนึ่ง
ศิรินทิพย์ตัดสินใจออกจากมหาวิทยาลัยที่ตนศึกษาอยู่ เป็นเพราะสถานศึกษาที่ตนร่ำเรียนนั้นเป็นของเอกชน ค่าเล่าเรียนในแต่ละเทอมจึงแพงหูฉี่ เธอไม่ต้องการให้พี่สาวและผู้เป็นแม่เหนื่อยหนักไปกว่านี้ หญิงสาวจึงลงทะเบียนไว้ในมหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่งแทน หางานทำช่วยครอบครัว