C H A P T E R 1
‘ถ้าเงินไม่พอใช้ก็กลับบ้านนะขวัญ’
‘ถ้าไม่มีงานทำก็กลับมา’
‘ถ้าหาแฟนไม่ได้ก็บอกแม่นะ แม่จะหาให้ขวัญเอง’
สองประโยคแรกจากปากของพี่ชายและพี่สาวฟังดูชื่นใจไม่น้อย แต่เริ่มสยองขนลุกขนพองก็ตอนที่แม่พูด ไม่รบกวนให้แม่หาให้จะดีที่กว่า เกรงว่าจะได้เพื่อนแม่แทนสามี และอีกอย่าง…ลูกสาวแม่สวยขนาดนี้หาได้ง่าย ๆ สบายมาก…เหรอวะ
ผ่านมากว่าสี่ปีแล้วที่ขวัญออกจากบ้านมาใช้ชีวิตเพียงลำพังในแบบที่ตัวเองชอบ ยังไร้เงาของใครสักคนที่จะแวะเวียนมาเชยชมนาผืนน้อย ๆ ที่มันช่างแห้งแล้งไม่มีฝนตกลงมาให้ชุ่มฉ่ำ
นาน ๆ ทีจะมีสักคนที่เข้ามาคุย แต่แปลกที่ไม่เกินหนึ่งเดือนเขาก็เท!
หนุ่มออฟฟิศมาดเนี้ยบมาจีบแต่พอเขาทักเช้าเธอตอบเที่ยง…พอเขาทักเที่ยง เธอตอบเย็น
หนุ่มลูกเสี้ยวญี่ปุ่นชวนไปออนเซ็น…ฮั่นแน่ หวังดูจิ๊มิละสิ โนจ้ะ ไม่ไป!
หนุ่มนักบิดชวนซิ่งมอไซค์ไปออกทริป…แต่แม่เคยกระซิบว่ามอไซค์น่ะเนื้อหุ้มเหล็กมันอันตราย
หนุ่มสายตี้ชวนไปออกลวดลายส่ายสะบัดในผับ…อันนี้น่าสนใจ แต่ประทานโทษ! หลังพระอาทิตย์ตกดินเป็นเวลาที่นางขวัญคนนี้ต้องปั่นนิยายจ้ะ
ก็แค่นี้…ทำไมเขาเทกันหมดเลย งงมาก
“ขวัญนิยายเรื่องนี้ของมึงนี่จะฆ่าตายห่าหมดเรื่องเลยป้ะ” ฝ้ายพูดถึงนิยายรักที่แฝงแนวฆาตกรรมสืบสวนสอบสวนอะไรเทือก ๆ นั้น เรื่องล่าสุดที่ขวัญกำลังเขียน ตัวละครหลักในเรื่องมีแปดชีวิต อีนางขวัญเขียนให้ตายไปแล้วห้าชีวิต อีกสามที่เหลืออยู่ก็ยังไม่รู้จะรอดหรือเปล่า นางนี่ยิ่งบ้า ๆ นึกอยากให้ตายก็เขียนให้ตายแม่งไปซะ!
ฝ้ายเคยถามขวัญมาครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่ตัวละครที่สองตาย ขวัญบอกว่าด้นสด! วันไหนเบื่อ ๆ ก็ฆ่าตัวละครขำ ๆ อย่างพระเอกนี่ฝ้ายรักมาก พร่ำเพ้ออยู่บ่อย ๆ ว่ามาดเท่เหลือเกิน วันต่อมานางขวัญอัปตอนใหม่ พระเอกก็ตายเป็นรายที่สาม ไม่รู้มันเขียนนิยายรักอย่างไรของมัน พอทวงถามถึงพระเอกว่าจะทำไง มันบอกว่าเดี๋ยวให้ฟื้นใหม่ก็ยังทัน ฟังมันพูดแล้วเหนื่อย ช่างแม่งมันเถอะ!
ครั้นจะเลิกอ่านแม่งซะให้รู้แล้วรู้รอด ขวัญก็ส่งสายตาออดอ้อนเว้าวอนให้อ่านต่อ เผื่อว่าสักวันจะติดมาแรง ปั๊ดโธ่! รายตอนมีคนอ่านตอนละ 5ราย รายแรกคือฝ้าย รายที่สองคืนแมนชั่นเพื่อนสาวประเภทสองและทั้งสองนั้นก็เป็นคนที่ขวัญอ้อนให้มาอ่าน ส่วนอีกสามรายที่เหลือคือเมตตาหรือหลงเข้ามาเจ้าของเรื่องก็ไม่มั่นใจ แล้วอย่างนี้จะเอาอะไรมาติดหน้ามาแรงมิทราบ
“อือฮึ” ขวัญพยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจนักเพราะกำลังดูภาพในมือถือที่เพิ่งถ่ายไป รู้สึกยังไม่เป็นที่น่าพอใจก็ลุกไปถ่ายใหม่แล้วกลับมานั่งที่เดิม
“มึงเขียนนิยายแนวอื่นบ้างได้ป้ะ กูชอบอ่านนิยายรักยี่สิบบวก ไม่ใช่ฆ่ากันเลือดสาดแบบที่มึงเขียน” แมนชั่นพูดพลางเปิดนิยายในแอพลิเคชันสีเขียวขึ้นมา เธอหันหน้าจอสมาร์ตโฟนให้ขวัญดูภาพหน้าปกเรื่องที่กำลังอ่าน “เรื่องนี้แซ่บมากแม่ อ่านแล้วแฉะไปหมด”
น้ำเสียงค่อนไปทางดัดจริตจากปากของแมนชั่นทำให้ขวัญยู่หน้าใส่ ตั้งแต่มีกีก็บอกว่าแฉะทุกสิบนาทีแล้วไหม อย่ามาบอกว่าเพราะอ่านนิยายเลย
“ก็อีนี่มันไม่มีผัว มันจะเขียนได้ยังไง” ฝ้ายว่า ช่างเป็นประโยคที่ทิ่มแทงใจเหลือเกิน เจ็บจี๊ด ๆ ในอกข้างซ้าย
อยากมีอยู่หรอกผัวน่ะ ไม่ได้อยากเก็บซิงไว้ชิงแชมป์ แต่ครั้นจะหาใครสักคนมาขึ้นเตียง มันก็ไม่เหมือนเดินไปสั่งชาเย็นที่ระบุรสชาติแล้วได้ดั่งใจเลยไหมล่ะ มันก็ต้องค่อย ๆ ดูกันไป แต่ก็นะ…ดูไปดูมา อ้าวเฮ้ย! อีขวัญติดปีกเป็นนกบินเล่นเสียงั้นแหละ
วันดีคืนดีนอนปัดแอปหาคู่ยอดฮิต พร้อมระบุชัดว่า FWB , ONS ไหน ๆ ก็หาแฟนไม่ได้ ให้ได้เพื่อนร่วมเตียงก็ยังดี แต่ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วไปทำกรรมอะไรไว้ ถึงได้ไม่มีใครแลขนาดนี้ กะอีแค่ตั้งรูปให้เห็นแค่ดั้งมันแปลกอะไร
นาน ๆ จะโผล่มาแมตช์สักราย เขาดันถามว่าทำจมูกที่ไหนมาครับ? อีขวัญคนนี้งงมาก ลบแอปเถอะ!
“ไม่ต้องมีผัวก็เขียนได้ป้ะ แหม” แมนชั่นเบะปากคว่ำหลังจากที่พูด แต่จู่ ๆ ก็ยิ้มหวาน “หาผัวสิมึง”
“กูก็หาอยู่ทุกวัน แต่มันหาไม่ได้ไงมึง”
“ไปขอผัวป้ะ เดี๋ยวพาไป” ฝ้ายหันมาเลิกคิ้วขึ้นถาม แววตาเป็นประกายคล้ายกับว่าหากไปแล้วต้องได้ผัวแน่ ๆ
“ที่ไหน”
“แถวนี้แหละ”
ยังไม่ทันได้ตั้งตัวและชาเย็นก็ยังเหลือตั้งครึ่งแก้วแต่ฝ้ายก็จะลากไปท่าเดียว ขวัญเลยสะบัดแขนออกแล้วรีบคว้าแก้วชาเย็นหันไปมองเพื่อนตาขุ่น เงินยิ่งน้อย ๆ ชาเย็นราคาครึ่งร้อยจะทิ้งลงได้ไง
มาถึงปลายทางที่หลาย ๆ คนรีวิวไว้ว่าได้แน่ ก่อนที่จะเข้าไปด้านในก็แวะซื้อของบูชากันก่อน ระหว่างนั้นก็มีหนุ่มสาวที่พากันมาแก้บน บ้างก็นำเครื่องประดับสวย ๆ มาวาง บ้างก็รำที่หน้าศาล ลองถามแม่ค้าที่ขายของก็ได้ความว่า ส่วนใหญ่เขาจะบนว่าหากได้คู่ก็จะให้แฟนมารำ
“มึงอ่านคาถาตามป้ายนะแล้วระบุสเปกได้ตามชอบ ว่าแต่มึงชอบแบบไหนอะ” ฝ้ายบอกวิธีขอ และถามถึงสเปกที่ขวัญชอบ ตั้งแต่ที่เป็นเพื่อนกันมาก็ไม่เคยเห็นว่าขวัญจะสนใจใครเป็นพิเศษ คุยแก้เหงาวันสองวันมันก็แผลงฤทธิ์เมินเฉยใส่เขาจนเขาเทกันหมด
“นาทีนี้กูขอแค่มีหำ ใครก็ได้มาขย้ำกูที” ขวัญตอบฝ้ายก่อนจะมองต่ำลงแถวกลางลำตัวแล้วเงยหน้าขึ้นมาแสยะยิ้ม
ความหวังในตอนนี้…ขอให้ได้เสียซิง ก่อนเสียชีวิตก็ตายตาหลับแล้ว
“เสียดายที่กูตัดแล้ว”
“พัก!” ถึงแมนชั่นไม่ตัดก็คงไม่เอามาสอดใส่แน่ ๆ ขืนทำอย่างนั้นฟ้าคงผ่ากันพอดี
ขวัญถือพานสีทองที่มีดอกไม้และของไหว้ต่าง ๆ เดินไปนั่งลงตรงหน้าป้ายคาถาขอพร เธออ่านคาถาเบา ๆ เมื่ออ่านจบก็เงยหน้าขึ้นมองเจ้าแม่ที่อยู่ในชุดไทยสวยสง่าพลางนึกคำที่เพื่อนพูดว่าให้ระบุสเปก สเปกงั้นหรือ? ก็มีอยู่คนเดียวที่เธอเคยถูกใจ และเขาคนนั้นก็มาปรากฏภาพในสมองของเธอตอนนี้…
“มึงเป็นไรวะ ไม่สบายใจอะไรเหรอ” ฝ้ายถามด้วยความเป็นห่วงที่ขวัญเงียบไปหลังจากที่เข้าไปขอพร นึกว่าจะดี๊ด๊านับวันนับเดือนรอมีผัว แต่ดูจากสีหน้าหมองมัวเหมือนคนกำลังไม่อยากเสียตัวมากกว่า
“กูกลัวว่ะ กูกลัวได้ผัวตามที่กูขอ” ก็หน้าคนที่เธอนึกในตอนที่ขอพรมันเป็นคนเดียวกับคนที่ทำให้เธอไม่รู้สึกพิเศษกับใครอีกเลยน่ะสิ ถ้าไอ้บ้านั่นมันโผล่เข้ามาในชีวิตอีกจะทำอย่างไร จะทำหน้าแบบไหน จะคุยอะไร และอีกอย่าง…จะเก็บซ่อนความรู้สึกที่มันยังคงอยู่ได้อย่างไร
“เวรละ เขามีแต่อยากได้ผัวตามที่ขอ” แมนชั่นทำหน้างง ขวัญมันสติเสียหรือเปล่า นี่ถ้าพอมีเวลาว่างสักนิด ก็จะพาไปพบจิตแพทย์อยู่หรอก
ขวัญไหวไหล่เบา ๆ ลอยหน้าลอยตาไม่สนว่าตนทำเพื่อนงงขนาดไหน เดินนำหน้าไปหาอะไรกินเสียเลย…