นอนไม่หลับเลยโว้ยยยยยย เป็นความพ่ายแพ้ ที่มาจากคนอื่นที่ไม่ใช่ป๊า มันเจ็บใจจริงๆ ผมจะเลี้ยงลูกจนหมดแรงเลยหรอ ถ้าเป็นป๊า ป๊าจะทำยังไงนะ ป๊าก็จะบอกว่า ‘ แกไปลองทำด้วยตัวเองก่อน แล้วค่อยมาถาม ‘ หึ่ยยย ตอนนี้ผมคิดไม่ออก นี่มันจะ 3 ปีแล้วนะ
“ เสือไมออกมานั่งหน้าบ้านแบบนี้อะ นอนไม่หลับหรอ “ เสียงเล็กๆของใครคนหนึ่งออกมาทักผมที่นอนดูดาว อยู่ที่ฟูกเล็กๆนอกบ้านพัก
“ ดูดาวอะ ที่นี่สวยดี “ ผมขยับตัวจนชิดขอบ แล้วตบที่ฟูกข้างๆตัวผม เพื่อบอกให้เธอลงมานอนดูด้วยกัน
เธอก็ยอมลงนอนแต่โดยดี เราทอดสายตามองขึ้นไปบนฟ้า เห็นดาวระยิบระยับมากมาย ถ้าบอกว่าเธอสวยกว่าคงโกหก นั่นเอาไว้ใช้ในละคร และน้ำเน่ามาก ผมเอาจีบสาวเท่านั้น ประโยคพวกนี้มันใช้กับยัยนี่ไม่ได้
“ ชอบผู้ชายแบบไหนอะ “ ผมถามคนที่นอนอยู่ข้างๆ
“ ถามทำไมอะ “
“ แค่อยากรู้อะ พ่อเธอหวงขนาดนี้ ผู้ชายแบบไหนจะทำให้เธอขัดใจพ่อได้ ไม่งั้นขี้เหล่แบบเธอขึ้นคานแน่ๆ “ ผมแอบชำเลืองมองเธอนิดๆ เธอมีสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย
“ ที่จริงวันนี้นายก็ทำให้ฉันขัดใจพ่อนะ “
แต่มันยังไม่พอไงยัยซื่อบื้อ เพราะฉันยังเป็นได้แค่เพื่อนอยู่เนี่ย จะเป็นผู้ชายแบบที่เธอชอบงั้นหรอ ฝันไปเถอะ เธอต่างหากที่ต้องชอบผม แบบที่ผมเป็น
“ แล้วนายล่ะ สาวเยอะอยู่แล้วนิ นายอะชักจะเหมือนพ่อฉันเข้าไปทุกวันแล้วนะ เลิกซะ “
“ นี่เธอกล้าสั่งฉันแล้วหรอ ฉันอะเลิกอยู่แล้ว ถ้าเจอคนที่ใช่อะ “
“ ใครจะเป็นคนโชคร้ายคนนั้นนะ “
ผมนอนตะแคงหันควับมาหาเธอ ฟูกที่นอนดูดาวขนาดประมาณ 3-4 ฟุต มันไม่ใหญ่ขนาดที่จะหนีกันไปได้ไกลหรอก
“ โชคร้ายงั้นหรอ ฉันหล่อขนาดนี้ รวย ฉลาด จะโชคร้ายได้ไง โชคดีล่ะไม่ว่า “
“ แหวะ นิสัยเสีย เจ้าอารมณ์ ขี้แกล้ง ขี้วีน เอาแต่ใจ “ เธอหันมาหาผม พร้อมบ่นออกมาชุดใหญ่
“ แล้วเธอชอบรึเปล่า “
ชิบหายละ เผลอพูดอะไรออกไปวะเนี่ย
“ ในฐานะเพื่อนอะ “ ผมพยายามกลบเกลื่อน สิ่งที่หลุดออกไป
“ น้อยๆลงหน่อยก็ดี แต่นายดูแลดี ทำอาหารอร่อย พอรับได้ “
แค่พอรับได้เองหรอ
“ เธอต้องดีใจเลยนะ มีแค่เธอที่ได้รับเกียรติที่ได้รู้จักฉันแบบส่วนตัวเลยนะ “
“ ไม่อยากได้ไหมย๊ะ “
ไม่อยากได้งั้นหรอ ผมยอมให้เธอรู้จักผมแค่คนเดียวเลยนะ หนอยแหนะ ผมตั้งท่าจะดีดหน้าผากเธอ เธอเลยคิดจะหนี แต่ฟูกที่ใช้ดูดาวมันไม่ได้ใหญ่ขนาดที่จะให้เธอหนีได้ ทำให้เธอเกือบจะตกจากฟูก แต่ดีที่ผมคว้าเอาไว้ทัน
“ ระวัง!!! “ ผมเสียงดังใส่คนที่ไม่รู้ระวัง
แต่เหมือนการคว้าเธอเมื่อกี้ มันทำให้หน้ามันแทบประชิด ห่างกันเพียงแค่นิดเดียว คนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด สัมผัสที่มันกำลังแนบแน่น มันทำให้ผมรู้สึก
ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ
จะมาเต้นแบบนี้ไม่ได้นะ สภาวะบังคับตัวเองไม่ได้ หัวใจมันกำลังเรียกร้องเต็มที่ ตากลมๆที่กำลังมองมาที่ผม ไม่ได้นะ คุมตัวเองให้ได้หน่อยไทเกอร์ ผมต้องฝืนใจตัวเองแล้วปล่อยเธอ
“ ไปนอนได้แล้วไป เดี๋ยวพ่อเธอออกมาแหกอกฉัน “
ที่จริงผมอยากจะอยู่ในสภาวะปกติมากกว่านี้ มันไม่ใช่สิ่งที่ผมคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้น อาการหัวใจเต้นอย่างนี้ ถ้าเกิดขึ้นบ่อยๆไม่ดีแน่
“ เป็นอะไรรึเปล่า เสือ “ เธอทำสีหน้าเป็นห่วงผม ที่จู่ๆก็เงียบไป
ผมไม่ได้เป็นอะไร แค่กลัวตัวเองจะแสดงความรู้สึกผ่านทางสายตาเท่านั้น ผมพยายามมาตลอด ที่จะจำกัดความรู้สึกที่ให้เธอเพียงแค่นี้พอ เพราะกลัวจะเผลอทำอะไรเกินเพื่อนไป
“ เปล่า “
“ งั้นก็อย่ามาไล่ฉัน “ เธอกลับมานอนหงายอย่างเดิม
เอ้า ไล่ก็ไม่ไป ถ้าเป็นคนอื่นจะคิดว่าอ่อยนะเนี่ย
“ ฉันรู้ว่านายเหงา อยู่คนเดียวมันต้องเหงามากเลยใช่ไหมล่ะ “
ใครบอกเธอ ไม่เห็นจะเหงาสักนิด......งั้นหรอ ผมกำลังเหงาอยู่หรอ
“ คนที่นั่งมองฟ้า ไม่เหงาก็บ้า มีอยู่ 2 อย่าง นายเป็นแบบไหนล่ะ “ เธอยักไหล่ใส่ผม
“ มันจะมากเกินไปแล้ว เดี๋ยวนี้ถึงขั้นกับว่าฉันบ้าแล้วหรอ “
ผมจับเธอกดลงบนที่ฟูกนิ่มๆสีน้ำตาล ตายห่าละสัญชาตญาณทำงาน สีหน้าของเธอดูตกใจมาก กับสิ่งที่ผมทำ ก็ตอนนี้ผมกดเธออยู่นี่ ผมกระตุกยิ้มนิ่มๆ
“ รู้ไหมคนที่ว่าฉันจะโดนอะไร “
“ จะปล้ำฉันหรอ “
“ หลงตัวเองเกินไปรึเปล่า “ ผมคว้าหมอนใบเล็กบนฟูก มากดใส่หน้าเธอ
“ ไอ้เสืออออออ!!! “ เธอตะโกนใส่ผมด้วยความโกรธ
แล้วหยิบหมอนปาใส่ผมแต่ไม่โดน ใกล้ขนาดนี้ยังปาไม่โดนเลย
“ กากมาก “
ผมทิ้งเธอเอาไว้แบบนั้น แล้วเดินเข้าบ้านพักไปเลย
ตลก คิดว่าฉันจะปล้ำเธอหรอ ฉันจะทำ ฉันทำไปนานแล้ว ยัยโง่ เธอกับฉันมันยังห่างกันเยอะ ผมจะไม่เลี้ยงบอลอีกแล้ว เตะมันไม่ได้ก็ถือลูกวิ่งเลยละกัน ในเมื่อเล่นตามเกมแล้วมันจะเหนื่อย ก็เล่นนอกเกมไปเลยแล้วกัน ใครจะไปสน ผมเล่นบอลไม่เป็นสักหน่อย
วันถัดมา.......
ผมตื่นแต่เช้าแล้วโทรปลุกยัยชื่อบื้อจอมขี้เซา เพราะเธอต้องรับผิดชอบคำพูด ที่บอกว่าอยากเที่ยวกับผม จนผมต้องยอมทำงานโต้รุ่งยันเช้า ตั้ง 2 คืน เพื่อเคลียร์งานให้เธอ
[ Jaokha Calling........]
สายสนทนา
[ เสือมันยังเช้าอยู่เลย ] เสียงงัวเงียของคนเพิ่งตื่น
แม่คุณนี่มัน 7 โมงแล้วนะ
“ ออกมาเร็วๆ ไหนบอกอยากจะไปเที่ยวกับฉัน “
[ อีก 20 นาทีได้ไหม ]
ช่างต่อรอง
“ เร็วๆ จะไปเก็บสตรอว์เบอร์รี่กินกัน “
[ 5 นาที ]
จบการสนทนา
เอาของกินมาล่อ มันได้ผลทุกที แค่ได้ยินแว่วๆ ว่าที่นี่ให้แขกเก็บผลผลิตจากต้น โดยค่าผลไม้ คิดเป็นกิโลแบบเหมาๆ ยัยนั่นคงจะชอบ
ไม่นานเธอก็ออกมาจริงๆ
“ ช้าไป 7 นาที เพราะฉะนั้นเธอต้องปั่น “
“ ปั่น??? “ เธอทำหน้าสงสัย ผมเลยชี้ไปที่จักรยานที่จอดอยู่ที่หน้าบ้านทุกหลังเลย
ผู้ชายแมนๆอย่างผม มันแน่นอนอยู่แล้ว ต้องให้เธอปั่น แม้เธอจะปั่นไปบ่นไป แต่เพราะความอยากกิน เธอเลยต้องยอมปั่นจักรยาน ป้ายบอกทางบอกว่า ถ้าตรงไปทางนี้ เราจะเจอจุดชมวิว
“ เสือ มันไม่ขึ้น “ เธอพยายามจะปั่นจักรยานขึ้นเนินที่สูงชัน เพื่อไปที่จุดชมวิว
“ ปั่นไปๆ เอาแต่กินไม่ออกกำลังกาย ขาใหญ่อย่างกับโต๊ะสนุ๊ก “
“ นายนั่งเฉยๆนะ ยังมีหน้ามาว่าฉันหรอ “
ตลกอะ จะทำยังไงน้า ถ้าเธอยอมร้องเหมียวๆ ฉันจะยอมลงรถให้ก็ได้นะ
“ เสือออ ฉันหมดแรงแล้ว “
แบกผมมาด้วย ไม่หมดแรงสิเรื่องแปลก จักรยานกำลังค่อยๆไหลลง เพราะคนที่ปั่นตอนนี้หมดแรงซะแล้ว ช่วยไม่ได้ละนะ ผมลงจากจักรยานเพื่อเข็นรถให้เธอ ผมจะปั่นเองก็ได้ แต่ผมอยากให้เธอเป็นคนปั่น ก็แค่นั้น
“ เหนื่อยอะ ไม่ปั่นแล้วได้ไหม “ เธอฟุบหน้าลงกับแฮนด์จักรยานด้วยอาการเหนื่อยหอบ
“ ถึงแล้ว มาเร็ว “ ผมเรียกคนที่เหนื่อยจะไม่ลุกจากจักรยานมาดูวิวที่จุดชมวิว ที่ตกแต่งสถานที่ไว้อย่างสวยงาม
ผมทอดสายตาลงไปยังภาพเบื้องหน้า วิวสวยดีจริงๆ พลางปล่อยความคิดในใจของผมลงไปด้วย ผมไม่ใช่พวกเลวทรามที่จะเที่ยวมีอะไรกับผู้หญิงไปเรื่อย แต่เพราะตัวผมเองอยากจะจำกัดความสัมพันธ์ จำกัดความรู้สึก ไม่ให้โฟกัสที่เจ้าขามากไป
คนตัวเล็กเดินขึ้นมาตรงที่จุดชมวิว
“ ว้าววว !!! สวยวัวตายควายล้มเลยนะเนี่ย “
ผมหันไปมองหญิงสาวที่มักจะแสดงสีหน้า อารมณ์ของตัวเองออกมาชัดเจนทุกครั้ง อยากจะเป็นมากกว่านี้ ทุกอย่างมันต้องเปลี่ยนแปลง
“ เจ้าขา ฉันอยากจะเลิกเจ้าชู้ละ “
“ จริงหรอ!!! ดีแล้ว ฉันเป็นกำลังใจให้ “
“ ไม่ได้อยากได้กำลังใจ แต่อยากได้คนช่วย สาวที่มีในสต๊อกมันเยอะเกินไป แต่จะให้ทำร้ายจิตใจทุกคนมันก็น่าสงสาร “
สาวในสต๊อกมันจะไปมีได้ยังไง ได้ก็จบ เพราะผมรู้ตัวอยู่แล้ว ว่าผมจริงจังกับใคร
“ ทำไมต้องเป็นฉันอะ “
“ ฉันมีเธอเป็นเพื่อนแค่คนเดียวนิ “
ผมมองคนซื่อบื้อที่ทำหน้าครุ่นคิด ก่อนจะเดินลงมานั่งบนม้านั่งคนเดียว ผมจะต้องข้ามเส้นบาง ๆ ของเราให้ได้
“ นายเจอคนที่จริงจัง คนที่ใช่แล้วหรอ “ เสียงอ่อยๆ นั่นมันหมายถึงอะไรนะ
“ ใช่ แต่ประเด็นสำคัญเลย ฉันไม่อยากเป็นแบบพ่อเธอ “
“ จ้างฉันด้วยอะไร “
“ ทุกอย่างที่เธออยากกินก็แล้วกัน “
คนเห็นแก่กินตาลุกวาว เมื่อได้ยินเรื่องของกิน
“ แม้จะแพงแค่ไหนงั้นหรอ ถ้าฉันอยากกินอาหารมื้อละ หมื่นล่ะ “
“ อยู่ที่ว่าเธอทำงานคุ้มค่าจ้างแค่ไหน “
“ ใครอะ ไอ้คนที่ใช่ของนายอะ “ เธอพูดแล้วเดินมานั่งข้างผมที่ม้านั่ง อย่างอยากรู้อยากเห็น
“ ทำไมฉันต้องบอก “
“ คนที่นายชอบ ต้องอึ๋ม สวย ฉลาด คูลๆ แน่ๆเลย “
เดาเก่งยัยซื้อบื้อ ไม่มีอะไรตรงซักอย่าง
“ ได้ฉันจะช่วย เราเพื่อนกันนิ ทำให้นายไม่เป็นเหมือนพ่อฉันมันคงเป็นบุญอย่างหนึ่ง อย่างน้อยผู้หญิงก็ไม่ต้องเสียใจ “
“ ถามอีกครั้ง เธอยินดีจะช่วยฉันใช่ไหม “
“ ใช่ ทุกอย่างเลย แม้กระทั่งจีบคนที่ใช่ให้นายด้วย “
ผมกระตุกยิ้มมุมปากให้คนตรงหน้า ที่ช่างไม่รู้อะไรเลย เจ้าขาขาาา ....Game Starts....
“ เสาร์นี้จะทำเค้กสตรอว์เบอร์รี่นี้นะ มาช้าอด “
“ ขอใหญ่ๆนะ แล้วฉันจะรีบไปแต่เช้าเลย “
ห่วงแต่กิน ลืมไปรึป่าว ว่าตัวเองต้องทำมันด้วย ยอมใจเลย กินแบบนี้ มันจะลงพุงเอานะเนี่ย
หลังจากนั้น
เราต่างคนต่างกลับมากรุงเทพ ผมจะเริ่มคิดทำให้เราไปไกลขึ้นได้ยังไง ให้เธอไม่กลัวจนหนีผมไป ยากชะมัด บอกไปตรงๆก็คงไม่เชื่อ เผลอๆถ้าเธอไม่ได้ชอบผม ผมเสียเธอไปแน่ แล้วผมจะทำลายความไว้ใจของเธอก็ไม่ได้ นอกจากจะให้เธอยินยอมทำมันเอง
เมื่อมาถึงบ้านผมก็โทรศัพท์หาคนที่ไม่ควรโทรที่สุด
[ Daddy Calling......]
[ ว่าไง ]
“ คิดถึงครับ “
[ ตรงๆ ]
“ ผมจะเดินหน้าแล้ว มันอาจจะทำให้ลุงคิมไม่พอใจบ้าง แต่ผมจะทำทุกอย่างให้มีปัญหา ผมแค่จะโทรมาบอก ปัญหามันอาจจะตามมา “
[ ช้าไป แกควรจะอะไรให้ไวกว่านี้ แต่ช่างเถอะ ไปเรียนรู้ด้วยตัวเอง เรียกผูกเรียนแก้เอง ลุงคิมของแกไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น เรื่องเยอะมากเดี๋ยวฉันให้ม้าแกไปจัดการ ]
“ อะไร สรุปลุงคิมชอบม้าจริงๆหรอ “
[ สองคนนั้นเคยคบกัน อาจจะชอบ หรือไม่ได้ชอบ แต่ที่แน่นอน มันคือความรู้สึกผิด ]
เคยคบกัน!!!! ตกใจไปเลยนะเนี่ย
[ ไทเกอร์ คนที่ใช่ มันมีได้แค่คนเดียว ]
“ ครับ “
จบการสนทนา
คำสั้นๆที่ความหมายแสนจะหลากหลาย ทำไมป๊าถึงไม่พูดกับผมยาวๆบ้างนะ ต้องให้ตีความ คิดเอง ทำเองทุกอย่างเลย พ่อคนอื่นเลี้ยงลูกแบบนี้ไหมนะ
คนที่ใช่ มันมีได้แค่คนเดียว
ชิ๊ ไม่อยากให้ผมแกล้งยัยซื่อบื้อมากเกินไปละสิ จะพูดอะไรที่มันเข้าใจง่ายตรงๆตัวเลยไม่ได้รึไง ต้องมาแฝงความหมายในทุกคำแบบนี้ปวดสมอง
โทรไปอุตส่าห์บอกว่าคิดถึง ยังไม่สนใจเลย ชิ๊ ใจดำสุดๆ