5
“มันก็จริงของดรีมนะ พี่แจวอนไม่ชอบใส่สร้อย แล้วฉันจะสั่งเตี่ยให้ทำจี้ทำไมเนี่ย”
เจนวิภาบ่นอุบ ทำไมเธอถึงลืมคิดข้อนี้ไปได้ ลืมคิดสนิทว่าจุนแจวอนไม่ชอบใส่สร้อย แล้วจะใส่จี้ที่เธอให้เป็นของขวัญวันเกิดได้อย่างไร
“ช่างมันเถอะ พี่แจวอนคงรู้ว่าเราให้ด้วยใจ จะใช้ไม่ใช้ก็ว่ากันอีกเรื่อง” ยลดาคิดว่า ของขวัญที่ผู้ให้มอบให้ผู้รับล้วนแล้วมาจากใจ คนให้รู้ คนรับก็รู้ แค่นั้นเป็นพอ
“จริงอย่างที่ดาพูด ฉันให้จี้นั่นแหละไม่เปลี่ยนใจเพราะฉันให้ด้วยใจ” เจนวิภาตัดสินใจให้ของขวัญจุนแจวอนเป็นจี้ทองคำฝังเพชรเช่นเดิม
“ฉันลืมบอกพวกเธอไปข้อนึง พวกเธอคงยังไม่รู้ว่า ถ้าใครซื้อบัตรวีไอพีจะได้ไปดินเนอร์กับพี่แจวอนด้วยนะ บัตรนี้มีแค่ยี่สิบใบเอง ฉันให้คุณพ่อจองให้แล้ว”
ในการแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้ บิดาของยลดาเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ จึงใช้สิทธิ์นี้จองให้ลูกสาวของตนเอง เพื่อนอีกสองคนตาลุกวาวทันที
“ทำไมเธอเพิ่งมาบอกฉันสองคนล่ะ ฉันจะได้จองด้วย”
เจนวิภาต่อว่าเพื่อนสนิทที่อุบข่าวนี้ไว้ไม่บอกกันล่วงหน้า แล้วอย่างนี้บัตรไม่หมดแล้วหรือ
“นั่นสิ แล้วฉันกับดาจะจองทันหรือเปล่าเนี่ย”
ลักษณาวดีร้อนใจยิ่งนักกลัวไม่ได้บัตรพิเศษนั้น เพราะเธอชื่นชอบจุนแจวอนมากกว่าใครๆ ในกลุ่ม อีกทั้งหากพลาดโอกาสใกล้ชิดศิลปินดังในครั้งนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเมื่อไหร่
“ฉันก็เพิ่งรู้เมื่อคืนนี้เอง คุณพ่อบอกว่าเพิ่งประชุมผู้สนับสนุนงานเสร็จน่ะ ในที่ประชุมลงความเห็นกันว่า น่าจะจัดงานปาร์ตี้เล็กๆ ระหว่างพี่แจวอนกับแฟนคลับ ก็เลยมีบัตรนี้ขึ้นมา ราคามันก็ไม่เท่าไหร่ สองหมื่นเท่านั้นเอง”
ราคาตั๋วที่หลุดออกมาจากปากของยลดา เรียกความตกใจให้กับลัษณาวดีเป็นอย่างมาก เพราะราคานั้นสูงมากสำหรับคนฐานะเช่นเธอ แต่ทว่ามันก็ไม่ยากเกินไปไม่ใช่หรือที่จะหาเงินจำนวนนี้
“งั้นเธอคงต้องใช้อภิสิทธิ์ของลูกสาวผู้สนับสนุนรายใหญ่ เอาตั๋วให้ฉันใบนึง” เจนวิภาบอกยลดา ก่อนจะหันมาทางเพื่อนสนิทอีกคน “ดรีม เธอจะเอาตั๋วด้วยหรือเปล่า”
“เอาสิ ไม่เอาได้ไงล่ะ” ลักษณาวดีตอบทันควัน ไม่สนใจราคาตั๋วแพงหูฉี่
“เธอรีบโทรไปบอกพ่อเธอเลยภา ว่าฉันกับดรีมเอาตั๋ววีไอพีคนล่ะใบ” ลูกสาวเจ้าของร้านทองที่ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน สั่งยลดาที่หยิบมือถือโทรหาบิดาทันที
“คุณพ่อบอกไม่มีปัญหา เพราะยังไม่ได้แจ้งให้แฟนคลับรู้ คุณพ่อบอกว่าจะบอกตอนขายตั๋ววันสุดท้าย” ยลดาบอกผลเพื่อนสนิททั้งสอง
“โอเค ถ้าอย่างนั้นฉันจะโอนเงินออนไลน์ให้เธอเลยก็แล้วกัน”
เจนวิภาบอกเพื่อน หยิบโทรศัพท์มือถือของตนขึ้นมา ก่อนจะลงมือโอนเงินผ่านอินเตอร์เน็ตกับธนาคารที่ผูกบัญชีเอาไว้ ไม่กี่อึดใจ การโอนเงินก็เสร็จสิ้น
“วันจันทร์ฉันเอามาให้นะ พอดีว่าวันนี้ฉันไม่ได้เอาเอทีเอ็มมา แล้วเสาร์อาทิตย์นี้ฉันต้องไปบินไปเชียงรายคงไม่สะดวกโอนเงินให้เธอน่ะดา”
สองเพื่อนสนิทเข้าใจว่า ลักษณาวดีเป็นลูกสาวของนักธุรกิจชาวไทยที่ไปตั้งรกรากอยู่ในประเทศสิงคโปร์ตามที่อีกฝ่ายบอก แล้วสาเหตุที่เธอกลับมาเมืองไทยเพื่อศึกษาต่อในรั้วมหาวิทยาลัยเป็นเพราะต้องการอยู่ใกล้มารดาที่แยกกันอยู่กับบิดาตั้งแต่เล็ก พอเรียนจบก็จะเดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศอังกฤษในระดับชั้นปริญญาโท
เรื่องที่อยู่อาศัยของลักษณาวดีก็เป็นอีกเรื่องที่เธอปั้นแต่งให้สวยหรูว่า บิดาได้ซื้อคอนโดชุดสุดหรูให้อยู่อาศัย โดยราคาค่าห้องราวสิบห้าล้านบาท ทั้งนี้ตั้งแต่คบกันมายลดากับเจนวิภาไม่เคยไปคอนโดของเพื่อนเลยสักครั้ง เพราะทุกครั้งที่จะไปลักษณาวดีจะเหตุมาอ้างเสมอ
“เธอจะไปเชียงรายทำไมดรีม” ยลดาถามเพื่อน
“คุณแม่จะซื้อที่ที่เชียงรายน่ะ เลยให้ฉันไปดู” คนจมไม่ลงตอบกลับ
“ซื้อที่ที่เชียงรายเหรอ ซื้อไปทำไม” เจนวิภาอยากรู้ขึ้นมาอีกคน
“ซื้อไปทำรีสอร์ท คุณแม่บอกว่าเอาไว้อยู่ตอนแก่ด้วย ที่นั่นอากาศดี มีภูเขาคุณแม่ของฉันชอบภูเขา” ลักษณาวดีได้ทีพูดโอ้อวด
“ซื้อที่ไหนล่ะ คุณพ่อของฉันก็มีที่ดินที่เชียงรายเหมือนกันนะ มีตั้งพันกว่าไร่แน่ะ เผื่อว่าที่ที่คุณแม่เธอจะซื้อจะอยู่ใกล้ๆ กับที่ดินของคุณพ่อ”
ยลดาที่ร่ำรวยเงินทองและทรัพย์สมบัติตัวจริงเสียงจริงพูดขึ้น และนั่นทำให้ลักษณาวดีถึงกับไปไม่เป็น เนื่องจากไม่ได้นึกสถานที่ที่จะไปดูที่ดินเอาไว้
“คุณแม่ยังไม่ได้บอกรายละเอียดฉัน บอกแค่ว่าอยู่ที่แม่สาย ท่านจะบอกฉันวันนี้จ้ะ” แต่เธอก็เอาตัวรอดไปได้อย่างหวุดหวิด
“ถ้าเป็นแม่สายก็คนละที่กับที่ดินของคุณพ่อ”
“เอาเถอะจะอยู่ที่ไหนก็ช่างอย่าไปสนใจเลย ฉันว่าวันนี้เราไปร้านคุณหงส์ดีกว่านะ เมื่อวานคุณหงส์โทรมาหาฉัน บอกว่าเสื้อผ้าลอตใหม่จะเข้าวันนี้ พวกเราไปสอยกันคนละสองสามชุดดีกว่านะ” เจนวิภาละความสนใจเรื่องที่ดินผืนนั้น เพราะมีเรื่องอื่นที่น่าสนใจมากกว่า
“แล้วก็เพิ่งมาบอกนะยัยเจน น่าจะบอกตั้งนานแล้ว” ยลดานักช็อปมือหนึ่งไม่เป็นสองรองใครบ่นเพื่อนบ้าง “ไปกันเถอะเดี๋ยวไม่ทันคนอื่น”
“โอเค งั้นดรีมไปกันเจนนะ แล้วไปเจอกันที่ร้านเลยนะดา”
“ตามนั้นเลยเพื่อน”
เมื่อนัดหมายกันเสร็จ สามสาวจึงลุกขึ้นแล้วพากันเดินออกไปจากคณะ เพื่อเดินทางต่อไปยังร้ายของคุณหงส์ ร้านขายเสื้อผ้าในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแถวสยาม เป็นร้านที่นำเข้าเสื้อผ้าแบรนด์เนมจากทุกมุมโลก แน่นอนที่ราคาเสื้อผ้าจะแพงตามยี่ห้อของแต่ละชุด
มีอีกเรื่องที่ลักษณาวดีปดเพื่อน เรื่องนั้นก็คือเรื่องรถยนต์ เธอไม่มีรถยนต์ใช้เหมือนกับเจนวิภาและยลดา จะไปไหนมาไหนเธอจะอาศัยรถยนต์ของเพื่อนเสมอ อ้างว่าไม่อยากขับรถอีกเพราะตอนที่อยู่สิงคโปร์ เธอขับรถชนคนเสียชีวิต จึงเป็นภาพติดตาติดใจตามหลอกหลอนเรื่อยมาและขยาดในการขับรถไปโดยปริยาย
การเดินทางจึงอาศัยแท็กซี่และรถไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่ และไม่ยอมให้เพื่อนไปส่งที่คอนโดทุกกรณี เนื่องจากกลัวความแตก พอสังสรรค์ตามประสาเพื่อนเสร็จ ลักษณาวดีจะบอกเพื่อนทั้งสองว่า กลับบ้านเองได้ ไม่ต้องการรบกวนใคร
การสร้างภาพของลักษณาวดีเปรียบเสมือนละครฉากใหญ่ เป็นละครที่ต้องเดินเรื่องอยู่ตลอดเวลา ไม่มีที่สิ้นสุด จนกว่าเธอจะยอมรับฐานะของตนเอง ยอมรับในสิ่งที่ตนเป็น
ซึ่งมันยากนักที่ลักษณาวดีจะยอมรับตัวเองได้