11

1180 Words
11 ตกตอนค่ำศิรินทิพย์กับกมลทิพย์เดินทางกลับบ้าน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ห้องผู้ป่วยวิกฤตบอกว่าหมดเวลาเยี่ยม อาการของสินีนารถยังคงต้องอยู่ดูอาการในห้องดังกล่าวอีกวันสองวัน จนกว่าจะแน่ใจว่าอาการของเธอจะดีขึ้น ศิรินทิพย์จำวินาทีแรกที่เห็นร่างของพี่สาวนอนอยู่ในห้องวิกฤตได้ดี เธอสงสารสินีนารถจับใจ แล้วยิ่งรู้ถึงสาเหตุของการที่พี่สาวเข้าโรงพยาบาล ยิ่งเพิ่มความสงสารมากขึ้น และมีความสลดหดหู่ใจเข้ามาแทรก ลูกศรเล่าให้ศิรินทิพย์ฟังว่า สินีนารถตัดสินใจรับแขกพร้อมกันสามคน เพื่อให้ได้เงินมากพอจะนำไปให้ลักษณาวดี ลูกศรเล่าต่อไปว่า เธอพยายามห้ามทว่าสินีนารถยังยืนกรานที่จะรับแขกกลุ่มนี้ ด้วยเหตุผลเดิมที่กล่าวมา หลังจากที่สินีนารถออกไปกับแขกทั้งสามราย อีกสองชั่วโมงกว่าๆ ต่อมา ชายหนึ่งในสามได้โทรศัพท์มาหาเจ๊หวี เพื่อบอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แทนที่ชายทั้งสามจะพาสินีนารถ สาวผู้น่าสงสารไปโรงพยาบาลตามที่เจ๊หวีบอก ชายทั้งสามกลับให้เจ๊หวีเป็นคนพาไปเอง โดยบอกชื่อโรงแรมและหมายเลขห้องที่มีร่างของสินีนารถนอนสลบอยู่ ก่อนจะพากันหลบหนีออกไปจากโรงแรมแห่งนั้น เจ๊หวีกับลูกสรจึงรีบรุดมายังโรงแรมแห่งนั้นทันที อาการของสินีนารถหนักพอสมควร จากการที่ไม่สบายอยู่ก่อนหน้า ทำให้ร่างกายอ่อนแอ อีกทั้งยังถูกชายทั้งสามคนกระทำต่อเธอเยี่ยงผักปลา ตามร่างกายมีรอยช้ำกระจายไปทั่ว บ้างเป็นรอยไรฟันขบกัด บ้างเป็นรอยจ้ำดูด และที่ร้ายไปกว่านั้น ตรงทวารหนักฉีกขาดจากการเสพสมผิดธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา คือสาเหตุของอาการช็อคหมดสติของสินีนารถ คนเป็นแม่หัวใจแทบขาดเมื่อเห็นสภาพของลูกสาวคนโต นางร้องไห้ตัวโยนไม่คิดว่าสินีนารถจะเจอเรื่องร้ายๆ เช่นนี้ นางรู้สึกสงสารสินีนารถจับใจ นึกโทษตัวเองที่เป็นแม่ที่ไม่ดี เป็นเสาหลักให้ครอบครัวแทนสามีที่เสียชีวิตไปเมื่อห้าปีก่อนไม่ได้ สินีนารถจึงมีสภาพและเจอเหตุการณ์ร้ายๆ เช่นนี้ แต่นางไม่รู้หรอกว่า ต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดคือใคร หากรู้นางจำทำเช่นไร จะต่อว่าลูกสาวคนโปรด เข้าข้างลูกสาวผู้น่าสงสาร หรือปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านเลยไป พอสองแม่ลูกก้าวเข้ามาในบ้านต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน เนื่องจากพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลแต่เช้า กมลทิพย์ได้เดินเข้าไปในห้องส่วนตัวที่อยู่ชั้นล่าง ศิรินทิพย์ก้าวขึ้นไปตามบันไดที่ทอดยาวสู่ชั้นบน มุ่งตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง “พี่เตยมาแล้วเหรอ ดรีมรอตั้งนาน” ลักษณาวดีที่รอศิรินทิพย์อยู่ในห้องเอ่ยขึ้น “รอพี่” เจ้าของห้องเลิกคิ้วถาม “รอพี่ทำไมดรีม” “ที่รอเพราะมีเรื่องสำคัญจะพูดด้วย” น้องสาวตัวดีบอกพี่สาว “เรื่องอะไรดรีม” พี่สาวพูดขณะก้าวไปบนเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้ง “ทุกเรื่องที่ดรีมไม่เคยพูดกับพี่” ลักษณาวดีเอ่ยเสียงจริงจัง “ดรีมพูดตรงๆ นะ เวลานี้บ้านของเราขาดเสาหลักของครอบครัว ไม่มีคนหาเงินมาจุนเจือโดยเฉพาะเงินค่าตั๋วคอนเสิร์ตของพี่แจวอนที่ดรีมต้องการพรุ่งนี้ ฉะนั้นพี่เตยจะต้องรับผิดชอบ” “เรื่องเงินกินเงินใช้ในบ้าน พี่ก็พอจะทำแทนพี่เอมได้ ถ้าเราช่วยประหยัด แต่ว่าเงินค่าตั๋วคอนเสิร์ตของดรีม มันมากเกินกว่าที่พี่หาให้ไม่ได้จริงๆ” ศิรินทิพย์เองก็คิดอยู่ว่า นับตั้งแต่บัดนี้เธอคงต้องเป็นหัวหน้าครอบครัวแทนสินีนารถ เพราะไม่รู้ว่าพี่สาวจะฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วยเมื่อไหร่ หากออกจากโรงพยาบาลก็คงต้องพักฟื้นตัวอีกระยะ ซึ่งกะระยะเวลาแล้วก็ร่วมเดือน ซึ่งเธอจะถือว่า เวลาช่วงนี้เป็นช่วงพักผ่อนของสินีนารถ หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยทำงานเพื่อทุกคนในครอบครัวมาหลายปี แล้วช่วงนี้เธอก็จะรับหน้าที่นั้นต่อ หาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ตกเดือนหนึ่งเป็นหลักหมื่น แม้ว่าเงินเดือนของศิรินทิพย์จะน้อยกว่าค่าใช้จ่าย ทว่าเธอก็ไม่ย่อท้อ จะหางานพิเศษทำในช่วงวันหยุดหรือไม่ก็วันไหนเลิกงานเร็ว ศิรินทิพย์ก็จะไปทำงานที่ร้านอาหารโต้รุ่ง ได้เงินมาร้อยสองร้อยก็ยังดี แต่สำหรับเงินค่าตั๋วคอนเสิร์ตของจุนแจวอน เป็นจำนวนเงินมากกว่าที่ศิรินทิพย์จะหามาได้ จะหยิบยืมใคร ใครก็คงไม่ให้ยืมเนื่องจากเงินจำนวนมากขนาดนี้ คงไม่มีใครให้ยืมง่ายๆ ด้วย “ถ้าเตยบอกวิธีหาเงินให้พี่เตยได้ พี่เตยจะยอมทำตามที่เตยบอกหรือเปล่าล่ะ” “วิธีอะไร” พี่สาวถามกลับ “ก็วิธีเดียวกันกับที่พี่เอมทำ ชัดไหม ถ้าไม่ชัดดรีมจะย้ำอีกรอบ พี่เตยก็ไปขายตัวไง” คำพูดของน้องสาวเรียกความตกใจให้คนเป็นพี่อย่างมากมาย ศิรินทิพย์ไม่คิดเลยว่าจะได้ยินคำพูดประโยคจากปากของลักษณาวดี เธอหวังลึกๆ ว่าจะได้ยินคำเห็นอกเห็นใจกับอาการป่วยของสินีนารถ เธอคิดว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้น่าจะทำให้ลักษณาวดีคิดอะไรได้มากขึ้น แต่เปล่าเลย น้องสาวของตนยังคิดและต้องการในสิ่งที่ตัวเองปรารถนาเช่นเคย โดยไม่สนใจว่าใครจะรู้สึกเช่นไร “ดรีมอยากได้งินไปซื้อตั๋วคอนเสิร์ตมากขนาดนั้นเลยเหรอ มากเสียจนจะให้พี่ไปขายตัว” ศิรินทิพย์ถามเสียงเบา ในหัวใจเต็มไปด้วยความเสียใจ น้อยใจและผิดหวัง “ใช่ มากถึงมากที่สุดด้วย” น้องสาวตอบอย่างไม่ลังเล คนเป็นพี่ถึงกับสะอึก ศิลปินคนนี้มีดีอะไร เหตุใดลักษณาวดีถึงได้เห้นจุนแจวอนดีกว่าครอบครัวของตนเอง บังคับได้ก็จะบังคับ ข่มขู่ได้ก็ยินดีจะทำ ขอเพียงให้ได้มาในสิ่งที่ตนต้องการ “ดรีม” พี่สาวมองหน้าเจ้าขอคำตอบเมื่อครู่เสียงเบา น้ำตาหยดไหล “แล้วที่ดรีมจะให้พี่ไปขายตัว ไม่ใช่เพราะว่าต้องการเงินไปซื้อตั๋วเท่านั้นนะ ยังมีปัจจัยอื่นอีกด้วย พี่เตยลองคิดดูว่าตอนนี้พี่เอมไม่สบาย ต้องพักรักษาตัวที่โรง’ บาลนานแค่ไหนก็ยังไม่รู้ ไหนจะค่ากิน ค่าเช่าบ้าน ค่าเรียนของดรีม ค่ายาของแม่ แล้วยังมีค่ารักษาตัวของพี่เอมอีก มันใช้เงินทั้งนั้น พี่เอมทำงานไม่ได้ พี่เตยทำแทนมันก็ถูกแล้วไม่ใช่เหรอ” ลักษณาวดีร่ายต่อไป หาเหตุและผลต่างๆ มาพูดกับพี่สาว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD