ปราบครั้งที่ 8

3638 Words
[ซ่า] "อืม...ซ่า เบาๆ" ไม่มีเบาแล้วครั้งนี้ ไม่ได้นอนกับพลอยมาหลายวัน ผมที่เก็บกดไม่มีที่ระบายอารมณ์ ช่วยตัวเองมันไม่เท่าเอากับเมียหรอก "พลอย อ่า" ใกล้แล้วอีกนิดเดียว และผมว่าพลอยเองก็คิดเช่นเดียวกันเพราะสองขาที่เกาะเกี่ยวรัดเอวผมไว้แน่น และแรงเล็บที่จิกลงบนไหล่ ได้เลือดแน่ แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้ขอให้ได้น้ำก่อน จากนั้นก็เสร็จสมอารมณ์หมาย วันนี้ผมเลิกเรียนเร็ว และไม่มีงานต้องไปทำ เลยรอเวลาพลอยเลิกเรียนแล้วไปรับมาที่บ้านพี่แนน ทุกคนในบ้านผมรู้จักพลอยกันหมด และผมก็พาพลอยไปนอนค้างที่บ้างบ้างสองสามครั้ง แต่นี้เป็นครั้งแรกที่ผมพาพลอยมาที่บ้านพี่แนน ผมนอนกอดพลอยเล่นอยู่สักพักก็เผลอหลับไป สะดุ้งตื่นตกใจกันทั้งคู่เพราะมีคนมาเคาะห้อง ผมลุกขึ้นงงๆ หันซ้ายหันขวามองหาผ้าเช็ดตัวมาพันเอวลวกๆ ส่วนพลอยก็กระโดดลงจากเตียงหาเสื้อผ้ามาใส่ ผมรอจนพลอยแต่งตัวเสร็จถึงได้เปิดประตู “ทำไรวะซ่า ทำไมเปิดช้า” พี่แนนบ่นหน้านิ่ว “นอนอยู่ มีอะไรอะ” ผมหาวพลางถาม มือก็เกาพุงแกรกๆ “เปล่า ตื่นแล้วก็ลงไปข้างล่างด้วย” พี่แนนบอกแล้วก็ลงบันไดไป ผมยืนเกาหัวงงๆ ก่อนจะหันไปหาพลอยที่แต่งตัวเสร็จแล้ว ผมเลยเดินออกจากห้องไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำข้างนอก ก่อนจะพาเดินลงไปข้างล่าง ตอนนี้ทุ่มหนึ่งแล้ว ทั้งพี่แนนและพี่เบิร์ดกลับมาแล้ว ผมยกมือไหว้ เขามองผมก่อนจะไล่ไปมองแนน ดวงตาที่เรียบเฉยก็ฉายแววไม่พอใจ กูว่าคราวหน้าพาพลอยมานอนเล่นที่บ้านไม่ได้แน่ๆ มื้อเย็นพลอยนั่งกินข้าวด้วย พี่แนนไม่ได้ว่าอะไรเพราะรู้อยู่แล้ว แต่พี่เบิร์ดแทบไม่พูดไม่จาเลยผมเองก็เงียบ มีเพียงพลอยกับพี่แนนที่คุยกันสองคนตามประสาผู้หญิง ไม่มีเรื่องอะไรมาก กินข้าวเสร็จผมก็ขี้มอเตอร์ไซค์ไปส่งพลอยกลับบ้าน รถน้ำมันหมดตอนขับเข้ามาได้ครึ่งซอย ก็เลยตองเข็นกลับเข้าบ้าน ก็ได้ยินเสียงพี่เบิร์ดกับพี่แนนกำลังเถียงกัน “แล้วงานบ้านก็ต้องช่วยกันทำบ้างไหม ต้องช่วยล้างรถ รดน้ำต้นไม้ ซักผ้าบ้าง นี่กลับมาก็พาผู้หญิงมานอนบ้าน มันใช้ได้เหรอวะ” “จะบ่นอะไรนักหนาวะพี่เบิร์ด” “บอกลูกแนนด้วย ว่าคราวหลังอย่าพาผู้หญิงมานอนที่บ้าน อย่าทำเหมือนเป็นโรงแรม” “รู้แล้ว เดี๋ยวบอกเองน่า” “ไฟเฟยน้ำก็ช่วยกันประหยัด คืนก่อนพี่เห็นเปิดไฟทิ้งไว้ทั้งคืน รู้ไหมมันเปลืองเงิน” ผมจอดรถในบ้านอย่างเงียบเฉียบ ก่อนจะเดินออกจากบ้านไม่ส่งเสียงให้ใครรู้ เดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงหน้าปากซอย ผมโบกรถสองแถมแล้วนั่งรถตรงไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นไอ้นุ๊กโทรมาพอดี ผมก็เลยรับสาย “ไอ้พัช มึงอยู่ไหนวะ” น้ำเสียงของมันค่อนข้างจริงจังผิดกับนิสัยเฮฮาที่แท้จริง “ข้างนอก” ผมตอบสั้นๆ “มึงมาที่ร้านแก้วนมเดี๋ยวนี้เลย ไอ้เหี้ย เมียมึงออกมาแดกนมกับผู้ชายที่ไหนไม่รู้” ผมนิ่งเมื่อมันพูด มองออกไปนอกรถที่กำลังมุงตรงไปทางร้านที่ว่า ผมพยายามทำใจให้สงบเพราะตอนนี้ผมรู้สึกตื้อไปหมด “มึงอยู่แถวนั้นเหรอวะ แล้วพลอยไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง” ผมถามไอ้นุ๊ก ถามว่าในใจร้อนรนไหม ร้อนมาก แต่ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ถูก ผมไปส่งพลอยถึงหน้าประตูบ้าน แล้วทำไมถึงออกมาอยู่ข้างนอกได้ “มึงนี่ถามโง่ๆนะไอ้พัช “เออ กูออกมาซื้อนมสดให้พี่สาว ก็เจอแจ็คพ็อตเลย มึงรีบมาเลยนะ ก่อนที่เขาจะแดกกันเสร็จ” “เออ อีกห้านาทีกูถึง” ผมกดวางสาย มือที่กำโทรศัพท์อยู่บีบแน่น ผมมาช้าไปนิดหน่อยจากที่บอกเพราะรถติดไฟแดงนาน พอถึงรถสองแถวก็มาจอดหน้าร้านนมที่ว่า ผมเห็นไอ้นุ๊กเป็นคนแรก เพราะมันยืนชะเง้อคอมองอยู่นอกร้าน “ไหนพลอย” ผมเดินไปถามไอนุ๊กประชิดตัว มันสะดุ้งหันมามองผมหน้าตื่น “ไอเหี้ย ไม่มาให้เร็วกว่านี้วะ เมียมึงขึ้นรถเก๋งออกไปนู่นแล้วแม่ง” ไอ้นุ๊กดูหัวเสียมาก ผมมองไปตามทางที่ว่าแต่ไม่เห็นอะไรแล้ว เลยหันกลับมามองหน้าไอ้นุ๊ก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาพลอย แต่โทรไปแล้วพลอยไม่รับ ผมโทรอยู่ประมาณสามสายก็เลิกโทร เลยส่งขอความไปถามแทนว่าทำไมไม่รับโทรศัพท์ “มึงโกหกกูหรือเปล่าไอ้นุ๊ก” เพื่อนๆผมอยากให้ผมเลิกกับพลอยทั้งนั้น แต่ผมยังทำไม่ได้ หรือบางทีอาจเป็นเพราะว่าตัวผมเองไม่คิดจะทำ ไอ้นุ๊กหน้าบึ้งทันควัน “กูดูเป็นคนชอบโกหกหรือไง” ไม่ ไอ้นุ๊กเป็นคนที่เล่ห์เหลี่ยมน้อยที่สุดแล้ว แถมมันยังโกหกไม่เนียนด้วย “ใครจะไปรู้วะ พวกมึงอยากให้กูเลิกกับพลอยจะตาย” ผมไม่กล้าสบตามัน แสร้งเดินเข้าไปหาโต๊ะนั่งในร้าน ไอ้นุ๊กเดินตามหลังมานั่งข้างๆ “ถึงกูจะไม่ชอบพลอย แต่ก็ไม่คิดจะทำอย่างที่มึงพูดหรอกไอ้พัช ไอ้เหี้ย ขอโทษกูเดี๋ยวนี้” “อืมกูขอโทษ กูก็ไม่ได้คิดว่ามึงทำแบบนั้นจริงๆหรอก พูดไปงั้นแหละ” ทำผิดก็ยอมรับไป แมนๆครับ ผมสั่งนมร้อนกับขนมปังปิ้งมากินกันแก้เซ็งนิดหน่อย ผมออกมานานไม่ได้บอกพี่แนนด้วย เขาก็ไม่ได้โทรมาตามผมก็เลยปล่อยเลยตามเลย “มึงไม่หาเมียใหม่วะ” ไอ้นุ๊กจิ้มขนมปังปิ้งเข้าปาก พออารมณ์ดีขึ้นมาถึงได้อ้าปากพูดอีกครั้ง “ไม่เอา ขี้เกียจหาใหม่ เนี่ยแหละดีแล้ว” ผมตอบแบบที่พูดทุกครั้ง “ดียังไงวะ กูเห็นมันไม่ให้เกียรติมึงเลย แถมแอบคุยกับพูดชายคนอื่นลับหลังมึง นี่ก็แอบมากันสองต่อสอง ได้ข่าวว่าเมื่อเย็นก็ไปกลับมึง” “กูก็ไม่ได้ดี” “ไอ้พัช มึงจะรักจะหลงอะไรมันนักหนา นี่กูจริงจังนะเว้ยที่พูดน่ะ” ไอ้นุ๊กเริ่มขึนเสียงอีกรอบ “เอ้า แฟนกูนี่” “ไอ้เหี้ย! กูมีเพื่อนแบบมึงได้ยังไงวะ” “กูรักมัน พอใจยัง” “แล้วมันรักมึงไหมละ ลืมตาบ้าง กูเพลียแทน” “ช่างแม่งเถอะ” “เออ อย่าให้กูเห็นว่าร้องไห้มาหากูนะมึง จะตบให้คว่ำ” ถ้ามีวันนั้นจริง ผมก็ยอมให้มันตบอะ เพราะกูจะถือว่าโง่เอง แต่ในวันนี้ผมยังพอใจที่จะอยู่แบบนี้ และอย่างที่บอกว่ายังจับไม่ได้คาหนังคาเขาผมจะยังไม่เอาเรื่อง ไว้จะๆเมื่อไหร่ ต้องมีใครสักคนที่เจ็บตัว สำหรับผมสอบปฏิบัติไม่ยากเท่าไหร่ ผมชอบอยู่แล้วเรื่องเครื่องยนต์ แต่ข้อสอบเขียนผมขอลาตาย ไม่รอดจริงๆ “กูกลับล่ะ ไม่ไหว ง่วงเหี้ยๆ” ไอ้นุ๊กพูดในสภาพที่ตาพร้อมจะปิดได้ทุกเมื่อ “กูด้วย ไปล่ะ” ไอ้หวายก็ยอมแพ้ พวกผมเดินออกไปหน้าวิทยาลัย ตกลงกันว่าต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน แล้วค่อยมาเจอกันพรุ่งนี้เพราะเป็นวันเสาร์ วันจันทร์ยังเหลือสอบอีกวันหนึ่ง ที่มาเจอกันไม่ได้จะมาอ่านหนังสืออะไรหรอกนะ ไม่มีหรอกอะไรพวกนั้น ก็แค่นัดกันที่บ้านไอ้กานกินเหล้าแก้เครียดกันสักหน่อย “อ้าวเฮีย มาได้ไงอะ” ไอ้หวายทักบุคคลที่ยืนหล่อเท่ดูดีอวดสายตาสายๆอยู่หน้าวิทยาลัย “หวัดดีครับพี่” พวกผมที่เหลือก็ยกมือไหว้ “สอบเป็นไงบ้างพวกมึง” พี่ปราบถามรวมๆ แต่สายตาเขาจ้องมองอยู่ที่ผม ผมเลยยิ้มให้พี่ปราบนิดๆ “ทำไมเฮียรู้อะ” ไอ้หวายถาม “แล้วทำไมกูรู้ไม่ได้อะ” พี่ปราบย้อน “ก็เปล่า” “แล้วพี่มาทำอะไรที่นี่อะครับ อย่าบอกนะว่ามาจีบสาวๆโรงเรียนผม” ไอ้กานเข้าไปกระแซะไหล่พี่ปราบทำหน้ากรุ้มกริ้ม หัวมันสูงแค่ไหล่พี่เขาเอง สะเออะมาก “หึหึ คงงั้นมั้ง” พี่ปราบแม่งก็ดันเล่นด้วย “หูยๆๆ คนไหนพี่ มีด้วยเหรอวะคนสวยๆ อะ ผมอยู่มายังไม่เห็นเจอเลย” ไอ้กานรีบทำหน้าแตกตื่นมองหาคนสวยอย่างที่ปากว่าด้วยท่าทางกวนส้นตีน พี่ปราบหลุดขำไปกับคามตลกของมัน “กูแวะมาหาไอ้กี่เลยแวะมาที่นี่” “แล้วแวะมาทำไม” ไอ้หวายยังไม่หยุดซักฟอก ทำตัวเยี่ยงเมียจิกผัว ไอ้นุ๊กกับไอ้ตูนมันเลยขอลากลับไปก่อน เหลือไอ้กาน ที่ยืนทำหน้าสล่อนและผมที่ก็ไม่รู้ว่ายืนทำไม แต่ผมรู้สึกว่า...พี่ปราบน่าจะมาหาผม ก็ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่เมื่อคืนเขาเป็นคนบอกว่า ‘ตั้งใจสอบให้เต็มที่ ถ้าทำดีจะมีรางวัล’ แต่ไอ้รางวัลอะไรนั้นผมคงไม่ได้หรอก คะแนนสอบในวันนี้อาจจะไม่ผ่านครึ่งด้วยซ้ำมั้ง “เป็นเมียกูเหรอ” พี่ปราบยื่นหน้าเข้าไปใกล้หน้าไอ้หวาย มันรีบผละออกห่างทันที “เล่นไรของเฮียเนี่ย แล้วเมียเมออะไร ผมแค่สงสัย” “หึหึ กูมาหาไอ้...พัช จบไหม” พี่ปราบชะงักตอนจะเอ่ยชื่อผม คราวนี้ไอ้หวายกับไอ้กานหันมามองหน้าผมอย่างรวดเร็ว ผมไม่ได้ตกใจอะไรเพราะคิดไว้อยู่แล้ว “แหล่วๆๆๆ มึงกิ๊กกั๊กกับเฮียเขาเหรอวะน้องพัช กูจะฟ้องพลอยเมียมึงน้า” ไอ้หวายทำหน้าล้อเลียนผมเต็มที่ พี่ปราบแม่งก็หัวเราะตามด้วย “กิ๊กกั๊กพ่อมึงสิไอ้กาน ไปไกลๆเลยไป กลับไปเลยมึง” ผมไล่มัน ไม่ชอบถูกแซวเท่าไหร่ “ว๊ายย เขินเหรอจ๊ะน้องพัช” “ไอ้เหี้ยกาน” ผมด่าแล้วก็ไล่เตะมันให้รีบกระโดดขึ้นรถสองแถวกลับบ้าน มันเกือบจะตกรถเพราะจังหวะก้าวเท้ายาวไม่พอ “สนิทกันเหรอถึงมาหากันด้วย” ไอ้นี่ก็ไม่ยอมเลิกราง่ายๆ “แล้วทำไมกูกับพัชจะสนิทกันไม่ได้ครับน้องหวาย ทีมึงกับไอ้กี่ยังสนิทกันถึงขนาดไปนอนข้างอ้างแรมบ้านมันแทบจะคืนเว้นคืนอยู่แล้ว” พี่ปราบสวนหน้าตากวนบาทาเป็นอย่างมาก เป็นตาไอ้หวายที่หน้าแดงแปร๊ด ผมไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เฮียปราบกับไอ้หวายพูดกันสักเท่าไหร่ แต่ว่าการได้เห็นไอ้หวายที่ปกติปากดีไปไม่เป็นก็สะดีเหมือนกัน “เฮียกี่บอกเหรอ” หน้ามึงเหรอหราไปนะบางที “ก็กูเพื่อนกัน” “จิ๊ ผมไม่พูดกับเฮียแล้ว กลับดีกว่า กูกลับแล้วนะไอ้พัช” ไอ้หวายเหมือนจะลืมเรื่องที่กำลังสงสัยไปเสียสนิท มันยกมือไหว้พี่ปราบแล้วบอกลาผม จากนั้นมันก็เดินไปเรียกวินมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน “มาหาผมมีอะไรอะพี่” ผมถามเข้าเรื่องเมื่ออยู่กันสองคน “ขึ้นรถสิ” พี่ปราบเปิดประตูรถข้างคนขับให้ผมขึ้นไปนั่ง แปลกๆนิดหน่อยที่มีผู้ชายมาเปิดประตูรถให้ขึ้น แต่อย่าไปคิดอะไรมาก พี่ปราบมันยืนอยู่ใกล้ประตูพอดีก็เลยใจดีเปิดให้ “วันนี้เป็นไง ทำข้อสอบได้ไหม” พี่ปราบหันมาถาม เย็นๆ แบบนี้รถติดนิดหน่อย แต่ก็พอไหลๆ เคลื่อนๆ ไปได้ “ได้ทำ” “ทำไม่ได้สินะ” “ก็มันยากอะพี่” “มันยากหรือมึงไม่พยายามซ่า” คราวนี้เสียงดุมาเลยครับ ความจริงที่พี่ปราบพูดทำเอาผมนิ่งไม่รู้จะพูดแก้ตัวอะไรดี “ช่างมันเถอะพี่ ตกก็ซ่อม ไม่เห็นยาก” ผมพูดปัดๆให้มันจบ แต่พี่ปราบไม่ยอมจบด้วย “ช่างมันไม่ได้ ไม่ใช่ตกก็ซ่อม มึงต้องทำให้มันไม่ตก มึงควรต้องสอบให้ได้คะแนนดี” “ก็มันยาก” ผมพยายามเถียงแม้จะรู้ว่ามันไม่เข้าท่า “มันไม่ยากเกินความพยายามหรอกซ่า” “เอาน่าพี่” พี่ปราบถอนหายใจเฮือกใหญ่ใส่ผม ผมรู้ตัวดีว่าผมมันคนดื้อด้านไม่เอาไหน ไม่มีใครอยากจะใส่ใจหรืออะไรกับคนอย่างผมหรอก ชินเสียแล้ว สันดานผมมันเสียแก้ไขไม่ได้ ผมมองออกไปข้างนอกรถเพลินๆ พี่ปราบไม่ได้ขับรถเร็วเพราะรถเยอะ เขาขับชิดซ้ายแล้วไหลไปเรื่อยๆ ตอนเย็นคนเดินเท้าเริ่มเยอะขึ้น ผมมองดูคนนั้นทีคนนี้ทีจนกระทั่งสบเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งที่คุ้นหน้าคุ้นตาและเป็นคนที่ผมรัก “พลอย...” คิ้วผมขมวดเข้าหากันเมื่อสังเกตเห็นว่าข้างๆพลอยคือผู้ชายในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงขายาวสีดำ เป็นคนต่างไว มากกว่านั้นคือมือที่จับกันไว้ ผมเปิดประตูเตรียมจะลงจากรถโดยไม่สนใจว่ารถจะกำลังแล่นอยู่หรือไม่ แต่ประตูถูกล็อคเอาไว้ และเมื่อผมกำลังจะกดปลดพี่ปราบก็กระชากแขนผมอย่างแรง “มึงจะทำอะไรซ่า!” พี่ปราบตะคอกใส่ผมเสียงดัง “พี่ปล่อยผม ผมจะลงไปหาพลอย มันอยู่กับผู้ชายคนอื่น!” ผมหันไปตะวาดเสียงใส่พี่ปราบเพราะความร้อนรนใจ “กูไม่ปล่อย รถยังแล่นอยู่มึงจะลงไปมึงบ้าเหรอไง” พี่ปราบตะคอกกับ มือข้างหนึ่งเอื้อมมากระชากคอผมไว้อย่างแน่น อีกข้างก็บังคับพวงมาลัยด้วยความยากลำบาก แต่ผมไม่ได้สนใจตอนนั้น สายตาผมพยายามที่จะมองดูว่าตอนนี้พลอยกับไอ้ผู้ชายคนนั้นเดินไปที่ไหนแล้ว “พี่ปราบ จอดรถเดี๋ยวนี้ ผมจะลง” “กูจอดให้มึงแน่ ผ่านสี่แยกนี้กูจะจอดให้มึงลงเลยซ่า แต่ช่วยอยู่บ้าก่อนไอ้เหี้ยนี้” พี่ปราบด่าผมยกใหญ่ ผมดึงตัวเองกลับมานั่งไม่ยอมถูกล็อคคอเอาไว้ ผมมองไม่เห็นแล้วว่าแฟนผมเดินหายไปไหน พอพ้นสี่แยกได้พี่ปราบก็หักรถเข้าจอดที่ข้างทาง ผมรีบเปิดประตูลงจากรถแล้ววิ่งข้ามถนนฝ่ารถที่ยังคงวิ่งไปมาด้วยความเร่งรีบเพื่อที่จะตามพลอยให้เจอ แต่ผมก็หาไม่เจอ จุดที่ผมเห็นห่างออกไปอีกเป็นกิโลเมตรผมวิ่งดูจนทั่วแต่ก็ไม่เจอ ผมเหมือนคนบ้าที่ทุกคนพากันขยับตัวออกห่าง หัวใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็น ตอนตีกับพวกต่างสถาบันเลือดสาดปางตายผมยังไม่รู้สึกกลัวเช่นนี้เลย “มึงจะมีคนอื่นไม่ได้ กูไม่ยอม” ผมกัดฟันพูดในขณะที่พยายามมองหาตัวตนเหตุที่ทำให้ผมวิ่งพล่านเป็นหมาบ้า มากกว่าเงินทองที่ผมจะให้พลอยได้ คือผมให้ใจผมไปทั้งใจ ไม่เคยให้ใครมาสำคัญกว่ามัน เพราะฉะนั้นผมจะไม่ยอมเสียพลอยไป “ไง หายบ้าหรือยังมึง” ความเย็นแตะที่ข้างแก้ม ผมนั่งพักเหนื่อยที่ป้ายรถเมล์ใกล้ๆจุดที่ผมเห็นพลอย พี่ปราบมายืนหน้าเข้มจ้องผมเอาเป็นเอาตาย ผมไม่ตอบอะไร รับน้ำขวดมาดื่มรวดเดียวหมดขวดจนเกือบจะสำลัก “หาเจอไหมแฟนมึงกับชู้อะ” “ไม่เจอ” ผมตอบเสียงห้วน กำลังอารมณ์ไม่ดี “ไม่เจอก็กลับไปขึ้นรถ สภาพมึงตอนนี้ดูไม่ได้เลย” พี่ปราบไม่ได้พูดเกินจริง ร่างกายผมเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เสื้อผ้าหลุดลุ่ยและสีหน้าก็ดูไม่ได้สุดๆ “ผมไม่ไปกับพี่แล้วนะ ผมจะไปรอพลอยที่บ้าน” ผมบอกกับพี่ปราบเมื่อเขาหมุนตัวจะเดินกลับไปที่รถ พี่ปราบนิ่งไปก่อนจะหันกลับมาหาผมที่ยังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม “กูจะพาไปส่ง ไปขึ้นรถ” “ไม่เป็นไรพี่ ผมไปเองได้” “อย่าดื้อกับกู กูไม่ชอบ ไปขึ้นรถ” ผมนิ่งชั่งใจคิด ถ้าพี่ปราบไปส่งก็ไม่เปลืองเงินดี ผมถอยหายใจแล้วยอมทำตามที่พี่ปราบต้องการ “ก็ได้ครับ” พี่ปราบเดินนำผมกลับไปที่รถ ที่ย้ายที่จอดไกลไปอีกหน่อย เพราะจุดที่พี่ปราบจอดให้ผมลงมันจอดไม่ได้ ผมก้มหน้ามองรองเท้าเน่าๆของตัวเองแล้วจมจ่ออยู่กับความคิดเรื่องพลอยแบบไม่รู้ตัว จึงเดินชนแผ่นหลังพี่ปราบเข้าอย่างจัง “มึงนี่อาการหนัก ขึ้นรถไป” พี่ปราบหันมาดุผมน้ำเสียงหงุดหงิด ผมขึ้นมานั่งในรถ แล้วพี่ปราบก็ตามขึ้นมานั่งฝั่งคนขับ พี่แต่ยังไม่สตาร์ตรถ มือที่จับพวงมาลัยไว้เกร็งแน่น ผมรู้ว่าพี่ปราบกำลังอารมณ์ไม่ดีและต้นเหตุก็คือผม แต่พี่ปราบก็เก็บอารมณ์ได้ดีเมื่อเทียบกับผม วันนี้ผมทำตัวแย่ใส่พี่ปราบหลายครั้ง และผมรู้ว่าผมควรจะต้องขอโทษเขา “พี่ปราบ ผมขอโทษนะที่เมื่อกี้ทำแบบนั้น” “อืม” พี่ปราบหันมาสบตาผมแวบหนึ่งก่อนจะดึงหน้ากลับ “มึงแน่ใจว่าจะไปบ้านแฟนมึง” “อืม ผมจะไปถามว่าผู้ชายที่ผมเห็นมันเป็นใคร” “ถ้าแฟนมึงมีชู้ มันจะยอมรับกับมึงเหรอ” พี่ปราบย้อนถาม “ก็ไม่” “เออ ยังดีที่ฉลาด” พี่ปราบชม แต่ผมรู้สึกว่าถูกด่าอยู่กลายๆ “แต่ถ้าไม่ไปหาไม่ถามผมก็ข้องใจอะพี่ คืนนี้นอนไม่หลับแน่ๆ ไปเคลียร์เลยดีกว่า” พี่ปราบถอนหายใจแรงๆใส่ผม เอียงตัวหันมาถามผมทั้งตัว และเขาทำให้ผมตกใจเมื่อมือสองข้างของพี่ปราบประคองแก้มผมเอาไว้ทั้งสองข้าง ทำบ้าอะไรของพี่เขาวะ ผมกำลังจะดึงมือพี่ปราบออก แต่คำพูดต่อมาของเขาทำให้ผมได้แต่วางมือทับมือเขาเอาไว้ “ทุ่มเทกับอนาคตของมึงให้เท่ากับที่มึงทุ่มเทให้แฟนมึงหน่อยเถอะ แล้วชีวิตมึงจะดีกว่านี้ รักตัวเองให้มากกว่าที่รักคนอื่น ทำได้ไหม” แววตาพี่ปราบที่จ้องมาเต็มไปด้วยความจริงจัง จ้องลึกอย่างต้องการสำรวจความรู้สึกนึกคิดของผม “วิ่งตามหาอนาคตที่ดีของมึงให้ได้เท่ากับที่มึงตามหาผู้หญิงคนนั้นอย่างบ้าคลั่ง” “ผมไม่มีหรอก อนาคตที่ดีน่ะ” ผมหลบสายตาที่แสนจะมุ่งมั่นของพี่ปราบ ผมสู้สายตาเขาไม่ได้ ผมไม่แข็งแกร่งพอในเวลานี้ “มึงมี แต่มึงต้องหา” ทุกคำพูดเสียงดังและฟังชัดทุกถ้อยคำ “...” “มึงโตพอที่จะเข้าใจในสิ่งที่กูสอน ไม่ใช่ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา ไม่เอาห่าอะไรทั้งนั้น ใครหน้าไหนก็ทนความดื้อด้านของมึงไม่ได้หรอก” “ทนไม่ได้ก็ไม่ต้องทนสิ” ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ ไม่หวังให้ใครอีกคนได้ยิน “แต่โชคดีของมึงที่กูเป็นคนที่มีความอดทนสูงมาก ดังนั้น กูจะเคี่ยวเข็ญมึงเอง” “อะไรพี่” “วันนี้กูจะปล่อยเด็กดื้ออย่างมึงไปก่อน ไปหาแฟนมึง ไปทำห่าอะไรก็ได้ แต่วันพรุ่งนี้ กูจะมารับมึงไปที่คอนโด เตรียมหนังสือเรียนมึงไปให้พร้อมล่ะ ถ้าวิชาที่เหลือมึงไม่ได้คะแนนมากว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นกูจะไม่ยุ่งกับชีวิตมึงอีกเลย” “จริงจังไปไหมพี่” จากที่เครียดเรื่องพลอย ผมเริ่มจะเครียดให้กับความจริงจังของพี่ปราบที่มีต่อผมแทน “กูจริงจังได้มากกว่านี้” “...” “กูหวังดีกับมึงเพราะกูถูกชะตาด้วย มึงเป็นน้องที่กูชอบและรู้สึกดีด้วย เพราะฉะนั้นอย่างทำให้กูต้องผิดหวัง สัญญาว่าจะเป็นเด็กดีกับกู ฟังในสิ่งที่กูพูดและกูจะฟังในสิ่งที่หัวใจมึงร้องขอ” พี่ปราบปล่อยหมัดฮุกเข้าหน้าผมอย่างจังด้วยคำพูดของเขา ความจริงใจของพี่ปราบทำให้ผมรู้สึกตื้นตันจนกลัว กลัวว่าผมจะทำให้พี่ชายคนนี้ต้องเสียความรู้สึกหากว่าผมไม่สามารถทำได้อย่างที่เขาหวัง ผมจะทำได้ไหม อย่าให้ผมต้องรับปากตอนนี้เลย ดีไม่ดีผมอาจจะกลายเป็นคนผิดสัญญาเอาได้ ซึ่งผมไม่อยากเป็นแบบนั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD