9

1174 Words
“นี่คุณ ทำไมต้องตอบยั่วด้วยคะ” จาคอบไม่เข้าใจว่าบัวบุษยาเกลียดอะไรเขานักหนา แต่ว่าเขาไม่ได้เกลียดเธอเลย ตรงกันข้ามกลับรู้สึกว่าเธอน่าสนใจมากกว่าสาวๆ คนไหนที่เขาเคยรู้จักมา ท่าทางเย่อหยิ่งแต่เขาคิดว่ามันซ่อนความอ่อนหวาน น่ารักอยู่ภายใน ทำให้เขาอยากเรียนรู้เธอให้มากขึ้น พอเป็นแฟนกันจะได้คบกันอย่างราบรื่น พอเห็นเจ้าปลาวาฬจอมแสบ เขาก็เริ่มชอบเด็กขึ้นมาบ้าง ถ้าได้คุณหมอสาวมาเป็นแม่พันธุ์ลูกของเขาจะต้องออกมาหน้าตาดีแน่ บัวบุษยาเดินไปหยิบกล่องโฟมที่เหลืออีกหนึ่งกล่องมาถือไว้แล้วเดินเข้าไปในบ้านแบบไม่สนใจใครอีกคน “พี่หมอปิ้งกุ้งเลยนะจ๊ะ” นาราถาม “ได้เลยนารา พี่เตรียมเตาไว้ให้แล้วนะคะ ปิ้งได้เลยค่ะ” “พี่หมอบัว แล้วคุณเขมล่ะ ว่ายังไง มาด้วยไหม” “เขมบอกว่าจะมาถึงค่ำๆ หน่อยค่ะ” ทั้งหมดเลยไปยืนตรงหน้าเตา แล้วช่วยกันจัดการปิ้งย่างอาหารที่เตรียมมา กระทั่งปิ้งจนเต็มจานแล้ว จึงกลับไปนั่งที่เก้าอี้ “คุณจาคอบคะ กินน้ำจิ้มซีฟู้ดได้ไหมคะ” “ได้ครับ ผมกินได้ทุกอย่าง” บัวบุษยามองเขาแล้วก็นึกสงสารเหมือนกันว่าเขาจะกินอาหารรสจัดได้ไหม แต่เขาเป็นฝ่ายเลือกที่จะมาเองก็ต้องกินให้ได้ “แล้ววันนี้ลูกน้องไปไหนหมดล่ะคะ” นารายังถามต่อ “วันนี้ผมให้เขาหยุดพักร้อนกันหนึ่งวันครับ เกรงใจเจ้าของบ้านถ้าผมจะพาลูกน้องมาด้วย เดี๋ยวเขาจะคิดว่าพวกผมเป็นโจรพาลูกน้องมาปล้น” “โอ้โห ใครจะกล้าคิดแบบนั้นกับคุณจาคอบคะ” เธอได้ยินจากแม่ว่าเขารวยมาก จาคอบเดินไปใกล้หมอคนสวย “ที่จริงบ้านคุณหมอก็น่าปล้นนะครับ แต่ไม่ใช่ทรัพย์สิน...หมอรู้ใช่ไหมครับผมอยากมาปล้นอะไร...” บัวบุษยาแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน ยิ่งเธอทำเมินเขาก็ยิ่งอยากพูดด้วย “ผมให้เดา” “ไม่ค่ะ ไร้สาระ” “เจ้าของบ้านท้าทายอย่างนี้น่าปีนข้ามกำแพงมาปล้นใจจริง” “ไปปล้นบ้านอื่นเถอะค่ะ” นาราที่ย่างกุ้งอยู่เงยหน้ามาคุยเป็นพักๆ “คุณจาคอบชอบบ้านไหมคะ” “ชอบครับ ชอบมาก แต่ที่ชอบกว่าบ้าน ก็คือเพื่อนบ้านครับ ถ้าตัดสินใจขายอย่าลืมบอกผมนะครับ” “ถ้าแม่ตัดสินใจขายจะรีบบอกนะคะ แต่ขอถามหน่อยค่ะ ทำไมถึงอยากได้บ้านหลังนี้คะ จาคอบอมยิ้มพลางปรายตามองไปยังคนตัวเล็กที่นั่งข้างๆ ตลอดการสนทนาบัวบุษยาไม่เคยคุยกับเขาเลย หากแต่นั่นยิ่งทำให้เขาอยากยั่วให้เธอตบะแตก “ผมชอบสิ่งแวดล้อมครับ บ้านดี เพื่อนบ้านสวย” “อะไรนะคะ” “บ้านสวย เพื่อนบ้านก็ดีครับ” จาคอบรีบแก้ทำให้นาราหัวเราะ เพราะคิดว่าจาคอบใช้ภาษาไทยผิดเนื่องจากยังไม่ชิน ผิดกับบัวบุษยาที่รู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา เธอไม่คิดว่าเขาพูดผิด และยังเชื่อด้วยว่าเขาพูดถึงเธอ บัวบุษยาไม่ได้เข้าข้างตัวเองว่าสวย แต่ว่าสายตาคู่คมที่มองมาอย่างเปิดเผยต่างหากที่ทำให้เธอมั่นใจว่าเขาพาดพิงถึง ซึ่งไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรถึงพูดไปแบบนั้น แต่บัวบุษยาไม่ชอบเลย “แต่ถึงแม่ของนาราจะยอมขายบ้านให้คุณจาคอบแล้วคุณซื้อได้หรือคะ ในเมื่อคุณเป็นชาวต่างชาติ” “ซื้อได้สิครับ ผมกำลังหาภรรยาชาวไทยอยู่ครับ” นาราฟังแล้วแทบจะกรีดร้อง นี่ถ้าเกิดเธอไม่ได้หมายตาใครเอาไว้ “ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ” “ผมก็ขอตัวไปห้องน้ำด้วยครับ” จาคอบเอ่ยขึ้น แล้วลุกขึ้นยืดกายเต็มความสูง บัวบุษยาหันไปมองอีกฝ่ายด้วยแววตาสงสัย “คุณจะเข้าห้องน้ำหรือคะ” “ใช่ครับ ทำไมหรือครับ” บัวบุษยาไม่อยากให้งานกร่อย ทั้งที่สงสัยว่าเขาต้องมาอยากเข้าห้องน้ำอะไรตอนนี้พร้อมกับเธอ “ไม่มีอะไรค่ะ งั้นก็เชิญ” “ห้องน้ำอยู่ทางไหน นำทางให้ผมได้ไหมครับ” “ตามฉันมาค่ะ” บัวบุษยาบอกเสียงกระด้าง หงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก การที่มีคนตัวสูงเข้ามาวนเวียนอยู่ใกล้ทำให้เธอไม่เป็นตัวของตัวเองเลย พวกมาเฟียนี่มีบุคลิกข่มให้เธอรู้สึกว่าตัวเองเล็กลงและตื่นตระหนกอยู่ตลอดเวลา บัวบุษยาเดินนำเขาเข้าไปในบ้านแล้ว แต่ว่าคนตัวโตกลับเอ่ยขึ้นเสียงไม่ดังไม่เบาที่ด้านหลังของเธอ “ผมทำอะไรให้คุณหมอไม่พอใจก็บอกได้นะครับ ผมเห็นคุณหมอทำหน้าเหมือนเบื่อผม” “ไม่ใช่สักหน่อยค่ะ ไหนว่าอยากเข้าห้องน้ำก็เชิญสิคะ ห้องน้ำอยู่ทางนี้” เธอชี้มือไปที่ห้องน้ำ แล้วจะหมุนตัวเดินหนี บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเพราะอะไรถึงไม่กล้าสู้หน้าเขา ตอนเขาถามว่าไม่พอใจอะไรก็ไม่สามารถตอบเขาได้ เหมือนรู้สึกใจเต้นแรงไปหมด ถ้าจะบอกว่าไม่พอใจอะไรก็น่าจะไม่พอใจตัวเองมากกว่าที่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร บัวบุษยาเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกมือหนาคว้าข้อมือไว้ หญิงสาวจึงหันมามองเขาด้วยสายตาขุ่นขวาง “ปล่อยมือฉันค่ะ อย่าทำรุ่มร่ามแบบนี้ ฉันไม่ชอบ” “ผมไม่ปล่อยจนกว่าคุณหมอจะบอกว่าไม่พอใจอะไรผม ผมเป็นคนไม่ชอบอะไรค้างคา โดยเฉพาะเรื่องความรู้สึก” “ไหนว่าจะเข้าห้องน้ำไงคะ นู่นห้องน้ำไปเข้าสิคะ” “แล้วคุณหมอล่ะครับ ไหนว่าจะเข้าห้องน้ำ” “ฉันไม่เข้าแล้ว จะออกไปที่โต๊ะอาหารแทนค่ะ” บัวบุษยาบอกแล้วหรี่ตามองไปที่ข้อมือของตัวเองที่ยังถูกยึดไว้ แต่คนตัวโตทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แล้วดึงร่างบางให้ขยับเข้ามาใกล้ ด้วยความแข็งแรงของร่างกายที่แตกต่างกันเมื่อเขาออกแรงดึงเพียงนิดเดียว บัวบุษยาก็ปลิวหวือเข้าไปในอ้อมอกแกร่ง ทันทีที่ปะทะกับแผ่นอกกว้างแข็งแรง ดวงตาคู่หวานก็เบิกกว้าง ใช้มือคั่นกลางระหว่างตัวเองกับคนตัวโตแล้วพยายามดันร่างออก “ปล่อยนะ” “ไม่ปล่อยจนกว่าหมอจะเปิดปากบอกว่าไม่พอใจอะไร” “ปล่อยฉันสิ” บัวบุษยาไม่ยอมพูดและยิ่งไม่พอใจเมื่อเขาไม่ยอมปล่อย ร่างบางดิ้นรนในอ้อมแขนแกร่งที่ยิ่งรัดแน่นเหมือนงูที่รัดเหยื่อ บัวบุษยาหยุดดิ้น เงยหน้ามองเขาอย่างขุ่นเคือง “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ คุณกำลังทำให้ฉันหมดความอดทน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD