เธอตะโกนถามด้วยตาแดงๆ “สองปี...เราแต่งงานกันมาสองปี คุณไม่คิดบ้างหรือว่าพันธะบ้าๆ นี่มันควรจบลงได้แล้ว ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ ไม่อยากอยู่บ้านหลังนี้ ไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณ ดังนั้น...ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปสักที”
แม้แต่คำแทนตัวที่อ่อนน้อมเธอยังโยนมันทิ้ง
ท่าทางสั่นเทิ้มแล้วพร่ำพูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการออกมาจนยืดยาวนั้น ไม่ได้ทำให้สีหน้าหรือแววตาของเชษฐ์เปลี่ยนไปเลยสักนิด
เขามองราวกับเธอเป็นความว่างเปล่า
“ที่พูดมาทั้งหมดนี้ หมายความว่าเธอต้องการฐานะเมียตามพฤตินัยด้วยอย่างนั้นสิ”
เขาจับปลายคางมนให้แหงนเงยขึ้น กวาดสายตาพิจารณาใบหน้าเล็กๆ ขาวๆ แล้วก็ตาโตๆ ที่ไม่มีอะไรสะดุดตานิ่งนาน
“แต่เสียใจด้วยนะ เพราะไม่ว่าจะมองยังไง ผู้หญิงอย่างเธอฉันก็เอาไม่ลงจริงๆ ดังนั้นถ้าไม่อยากทรมานไปมากกว่านี้ละก็ นั่งชูคออยู่ในตำแหน่งเมียตามกฎหมายต่อไป อย่าคิดเอาใบหย่ามาให้ฉันเห็นอีก เพราะถ้าฉันอยากเห็น...ฉันจะเป็นฝ่ายเอามันมาเอง” บอกแค่นั้นก็ผลักปลายคางแหลมเล็กของพิมาลาออก แถมยังไปหยิบกระดาษทิชชูบนโต๊ะมาเช็ดมือ แสดงท่าทีราวกับรังเกียจนักหนา
ท่าทีของเขาทำเอาพิมาลามองอย่างเจ็บปวด แต่เธอจะพูดอะไรได้ ในเมื่อการพยายามขอหย่าในครั้งแรกล้มเหลวแบบนี้ สิ่งที่ทำได้คงมีเพียงกลับไปขอร้องอ้อนวอนขอคนที่มีอำนาจเหนือกว่าเขาเท่านั้น
เสียงทะเลาะกันในห้องหนังสือของบ้านรอง ไม่ได้พลาดสายตาของคนบ้านใหญ่เลยสักนิด ตอนนี้คุณมนฤดีกับคุณเชิดผู้เป็นพ่อแม่กำลังนั่งฟังรายงานจากเด็กรับใช้ในบ้านอย่างอุ้มที่ส่งไปดูแลคู่สามีภรรยาตั้งแต่แต่งงานกัน ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายเมื่อฟังจบก็ได้แต่ไล่คนเล่าออกไป
ภายในห้องจึงเหลือสองสามีเจ้าของบ้านที่เอาแต่ทอดถอนใจ
“ฉันถามจริงๆ เถอะ ลูกชายของคุณไม่ได้ชอบผู้ชายด้วยกันหรอกใช่ไหม” คุณมนฤดีเริ่มบทสนทนาทันที “หนูเพียงก็ออกจะน่ารักขนาดนั้น ทำไมแต่งงานกันมาสองปียังไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก”
“คุณมน”
เชิดเรียกภรรยา “เจ้าเชษฐ์มันเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณนะ ผมบอกแล้วไงว่าอย่าให้หนูเพียงแต่งงานกับเจ้าเชษฐ์ แต่คุณก็ไม่เคยฟังผม ความตั้งใจของผมตั้งแต่แรกก็คือส่งหนูเพียงไปเรียนต่างประเทศ ไม่ใช่ให้มาถูกขังคุกอยู่ที่นี่”
“ก็ฉันชอบหนูเพียงนี่ อยากได้เป็นลูกสะใภ้”
“แล้วไง ลูกชายของคุณมันอยากได้เหมือนคุณไหม”
“คุณเชิด”
เจอเมียตะคอก คนเป็นสามีก็ได้แต่เอนหลังอย่างหมดแรง “ผมว่านะ ในเมื่อหนูเพียงอยากหย่า เราก็ยอมให้ทั้งคู่หย่ากันเถอะ ผมเองก็ไม่อยากทำร้ายหนูเพียงไปมากกว่านี้ คิดซะว่าเรามีวาสนาได้หนูเพียงเป็นลูกสะใภ้แค่นี้ก็แล้วกัน เราอย่าทำร้ายชีวิตวัยสาวของหนูเพียงอีกเลย”
“แต่ฉัน...”
“คุณรักหนูเพียงไม่ใช่หรือ ในเมื่อรักแกเหมือนลูกสาว คุณก็ปล่อยแกเถอะ อย่าให้ความรักความต้องการของเราทำร้ายแกอีกเลย”
ดวงตาของคนเป็นเมียรื้นขึ้นด้วยน้ำอุ่นร้อน “นี่ฉันทำร้ายหนูเพียงมานานขนาดนี้เลยหรือคะ”
เชิดได้แต่ตบหลังมือของเมียรักเบาๆ “ในเมื่อเราทำดีที่สุดแล้ว แต่ลูกเราไม่ต้องการ เราก็อย่าฝืนอีกเลยนะ ค่ำนี้คุณไปคุยกับหนูเพียงเถอะ เดี๋ยวผมจะไปคุยกับเจ้าเชษฐ์เอง”
คุณมนฤดีพยักหน้าเชื่อฟังสามี พลางขยับมือเช็ดน้ำตาทิ้ง แต่ความเสียใจคงมีมากเกินไปน้ำตาถึงได้ไหลอาบแก้มไม่หยุด แต่สุดท้ายแล้วพอพระอาทิตย์ตกดิน นางก็เดินมาหาลูกสะใภ้ที่บ้านหลังรองทันที พอเห็นสภาพเหม่อลอยของพิมาลากับสีหน้าหดหู่ทำเอานางต้องดึงลูกสะใภ้มากอดไว้แน่น
“หนูเพียง”
“คุณป้าขา...”
พิมาลากอดเอวแม่สามีแน่น ใบหน้านั้นแนบซบกับอกท่านอย่างหวังพึ่งพิง ตั้งแต่แต่งงานกับคุณเชษฐ์เธอไม่เคยเรียกคุณมนฤดีว่าแม่ นั่นเพราะรู้ว่าสามีตามกฎหมายไม่ชอบให้เธอเรียกพ่อแม่เขา และก็ไม่ชอบที่เห็นเธอในบ้านหลังนี้ จึงอยู่อย่างเจียมตัวมาโดยตลอด แต่วันที่ใจกล้าขออิสรภาพจากเขา...เขากลับตีแสกหน้าอย่างเจ็บปวด
“คุณป้าขา...” ผละจากอกของคุณมนฤดีได้ พิมาลาก็ลงจากโซฟาไปนั่งคุกเข่าพนมมือสั่นๆ อ้อนวอน “คุณป้าได้โปรดปล่อยเพียงไปเถอะนะคะ เพียงทนไม่ไหวแล้วค่ะ ไม่อยากใช้ชีวิตแบบนี้อีกแล้ว”
“เพียงลูก...หนูเพียงของป้า”
“ได้โปรดบอกคุณเชษฐ์ให้หย่ากับเพียงเถอะนะคะ เพียงสัญญา...เพียงจะไม่เอาอะไรไปเลย แล้วก็จะเก็บเรื่องหย่าไว้เป็นความลับด้วย เพียงจะพยายามรักษาชื่อเสียงหน้าตาของตระกูลคุณป้าเอาไว้ เพียง...”
คุณมนฤดีได้แต่ดึงตัวลูกสะใภ้เข้ามากอด “โธ่...หนูเพียงของป้า สองปีมานี้คงทุกข์ทรมานมากเลยใช่ไหมลูก ดูสิ ป้าจำไม่ได้แล้วว่าหนูเพียงของป้ายิ้มครั้งสุดท้ายเมื่อไร ทุกครั้งที่ป้าพบหนูก็มักจะเศร้าซึมแบบนี้เสมอ” มืออบอุ่นนั้นลูบผมนุ่มสลวยของคนซุกอยู่กับตักเบาๆ เมื่อพิมาลาเงยหน้าขึ้นก็ได้แต่เช็ดน้ำตาให้
“ลูกชายของป้าทำให้หนูทรมานมากใช่ไหมลูก”
หญิงสาวเอาแต่ส่ายหน้าไปมา “เปล่าค่ะ คุณเชษฐ์ไม่เคยทำร้ายเพียง ทั้งคำพูด ทั้งการกระทำไม่มีเลยค่ะ แต่ว่า...ในเมื่อเพียงกับคุณเชษฐ์ไม่ได้รักกัน เราสองคนไม่เคยมีอะไรกัน เดือนๆ หนึ่งก็แทบไม่พบหน้าไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ เพียงบอกคุณป้าตามตรงนะคะ เพียงไม่ต้องการชีวิตแบบนี้ เพียงรู้ว่าไม่ใช่แค่หนูที่ทรมาน คุณเชษฐ์เองก็คงเป็นทุกข์เช่นกัน ทุกข์ใจที่แต่งงานกับเพียง...เพียงอยากให้คุณเชษฐ์ได้แต่งงาน ได้ใช้ชีวิตกับผู้หญิงที่รัก ไม่ใช่แต่งงานกับผู้หญิงที่เป็นกาฝากอย่างเพียง ฉะนั้น...คุณป้าให้คุณเชษฐ์กับเพียงได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการเถอะนะคะ”