1.2
“จริงน่ะสิ คราวหลังก็แต่งให้มันมิดชิดกว่านี้หน่อย น้าเป็นห่วงนะรู้ไหม” หมอทิมพูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้นมาเล็กน้อย แต่สำหรับโซดาท่าทางของเขาไม่ได้ดูน่ากลัวสักเท่าไหร่ เพราะมันดูน่ารักน่าแกล้งมากกว่า
“เอ...คุณหมอเป็นห่วง...หรือว่าหึงหนูกันแน่คะ? คิกๆ” โซดาทำหน้าทะเล้นหยอกล้อคุณหมอสุดหล่ออย่างที่ชอบทำเป็นประจำ
“ปะ เป็นห่วงน่ะสิ...แล้วนี่หนูมาเดินห้างคนเดียวเหรอ” หมอทิมรีบเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะกลัวว่าตัวเองจะหน้าเห่อร้อนไปมากกว่านี้
“ใช่ค่ะ คุณหมอล่ะคะ?” เธอถามกลับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“มาคนเดียวน่ะ...เห็นหนังเข้าใหม่ แล้ววันนี้ก็ว่างๆ พอดีเลยว่าจะมาดูแก้เครียด”
“พอดีเลยค่ะ หนูก็มาดูหนังคนเดียวเหมือนกัน ให้หนูไปดูด้วยได้ไหมคะคุณหมอ นั่งดูคนเดียวมันเหงาเกินไป” มือเล็กเอื้อมไปดึงชายเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขา แล้วทำหน้าอ้อนใส่ไปทีหนึ่ง
“ก็เอาสิ น้าไม่ติดอะไรอยู่แล้ว” เขายิ้มอย่างเอ็นดูท่าทางน่ารักของเธอ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปเลือกหนังดูด้วยกัน
@โรงหนัง
ฟุ่บ!
“อุ้ย! ขอโทษค่ะหมอ”
ระหว่างที่นั่งดูหนังด้วยกัน ตอนถึงฉากซอมบี้โผล่ออกมาโซดาตกใจจนสะดุ้งไปกอดแขนหมอทิมเอาไว้แน่น พอรู้สึกตัวว่าทำอะไรลงไปจึงเอ่ยขอโทษเขาเสียงแผ่ว พร้อมรีบปล่อยมือออกจากเขา
“ไม่เป็นไร...น้าไม่ถือ” หมอทิมพูดเสียงสั่น เมื่อครู่ตอนที่เด็กสาวกอดแขนเขาไว้ หน้าอกใหญ่นุ่มนิ่มของเธอเบียดชิดเข้ามาทำเอาเขาขนลุกเกรียวไปทั้งตัว
อย่านะไอ้ทิม...อย่าคิดไปไกล
หนูโซดายังเด็ก...
“กรี๊ดดดดดด!” โซดากรี๊ดลั่นโรงฉากที่ซอมบี้วิ่งไล่เด็กชายตัวเล็ก จึงหันไปกอดแขนล่ำของคุณหมอเสียเต็มแรง
“เอ่อ...ไม่เป็นอะไรนะหนูดา ซอมบี้มันออกไปแล้ว” คุณหมอสุดหล่อทำตัวไม่ถูก เมื่อเต้าใหญ่ของเด็กสาวเบียดชิดกับแขนของเขาอีกครั้ง เขาได้แต่กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ พยายามไม่มองไปที่เธอ เพราะรู้สึกว่าตอนนี้ลำเนื้อยักษ์ของตัวเองกำลังเริ่มขยายใหญ่อยู่ใต้กางเกง
“มันไปแล้วแน่นะ...” เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นทีละข้าง แล้วหันกลับไปดูก็พบว่ามันไปแล้วจริงๆ ถึงโล่งใจ
แม้เธอจะเป็นคนที่ชอบดูหนังผีมาก แต่เธอก็กลัวแล้วก็ร้องกรี๊ดทุกครั้งที่ดู
“อ๊ะ...ขอโทษค่ะคุณหมอ หนูไม่ได้ตั้งใจ”
พอเห็นว่ามือของตัวเองเกาะอยู่ที่แขนของเขาอีกครั้ง เธอก็รีบเอ่ยขอโทษเขาทันที
“ไม่ต้องขอโทษหรอก น้าบอกแล้วว่าน้าไม่ถือ” เขายิ้มอย่างใจดี ทั้งที่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนที่ค่อนข้างหวงเนื้อหวงตัวคนหนึ่ง ไม่ค่อยชอบให้ใครเข้ามาใกล้
แต่พอเป็นหนูโซดา ทุกอย่างมันดูตรงกันข้ามไปเสียหมด...
เขาอยากอยู่ใกล้เธอ อยากพูดคุย ได้ยินเสียงหัวเราะ และรอยยิ้มของเธอในทุกๆ วัน
ตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรกที่คลินิกแล้วเธอยิ้มให้วันนั้น เขาก็คล้ายว่าไม่สามารถละสายตาจากเธอได้เลย
“คุณหมอใจดีจังเลยค่ะ”
โซดายิ้มหวานให้หมอทิม ก่อนจะหยิบป๊อบคอร์นขึ้นมากินแล้วจดจ่อกับการดูหนังต่อ ส่วนคุณหมอก็นั่งเกร็งไปทั้งตัว เพราะยังคงรู้สึกวูบวาบจากกลิ่นหอมและเต้าเนื้อนุ่มนิ่มที่เบียดชิดเมื่อครู่
ตลอดการดูหนัง เขาก็โดนเด็กสาวโผเข้ากอดนับสิบครั้ง จนลำเนื้อเขื่องขยายใหญ่อัดแน่นดันเนื้อกางเกงออกมานูนเด่น คิดเตลิดไปไกลว่าตัวเองได้เล่นเสียวกับเธอในโรงหนัง
จึกๆๆ
“คุณหมอคะ หนังจบแล้วค่ะ”
นิ้วชี้เรียวจิ้มลงบนแขนล่ำของหมอทิมสองสามทีเพราะเห็นว่าเขาดูเหม่อๆ ไม่ยอมลุกจากที่นั่งเสียที
“อะ อ้อ...งั้นเราไปกันเถอะ เดี๋ยวน้าไปส่งหนูที่คอนโดเอง ตอนนี้มันดึกแล้ว” หมอทิมพูดกับเธอโดยพยายามไม่มองไปที่หน้าอกอึ๋มที่อยู่ภายใต้เสื้อสายเดี่ยวตัวจิ๋วนั่น เขาพยายามสลัดความคิดอกุศลของตัวเองออกไป แต่มันก็ช่างยากเย็นเหลือเกิน
“หนูเกรงใจจังค่ะ คุณหมอมาดูหนังเป็นเพื่อนแล้วยังจะไปส่งหนูที่คอนโดอีก”
“เกรงใจอะไรกัน บ้านของน้าก็อยู่ใกล้ๆ กับคอนโดของหนูดานี่เอง” เขายิ้มพลางยกมือขึ้นลูบผมสั้นนุ่มลื่นของเธออย่างเบามือ
“ขอบคุณนะคะ...คุณหมอนี่นอกจากจะหน้าตาดีแล้วยังใจดีอีกต่างหาก” โซดายิ้มแป้นเอ่ยชมเขาอย่างเอาใจ ทำเอาหมอทิมใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
อ่า...หนูดาจะน่ารักเกินไปแล้วนะ...
ถ้าจะยิ้มหวานขนาดนี้ ต่อให้เด็กกว่าสิบปีเขาก็ไม่สนอีกต่อไปแล้ว!