C H A P T E R 3
ขวัญกลับมาที่ห้องอาหาร ทุกคนมองด้วยความตกใจที่ข้างกายของเธอมีผู้ชายคนหนึ่งมายืนเกาะแกะอยู่ อาตี๋ชี้นิ้วที่สวมแหวนซ้อนกันสองวงมาที่ภูมิ มืออีกข้างวางตะเกียบลงแล้วยกน้ำชาขึ้นดื่มไล่อาหารที่มีอยู่เต็มปากให้ไหลลงคอไปทั้งที่ยังเคี้ยวไม่ละเอียดดี แถมยังพยายามจะพูดอะไรสักอย่างออกมา
สำลักแน่…นั่นไงล่ะกูว่าแล้ว ภูมินึกในใจก่อนจะหันมองหน้าขวัญเป็นเชิงถามว่าไอ้คนที่กำลังชี้นิ้วสั่น ๆ มาทางเขาแถมยังไอแค่ก ๆ สำลักอาหารอยู่นั้นเป็นใคร ใช่คนที่แม่เธอหามาให้หรือเปล่า
“ลูกชายของเพื่อนแม่” ขวัญตอบแล้วเริ่มแนะนำทีละคน เริ่มตั้งแต่พ่อแม่พี่ชายพี่สาวพี่เขยและพี่สะใภ้ของเธอ แล้วย้ายไปแนะนำครอบครัวของเพื่อนแม่
“ทุกคนคะ…นี่ภูมิ” ขวัญเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงฉะฉานให้เข้าใจตรงกันแบบที่ไม่ต้องอธิบายเพิ่ม “แฟนขวัญเองค่า และเราก็จะแต่งงานกันแล้วค่ะ”
หญิงสาวเอียงศีรษะซบที่ต้นแขนแกร่งของคนที่เธอกำลังควงแขนอยู่ ภูมิยิ้มจนตาหยี ทั้งสองแสดงออกว่ารักกันมากจนคนอื่นถึงกับช็อก คนที่ช็อกมากสุดน่าจะเป็นอาตี๋คนนั้น เขาหายสำลักแล้ว ตอนนี้กำลังเบะปากทำหน้าเหมือนเด็กอดได้ของเล่น หันไปกระจองงอแงกับพ่อแม่อย่างกับคนเสียสติ
แม่ขวัญมองอาตี๋แล้วไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรก่อนดี จะรู้สึกผิดที่ลูกสาวมาประกาศว่ามีแฟน หรือจะโล่งใจที่ลูกสาวจะไม่ต้องมีสามีแบบนี้ เพื่อนชมแล้วชมอีกว่าลูกชายทั้งหล่อทั้งเท่ทั้งเอาการเอางาน แต่ดูตอนนี้แล้ว…ไม่น่าใช่
“นั่งข้างขวัญเลยภูมิ” ขิมเอ่ยออกมา อีกทั้งยังย้ายตัวเองไปนั่งเก้าอี้ว่างข้าง ๆ พ่อ
ภูมินั่งลงตามที่ขิมบอก บริกรนำชุดถ้วยช้อนตะเกียบมาให้ใหม่หนึ่งชุดสำหรับภูมิ พร้อมทั้งถามถึงเครื่องดื่ม เขาไม่ถนัดดื่มชา เลยตัดสินใจเอาเป็นเก็กฮวยขอฟองเยอะ ๆ สิ้นเสียงเขาสีข้างก็ถูกกระทุ้งด้วยศอกแหลมของขวัญ
“ตลกแล้ว เขางงกันหมด” ขวัญว่า แล้วบอกบริกรให้เองว่าของอีตานี่รับเป็นเก็กฮวย
“ภูมิทำงานอะไร” พ่อขุนถามโดยที่สายตาจับจ้องหน้าอีกฝ่ายไม่วางตา คล้ายกับว่าจะวางท่าให้ภูมิเกรง
ทว่า…
“ไม่ได้ทำครับ” ภูมิตอบมาหน้าตาเฉย ถ้าเป็นคนอื่นมันต้องหน้าซีดเซียวคิดหาคำพูดดี ๆ มาพูด นี่มันดันบอกไม่ได้ทำ แล้วมันเอาอะไรกิน
“ผมเกาะพ่อกินอยู่ครับ พ่อรวย” ภูมิพูดอย่างกับรู้ว่าชายวัยกลางคนท่านนี้คิดอะไรอยู่ เขาฉีกยิ้มกว้างภูมิใจในความร่ำรวยของพ่อที่สามารถส่งเงินให้เขาผลาญเล่นได้ตั้งหลายปี
“แล้วจะพากันไปเกาะพ่อกินเหรอ” แม่แขกลุ้มใจนัก อาตี๋ลูกเพื่อนก็ท่าทางติ๊งต๊อง ภูมิท่าทางสุขุมแต่พอพูดออกมากลับกวนโอ๊ยแถมยังไม่ทำงาน ไม่ยกลูกสาวให้ใครเลยน่าจะดีกว่า
“เดี๋ยวผมจะทำงานครับ”
“ทำงานอะไร” เขตพี่ชายของขวัญเอ่ยถาม ตอนแรกเห็นหน้าภูมิแล้วรู้สึกว่าเหมาะกับน้องสาว ตอนนี้ชักไม่เหมาะเสียแล้วสิ
“ขอคิดก่อนครับ”
“เอาน่า…ขวัญก็ไม่ทำงานเหมือนกันนี่” ขวัญพูดยิ้ม ๆ พลางคิดในใจว่าเราสองคนน่ะเหมาะกันแล้ว อย่าหลุดรอดไปเป็นภาระคนอื่นเลย
“เวรละ” เขตเอ่ยออกมาเบา ๆ ไม่ทำงานด้วยกันทั้งคู่แล้วมันจะเอาอะไรประทังชีวิตวะนั่น
“กิน ๆ” พ่อขุนตัดบท ไว้ให้อีกครอบครัวออกไปก่อนค่อยคุยกับลูกสาวและว่าที่ลูกเขยอีกที
ภูมิมองอาหารบนโต๊ะแล้วจับตะเกียบด้วยท่าทางที่ไม่ทะมัดทะแมงสักเท่าไหร่ เขามองฮะเก๋าที่อยู่ตรงกลางโต๊ะ แววตาหมายมั่นว่าเขาจะต้องคีบมันขึ้นมาให้ได้ ส่งมือไปช้า ๆ และจะคีบมันขึ้นมา
“ฮ่า ๆ ๆ ดูท่ามันคีบดิแม่ โคตรตลก” อาตี๋หัวเราะก๊าก ขวัญหันมองหน้าภูมิพยายามส่งสายตาปรามเขาไว้ รู้ดีว่าคนอย่างภูมิไม่ยอมถูกหัวเราะลั่นแบบนี้หรอก
ภูมิเปลี่ยนใจจากฮะเก๋าไปให้ความสนใจกับซาลาเปาทอด เขาทำท่าเหมือนจะคีบมันขึ้นมาแต่ดันดีดไปทางอาตี๋ ทุกคนเบิกตาโพลงด้วยความตกใจที่ซาลาเปาลูกนั้นเข้าปากกว้าง ๆ ของอาตี๋ที่กำลังหัวเราะได้พอดิบพอดี
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ขวัญดูดิ โคตรตลก” ภูมิหัวเราะร่วน ก่อนจะหยุดหัวเราะแล้วยกมุมปากขึ้นยิ้มเยาะ อีกทั้งยังยักคิ้วข้างเดียวให้อาตี๋
“ฮึ่ย! กลับ!” แม่ของอาตี๋ไม่พอใจที่ลูกชายถูกเอาคืนแบบนี้ เธอกระฟัดกระเฟียดดึงสามีและลูกชายให้ลุกขึ้น
“ยังไม่อิ่มเลยแม่” อาตี๋คายซาลาเปาทอดแล้วมองอาหารหลากหลายอย่างด้วยความเสียดาย
“กลับ!” แม่ของเขายังคงยืนยันคำเดิม จึงจำเป็นต้องกลับตามคำสั่ง
“อ้าว แล้วใครจ่ายล่ะเนี่ย” ขิมเอ่ยออกมาเบา ๆ ครอบครัวนั้นบอกจะเลี้ยงแต่ชิ่งกลับก่อนอย่างนี้ก็เท่ากับว่าครอบครัวเธอต้องจ่ายน่ะสิ
“ว่าที่น้องเขยของขิมแกล้งเขาแบบนั้น ใครจะมาจ่ายให้เรากิน” แม่แขส่ายศีรษะช้า ๆ อย่างอ่อนใจ จะว่าไปทางนั้นก็หัวเราะเยาะภูมิก่อน พอโดนเอาคืนกลับโวยวาย เรื่องเพื่อนไว้ทีหลังค่อยไปเคลียร์กันก็ได้ ตอนนี้หันมาเคลียร์กับนางลูกคนนี้ก่อนดีกว่า
“ไหนแกบอกว่าโสด” แม่แขถามขวัญเสียงเข้ม
“ก็ตอนนั้นงอนกันอะแม่ ภูมิมาง้อพร้อมขอแต่งงานหนูก็เลยหายงอน”
“ขอแต่งงาน…ไหนแหวน” แม่มองที่มือโล่ง ๆ ของลูกสาวแล้วถามถึงสิ่งที่ฝ่ายชายมักจะสวมให้ฝ่ายหญิงเมื่อขอแต่งงาน
“ผมไม่ได้เตรียมมาครับ บังเอิญเจอขวัญที่นี่ก็เลยง้อและขอแต่งเลย” ภูมิพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบบวกกับสีหน้านิ่ง ๆ พยายามทำให้ทุกคนเชื่อว่าเขาพูดเรื่องจริง
“แทนที่จะบอกแม่ว่างอนกับแฟนอยู่ แม่จะได้ไม่ต้องนัดกับเพื่อนมา”
“แหะ ๆ ขวัญขอโทษ ขวัญก็ไม่คิดว่าจะได้คืนดีกับภูมิอีก” ดูเหมือนเป็นประโยคโกหก แต่นั่นคือความจริง เธอไม่คิดว่าจะมีวันนี้เหมือนกัน
“แน่ใจนะว่าไม่ได้โกหกพ่อกับแม่” พ่อขุนเอ่ยขึ้นมา เขารู้สึกว่าสองคนนี้ดูไม่เหมือนคู่รักกันจริง ๆ สักเท่าไหร่ ต้องมีอะไรแอบแฝงแน่ ๆ
“แน่ใจดิพ่อ ขวัญจะโกหกเพื่อ?”
“ถ้ารักกันจริง และคิดว่าจะแต่งงานกันอยู่แล้วก็คงดูแลกันได้ใช่ไหม” พ่อถามยิ้ม ๆ เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ขวัญระแวงไม่น้อย
“ครับ ผมดูแลขวัญได้ เดี๋ยวผมจะหางานทำครับ” ภูมิเป็นฝ่ายตอบเอง เขาตอบเสียงหนักแน่นทรงพลังพลางคิดในใจว่า ‘อย่ากินเยอะนะขวัญ ไม่งั้นไม่มีปัญญา’
“ถ้าอย่างนั้นก็จะต้องสร้างครอบครัวกันเองได้โดยที่ไม่รบกวนครอบครัว”
“ได้สิคะพ่อ สบายมาก” ใบหน้าสวยของหญิงสาวยังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่ราวกับไม่วิตกอะไร แม้ในใจลึก ๆ กำลังคิดว่า…
เขาไม่ทำงาน เธอเองก็ไม่ทำงาน แล้วจะเอาอะไรกินวะกู…
ภูมิกลับไปหาครอบครัวเนื่องจากน้องชายโทรตาม ก่อนที่เขาจะออกมาเขาได้นัดแนะกับพ่อแม่ของขวัญไว้ว่าจะไปสู่ขอให้พ่อแม่หาฤกษ์ไว้ก่อนได้เลย และได้นัดกับขวัญว่าจะพาไปหาครอบครัวอีกด้วย
“แกหายหัวไปไหนมา” แม่พรถามเสียงดุ เธอและอดีตสามีแก้ตัวพัลวันกับเพื่อนว่าภูมิติดคุยงาน ดูจากสีหน้าแล้วเพื่อนไม่เชื่อหรอก
“ไปดื่มที่บาร์มา ที่นี่น่าเบื่ออะแม่” ใบหน้ายิ้มแย้มผิดปกติของเขาทำให้น้องชายเชื่อว่าที่เขาหายเงียบไปต้องไปเจออะไรดี ๆ มาแน่นอน
“แกนะแก แม่ให้มาทำความรู้จักกับน้องบีก็ดันทำแบบนี้”
“ผมไม่ได้ชอบแบบนี้ไงแม่”
“แล้วแกชอบแบบไหน”
ภูมินิ่งเงียบไปชั่วขณะ เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าแบบไหนที่เขาชอบ แต่ที่แน่ ๆ “สเปกของผมคือไม่ดมน้ำมันเหลือง”
“ภูมิ!!!” แม่พรหน้าเหวอ ดูไอ้ลูกชายมันพูดเข้าสิ!
ชายหนุ่มสอดมือเข้ากระเป๋ากางเกงทั้งสองข้าง เดินตรงมาที่ลิฟต์สำหรับที่จะออกลานจอดรถด้วยท่าทางสบายใจเฉิบ น้องชายเลยต้องดันหลังแม่ที่ทำหน้าบึ้งตึงไม่พอใจให้ไปหาพี่ชาย เนื่องจากภูมิได้เข้าไปยืนรอในลิฟต์แล้ว
“ไปเจอใครมา” ภีมถามเมื่อกลับมาถึงบ้าน ไม่ต้องห่วงว่าแม่จะได้ยินเพราะส่งแม่ที่คอนโดก่อนแล้ว ส่วนพ่อพลพอถึงบ้านก็รีบวิ่งขึ้นห้องนอน พ่อนั่งบิดไปบิดมาตลอดทาง ไม่ปวดหนักก็ปวดเบาแหละ
“บี”
“ตลก” รู้กันอยู่ว่าถามถึงตอนที่หายไป ไม่ใช่ตอนที่แม่ให้มาดูตัว
“เดี๋ยวก็รู้” ภูมิกระตุกยิ้มแล้วเดินขึ้นห้องนอน ปล่อยให้น้องสงสัยอยู่อย่างนั้น