บทที่ 6

2357 Words
บทที่ 6 ข้าถือคติด้านได้อายอดเจ้าค่ะ “อะแฮ่ม.. หากเจ้าต้องการข้าย่อมไม่ขัดข้อง ถึงอย่างไรเขาก็บุตรของข้า สัญญาที่ให้ไว้กับพ่อแม่ของเจ้าข้าย่อมไม่ลืม” ลู่เทียนจวินกล่าวทำลายความเงียบ คำตอบของเขาทำให้นางยิ้มแก้มปริ "ขอบพระทัยเพคะสะ-" ปึง! เสียงดังลั่นทำเอานางสะดุ้งโหยง ตาถลนเบิกกว้างเมื่อโต๊ะหยกหนากว่า 4 ชุ่น ถูกกำปั้นพ่อตัวร้ายทุบแตกอย่างง่ายดาย ร่างกำยำลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จิตสังหารกดดันลมหายใจของใครหลายๆคนให้ติดขัด “ข้าขอตัว” น้ำเสียงทุ้มต่ำ ฟังดูก็รู้ว่าหงุดหงิดเพียงใด ร่างสูงเดินตรงออกไปยังประตูโดยไม่ลังเล ทิ้งสาวงามผู้ซึ่งสารภาพรักและยัดเยียดตัวเองให้เขาเอาไว้ดื้อๆ! บนหัวลางๆตอนนี้เปลี่ยนเป็น -7 แล้ว! “ดะ เดี๋ยวก่อน!.. สะ เสด็จอาเดี๋ยวหม่อมฉันมานะเพคะ!” ประโยคหลังนางหันกลับไปพูดกับลู่เทียนจวินที่นิ่งงันเป็นรูปปั้น เขาเพียงพยักหน้าช้าๆตอบรับนาง ป๋ายอวี้ชิงไม่รอช้าวิ่งตามสามีในอนาคตไป ปล่อยให้บรรยากาศภายในห้องโถงมีแต่ความสับสนและงุนงง กรี๊ด หากลดอีกสามเปอร์เซ็นต์นางต้องตายคามือเขาสักวันแน่ นางก่นร้องในใจ อันที่จริงนางทำใจไว้แล้วว่ามันต้องลดและเป็นดั่งที่นางคาดไว้ แต่พอเห็นมันลดจริงๆนางก็แทบอยากจะร้องไห้! อย่างไรในตอนนี้นางต้องทำให้เขาเชื่อใจนางให้ได้ก่อน ร่างบางรีบถลาวิ่งตรงไปยังทางที่จางเฉิงอี้เดินผ่านไป เห็นแผ่นหลังอยู่ไกลๆ จึงรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น คนอะไรขายาวชะมัด! “ท่านพี่! ท่านพี่หยุดก่อนเจ้าค่ะ” ยิ่งวิ่งตามก็เหมือนว่าแผ่นหลังของจางเฉิงอี้จะไกลออกไปทุกที ป๋ายอวี้ชิงหยุดหอบหายใจ ก่อนจะตัดสินใจสูดหายใจเข้าเต็มปอดแล้วตะโกน “ที่รักกกกกกก!!!” มันได้ผล ร่างสูงที่เห็นเท่าเม็ดถั่วตอนนี้กำลังหยุดฝีเท้าลง ใบหน้าที่หันกลับมานั่นราวกับต้องการจะฆ่านางเสียให้ตาย ริมฝีปากหยักเบ้ปากอย่างรังเกียจนาง แง! ริมฝีปากบางเม้มแน่น ดูนั่นสิ หน้าหงิกงอไปหมดแล้ว! “ไสหัวไป” จางเฉิงอี้พูดเสียงห้วนด้วยความหงุดหงิด มองร่างเล็กวิ่งกระหืดกระหอบตรงมายังตน นางกำลังล้อเล่นตลกอันใดอีก “แฮ่ก..ก ฟะ ฟังข้าก่อน ข้าไม่ได้พูดออกไปเล่นๆ นะเจ้าคะ เห็นท่านออกมาช่วยข้าตอนนั้นมันทำข้าซึ้งใจจริงๆ ..อีกอย่าง ขะ ข้าปรนนิบัติเก่งนะเจ้าคะ ทำกับข้าวก็ได้ ดูแลเรือนก็ดี หน้าตาก็งดงามที่สุดในใต้หล้า ละ ละ แล้วข้าก็อึ๋มมาก! ท่านจะไปหาภรรยาที่ดีกว่านี้ได้จากที่ใดอีก!” มือเล็กกำหน้าอกหน้าใจอย่างโจ่งแจ้ง แก้มขาวขึ้นสีแดงเลือดฟาดเมื่อคนตัวสูงหลุบตาต่ำมองตาม “สตรีหน้าด้าน!” มือเล็กที่ขยำหน้าอกอยู่ พาเอาคนตัวสูงใบหน้าร้อนผ่าว “ข้าถือคติ ด้านได้อายอดเจ้าค่ะ” “เจ้าล้อข้าเล่น เพื่อให้ข้ากลายเป็นตัวตลกของพวกเจ้าและต่อหน้าลู่จิ่งเหองั้นหรือ” จางเฉิงอี้เปลี่ยนเรื่อง ละสายตาจากความอวบอัด นางมีดีอย่างที่กล่าว แต่ทว่างดงามแล้วอย่างไรหากภายในเหม็นเน่าเขาก็ไม่สน ส่วนป๋ายอวี้ชิงส่ายหัวเร็วถี่แทนการตอบ ช่างพ่อมันสิคะคนนั้นน่ะ แต่ก่อนนางอาจจะทำเช่นนั้นจริง แต่นั่นมันคนละคนกัน ตอนนี้ป๋ายอวี้ชิงคนนี้รักท่านนะหลัวข๋า! “เจ้ารู้ดีใช่หรือไม่ ว่าการล้อเล่นกับข้าจะส่งผลเช่นไร ต่อให้เทียนจวินจะปกป้องเจ้า ข้าก็ยังสามารถฆ่าเจ้าได้” นางรู้ดีกว่าใครว่าเขานั้นแข็งแกร่งที่สุด แค่กระแทกฝ่ามือแรงๆ ใส่นางหนึ่งทีนางก็คงลาโลกไปภพหน้าแล้ว “ข้ารู้ว่าท่านเก่งและแข็งแกร่งมาก ข้าไม่กล้าล้อท่านเล่นหรอกท่านพี่” คนฟังขมวดคิ้วแน่นส่งสีหน้าแปลกใจ แต่ไหนแต่ไรมาสตรีผู้นี้ไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ ถึงเขาจะเกิดก่อนนางแต่นางไม่เคยเคารพเขาแม้แต่น้อย ในตอนนี้กลับชมเขาและเรียกเขาว่าท่านพี่? “เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่” “ต้องการท่าน” “เหลวไหล” คนตัวสูงถลึงตาใส่ด้วยความโมโห พอกันทีกับการล้อเล่นของนาง เขาหันหลังเตรียมจะเดินจากไป ป๋ายอวี้ชิงรีบคว้าท่อนแขนแกร่งไว้ก่อนจะตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่มีให้เลือกในเกมส์! ม๊วฟ! เท้าเล็กจิกลงพื้นเขย่งขึ้นเล็กน้อยก่อนกระโดดเบาๆ แนบริมฝีปากอิ่มของตนบนกลีบปากหยัก “!” คนโดนสัมผัสเบิกตากว้าง สัมผัสนุ่มนิ่มเฉียดผ่านเขาเพียงเสี้ยววิ ทิ้งกลิ่นหอมละมุนไว้ตรงจุดที่ถูกฉวยโอกาส มือสากแตะริมฝีปากตนเบาๆ ก่อนเลื่อนสายตามองสตรีที่หันหน้าหนี และหูกำลังแดงก่ำ “ท่านปฏิเสธข้าไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ ยอมดีๆ เสียถะ.. อุ้บ!” ใบหน้าของนางหันไปตามแรงดึง คางถูกมือสากช้อนขึ้น ริมฝีปากหยักแนบลงสัมผัสความนุ่มชื้นบนริมฝีปากนาง ร่างกายเล็กอ่อนระทวย ขาเกิดไร้เรี่ยวแรง แขนแกร่งคว้าเอวคอดไว้มั่น ดึงรั้งตัวนางเข้าหา ริมฝีปากที่ประกอบอยู่ยิ่งแนบชิด ลิ้นร้อนไล้เลียทั่วมือหยาบบีบคางนางให้ปากเล็กนั่นอ้าออก แทรกลิ้นช้อนชิมความหวานในโพลงปาก เกิดเสียงดูดดึงน่าอาย ชายหนุ่มลอบยิ้มร้ายกาจเมื่อคนตัวเล็กในอ้อมแขนจูบตอบเขาอย่างเงอะงะ “อื้อ ฮ้า..” มือบางทุบบนอกแกร่งราวกับต้องการประท้วง ปากเผยอออกกว้างเพื่อรับลมหายใจเข้าปอด จางเฉิงอี้ยอมถอนจูบออกอย่างช้าๆ พินิจน์มองใบหน้าหวานขึ้นสีแดงจนสุกก่ำน่ามอง นัยน์ตาหวานปรืออย่างมึนงง ตัวร้ายของนางทำไมถึงรุนแรงเช่นนี้! “คิดจะเอาตัวเข้าแลกหรือ” “!” “แค่จูบยังงอกง่อยเพียงนี้จะปรนนิบัติข้าบนเตียงได้เช่นไร” “!” ใบหน้างดงามที่แดงก่ำอยู่แล้วกลับแดงขึ้นไปอีก ทำไมตัวร้ายของนางไม่ตรงปก คนนี้หื่นกว่าที่นางเคยอ่านมาอีก! “กลับไปเสีย ข้าไม่คิดจะแต่งกับเจ้า” อะไรคือการขโมยจูบนางแล้วบอกไม่คิดแต่ง! แอบมีใจหรือไงถึงจูบนางกลับ! “ตะ แต่เมื่อกี้ท่านจูบข้า หากคนเราไม่พึงใจกันเขาไม่จูบกันหรอกนะเจ้าคะ!” “ข้าเพียงทดสอบเจ้าและเจ้าไม่ผ่านมาตรฐานข้า ข้ามิชอบสตรีไร้ประสบการณ์” ตอบหน้าตายจนคนฟังใจเจ็บ แง นางกำลังอยู่ในวัยเรียนรู้ต่างหาก! “ถะ ถึงอย่างไรท่านต้องแต่ให้ข้า ท่านจะปฏิเสธคำสั่งจากเทียนจวินหรือ อีกอย่างหากท่านแต่งให้ข้า จะไม่เป็นการดีต่อท่านหรือเจ้าคะ จากตำแหน่งของท่านในตอนนี้ไม่มีผู้ใดยอมรับเลยใช่หรือไม่ ใช้ตัวของข้าสิ ตัวข้านั้นมีค่าพอให้ท่านแต่งด้วยอย่างแน่นอน” ถ้าหากเขาไม่ยอมแต่งกับนาง แล้วใครจะคอยขวางบทเชื่อมความสัมพันธ์ของนางเอกกับท่านกันเล่า! นางไม่ยอมยกหลัวและตายง่ายๆ หรอกนะ “...” ยังคงเงียบ สีหน้าบ่งบอกว่าไม่สนใจ "แต่งกับข้าไม่ดีตรงไหน ใจท่านก็ยังไม่มีผู้ใด ลองมีข้าดูก่อนหรือไม่ อาจจะติดใจไปไหนไม่รอด" “ไร้สาระเสียจริง” เขากลอกตา หลัวไม่เชื่อในความรักของติ่งคนนี้ได้อย่างไรกัน! “แต่ที่ข้าชอบท่านนั่นเรื่องจริง หาใช่เรื่องไร้สาระนะเจ้าคะ” “เมื่อหลายปีก่อนยังบอกว่าข้าน่ารังเกียจ แต่ในตอนนี้กลับบอกว่าเจ้าชอบข้า คิดว่าข้าจะยอมเชื่องั้นรึ” “ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร ข้าพิสูจน์ให้ท่านดูก็สิ้นเรื่อง” “ข้าไม่ต้องการ ไสหัวไปซะ” คนตัวสูงเบ้ปากหันหลังตั้งท่าจะเดินจากไป “ดะ เดี๋ยว! ท่านควรให้โอกาสข้าบ้าง!” ป๋ายอวี้ชิงตกใจรีบขยับไปขวางทางเขาเอาไว้ แต่กลับชนอกแกร่งจนเซเกือบหงายหลัง ดีที่เอาเท้ายันไว้ได้ทัน “เจ้าอย่าทำตัวดื้อด้าน” คนตัวสูงไม่แม้แต่จะมองมา เขาตั้งท่าจะผลักนางออก แต่ดันมีสายตาหนึ่งรั้งเขาเอาไว้ ไท่จื่อลู่จิ่งเหอและสหายของเขากำลังมองมาทางนี้ ข้างๆ พวกเขาทั้งสามคนมีสตรีนางหนึ่งยืนอยู่ด้วยเช่นกัน สายตาของลู่จิ่งเหอฉายแววสับสนมากมาย เขาคงไม่คิดว่าสตรีที่ตามติดเขาต้อยๆตั้งแต่เด็กจนเลยวัยปักปิ่นมาแล้วก็ยังรอเขาเช่นนางจะหันมาสนใจบุรุษที่นางบอกว่ารังเกียจกระมัง แต่ถึงอย่างนั้น ลู่จิ่งเหอกลับไม่กล้าที่จะเดินเข้ามาขัดการสนทนา ยังรอให้พวกเขาพูดคุยกันเสร็จตามมารยาท ช่างเป็นบุรุษที่น่ารำคาญเสียจริง จางเฉิงอี้ย้อนมองกลับมาที่คนตัวเล็กอย่างสำรวจ เขายอมรับว่ายิ่งเติบโตนางยิ่งสวยและงดงามมากกว่าสตรีใดที่เขาเคยพบเจอ ใบหน้าหวานยู่ยี่จนจมูกย่น ขอบตาขึ้นสีชมพูอ่อน เหตุเพราะเขาไม่ยอมให้โอกาสนาง เหตุผลแค่นั้นทำให้นางเกือบร้องไห้เลยรึ..? หึ กลับมาคราวนี้มีแต่เรื่องน่าสนใจ ร่างสูงนิ่งครุ่นคิดมองทั้งสองสลับกันก่อนจะแสยะยิ้มร้ายกาจ “อยากให้ข้าให้โอกาสรึ” คนที่แอบหมดหวังได้ยินก็รีบพยักหน้าถี่จนผมยาวกระเซิงละใบหน้า จางเฉิงอี้แสยะยิ้ม พาคนมองให้ใจสั่น ขณะยื่นมือสัมผัสเส้นผมของนาง นิ้วสากเกลี่ยปอยผมที่ไม่เรียบร้อยถัดหูเล็กให้แผ่วเบา ตึกตัก โอ้ยพ่อ ขนาดไม่ได้คิดอะไรยังแอบอ่อนโยนขนาดนี้ ถ้าหากรักนางแล้วจะไม่คลั่งตายเลยรึ ชักอยากให้ตัวร้ายคนนี้หลงรักนางหัวปักหัวปำซะแล้วสิ แต่คำพูดถัดมาทำเอานางต้องตบตัวเองเรียกสติ “ลู่จิ่งเหอกำลังมองมาที่เจ้า” ร่างสูงขยับเข้ามาก้มลงกระซิบ เขาไม่ได้อ่อนโยน เขาแค่แสร้งทำจ้ะชิงชิง อกหักไม่กล้าบอกผัว.. “...” ป๋ายอวี้ชิงกำลังจะหันหน้าไปมอง แต่ถูกมือหนาดึงรั้งใบหน้าให้กลับมา ฝ่ามือบีบแก้มนิ่มเสียแรงจนใบหน้าสวยเหยเก ปากบู้บี้ตามแรงบีบ จางเฉิงอี้ยามนี้ดูร้ายกาจเหลือทน “อย่าหันไป หากเจ้าอยากได้โอกาส ในตอนนี้เจ้ากล้าทำให้ข้าเชื่อหรือไม่ว่าเจ้าไม่คิดจะกลับไปหามันแล้วจริงๆ” พูดจบก็ผลักหน้านางออก กอดอกมองว่านางจะทำเช่นไรต่อ ช่างไม่อ่อนโยนเสียเลย! คนตัวเล็กพยักหน้านางกลอกตาไปมาอย่างใช้ความคิด ขณะที่จับแก้มตัวเองป้อยๆ บีบมาได้แก้มนางช้ำหมด “อืมม..” นางยังคงครุ่นคิดอยู่นาน คิ้วหนากระตุกถี่อย่างรำคาญก่อนจะถามเสียงลอดไรฟัน “คิดสิ่งใดนานจริง หากทำไม่ได้ก็ไสหัว-” คนตัวสูงหยุดคำพูดเมื่อมีนิ้วเรียวแนบลงบนริมฝีปากของเขา พร้อมกับที่นางแนบนิ้วชี้ลงบนริมฝีปากตัวเองแล้วส่งเสียงให้เขาเงียบลง ร่างสูงย่นคอถอยหนี สีหน้ายังคงเย็นชาแฝงไว้ด้วยความหงุดหงิด “ชู่ว ข้ากำลังใช้ความคิด หากฉุดท่านเข้าหอตอนนี้เลยก็คงไม่งาม หรือจูบท่านตรงนี้ก็กลัวว่าท่านจะผลักไสข้า เช่นนั้นคงเหลือวิธีเดียวแล้ว” “อะไร..” คิ้วหนาขมวดเข้าจนเป็นปม ลอบตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินวาจาน่าอายจากสตรีเช่นนาง ชึบ จางเฉิงอี้เบิกตากว้าง เมื่ออยู่ๆ นางก็คุกเข่าลงตรงหน้าเขา มือเรียวช้อนมือของเขาขึ้นแนบกับริมฝีปากอ่อนนุ่ม ดวงตามีเสน่ห์คู่สวยจับจ้องมาที่เขาอย่างเย้ายวน “ได้โปรดมาเป็นพ่อของลูกให้ทีเจ้าค่ะ แต่งงานกันนะ” และประทับริมฝีปากลงบนหลังมือของเขาอ้อยอิ่ง.. “!” คนคิดจะแกล้งอึ้งค้างสติหลุดไปเป็นที่เรียบร้อย นัยน์เบิกตากว้างมองคนทำเรื่องน่าอายเหนือความคาดหมาย อีกสี่คนที่มองมาก็มีสภาพไม่ต่างกัน “ท่านพี่..” ใบหน้าน่ารักเอียงคอเรียกเขาเสียงใส เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนค้ำหัวนางอยู่จะนิ่งนานไปหลายนาที “อะ อะ อยากตายรึไง!” จางเฉิงอี้เพิ่งเรียกสติกลับมาได้ พูดน้ำเสียงกดต่ำ ตาถลึงมองนางด้วยความโมโห แต่คำพูดกลับตะกุกตะกักมาพร้อมกับหูที่กำลังขึ้นสี …สรุปเขินสินะ “อย่ามายุ่งกับข้า" จางเฉิงอี้กล่าวเสียงเย็นชา เมินหน้าหนีสายตาจับผิด ก่อนจะหันหลังเร้นกายหายไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันให้ป๋ายอวี้ชิงได้รั้งเขาเอาไว้ “เฮ้อ เอาใจยากจริง” สรุปว่าหลัวสุดที่รักให้โอกาสนางแล้วรึยังไม่ให้กันแน่ อยู่ๆก็วิ่งหนีไปเฉยเลย.. แต่นางจะไม่ยอมแพ้แค่นี้หรอก หากจำไม่ผิด คืนนี้จะเป็นคืนแรกที่นางเอกและตัวร้ายพบกันตามลำพังในสวนที่พักของเขา และปิ้ง ความรักเริ่มบังเกิด ตอนจบเท่ากับหลัวตายอนาถ.. ชึบ! เสียงเอฟเฟคตัดภาพด้วยมีดของป๋ายอวี้ชิง "ฮึ่ม” ข้าจะเป็นสุดที่รักผู้พิทักษ์ตัวร้ายให้เอง!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD