บทที่ 6

1179 Words
“จะลงโทษยังไงดี เฌอ?” “อื้อ... อ่อย...อ่อยอั้น…ฮึก” ยิ่งอ้อนวอน ยิ่งร้องขอเขาก็ยิ่งทำ เหมือนทุกครั้ง สายตาฉันในเวลานี้แทบมองไม่เห็นสิ่งอื่นใด นอกจากเปลวไฟสีส้มที่เลื่อนใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พร้อมน้ำคำน่ากลัวๆ “เคยเตือนเฌอไปแล้ว...ทำไมไม่จำ” ความร้อนของเปลวไฟที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้เส้นผมที่ปรกใบหน้าถูกเผาไหม้เล็กน้อย ส่งกลิ่นเหม็นชวนหวาดผวามากขึ้นไปอีก ทั้งที่เป็นแบบนั้น ทว่า แรงบีบรัดบริเวณปากจากฝ่ามือของเมือกลับค่อยๆ เบาลง จนกระทั่งเขายอมปล่อยออกในที่สุด ร่างของฉันทรุดลงช้าๆ ราวกับว่าเรื่องน่ากลัวทุกอย่างถูกถาโถมเข้ามาในเวลาเดียวกันจนจิตใจรับเรื่องต่อๆ ไปอีกไหว กลิ่นไหม้ของเส้นผมยังคงลอยแตะปลายจมูกราวกับตอกย้ำการกระทำแสนน่ากลัวนั่นของเขาแบบไม่รู้จบ เมืองย่อตัวลงนั่งจนหน้าของเขาอยู่ระดับสายตา และใช้สายตาน่ากลัวจ้องลึกผ่านนัยน์ตา คำถามสั้นๆ ถูกกล่าวขึ้นในทันที “กลัวเหรอ เฌอ?” “หนะ นายอย่าทำอะไรฉันเลยนะ...ฮึก เมือง” บอกไม่ถูกเลยว่าความมั่นใจตลอดสองปีที่ห่างจากเขาไปมั่นหายไปไหนหมด ทั้งที่ปกติแล้วฉันน่ะ เป็นฝ่ายขี้แกล้งคนอื่นอยู่เสมอๆ แต่ในตอนนี้มันต่างออกไปแล้ว มือสั่นเทาพยายามพนมแนบอก อ้อนวอน ร้องขอให้เมืองปล่อยฉันไป น้ำตาพรั่งพรูออกมาราวกับว่าภายในไม่กี่วนาทีข้างหน้า ลมหายใจฉันกำลังจะถูกมัจจุราชพรากไป “เฌอ...ไม่ร้อง” คนตัวใหญ่พูดน้ำเสียงเอื่อย ใช้มือจับมือทั้งสองข้างซึ่งยกพนมออกจนพ้นทาง ก่อนเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้จนรับรู้ถึงลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะของเขาได้อย่างชัดเจน ปลายลิ้นเลียปาดข้างแก้มเบาๆ คล้ายกับจะชำระคราบน้ำตาให้เหือดแห้งไป ถึงอย่านั้นฉันก็ยังไม่วายร้องขอชีวิตตัวเองอยู่ดี “อยะ อย่าทำอะไรฉันเลย ฮึก... ปล่อยฉันไปเถอะนะ” แต่ “คิดมาตลอด อ้อนวอนพระเจ้าเพื่อหวังที่จะพบเธอ...” เขากลับพูดพร่ำบางอย่างออกมา ราวกับไม่ได้ยินน้ำเสียงหวาดหวั่นร้องขอ แถมเสียงของเขามันก็ใกล้ใบหูเอามากๆ โดยเฉพาะรดหายใจอุ่นที่เป่ารดแก้มนั่นก็ด้วย “แต่การสวดอ้อนวอนพระเจ้า มันไม่ได้ช่วยอะไร...” “...” “เพิ่งรู้...ว่าตัวฉันเองนี่แหละคือพระเจ้า” บ้า! บ้าไปแล้ว เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ “ตั้งแต่เจอเธอ...ฉันก็คิดมาตลอด ว่าอยากจะทำมันอีกสักที” สิ้นเสียงของเขา คือวินาทีเดียวกันกับที่เราสบสายตากันแบบตรงๆ แววตาของเขาไม่แสดงความรู้สึกใดออกมา ขณะที่มือแกร่งกำบีบฝ่ามือของฉันซึ่งทาบชิดกันไว้แน่นมากขึ้นเรื่อยๆ “อยะ อย่า...จะทำอะไร!?” “ฉันอยากฆ่าเธอ...อยากเผาเธอให้มอดไหม้มันเสียตอนนี้...” ว่าแล้วซิปโปในมือก็ถูกจุดขึ้นอีกครั้ง แถมเขายังเลื่อนมันเข้ามาใกล้ใบหน้าฉันมากขึ้น จนต้องเอี้ยวตัวหลบความร้อนนั่นโดยอัตโนมัติ “หนะ นายต้องการอะไรอีก...ปล่อยฉันไปเถอะ” ไม่มีเสียงตอบจากคนตัวใหญ่ตรงหน้า ทว่า เมืองกลับบีบบังคับแรง โดยการจับมือฉันที่พนมค้างไว้เคลื่อนลงต่ำไปยังระหว่างขาทั้งสองข้างของเขา โดยยังจ้องลึกผ่านนัยน์ตาฉันอยู่แบบนั้น ไม่ต้องบอกก็พอเดาได้ ว่าในหัวเขาตอนนี้กำลังคิดอะไร “อยะ หยุดนะ!” เพราะรู้ จึงพยายามยื้อแรงไว้เพื่อให้หลุดจาดฝ่ามือดังกล่าว แต่มันก็คงไม่ทัน เมื่อผู้ชายท่าทางน่ากลัวตรงหน้าบีบบังคับให้ปลายนิ้วทั้งสิบสัมผัสเข้ากับเป้ากางเกงของเขาโดยตรง และคำตอบสั้นๆ “ต้องการ...เฌอ” ความคิดในหัวหยุดลงพร้อมกับความต้องการของผู้ชายตรงหน้าที่กล่าวออกมา คล้ายกับร่างกายถูกเหวี่ยงออกจากพันธนาการของเมืองในเวลานั้น แล้วย้อนกลับมายังอดีตแสนน่ากลัวที่อยากลืม เพียะ! “เชิญนายเอากับผู้หญิงพวกนั้นให้พอใจ พอกันที ฉันจะไปแล้ว!” “ตบฉันเหรอเฌอ?” เสียงของเขาในตอนนั้นสั่นเพราะพยายามระงับความโกรธ ส่วนฉันได้แต่จ้ำเท้าหันหลัง เก็บข้าวเก็บของเตรียมตัวที่จะไป “ถามก็ตอบดิวะ เฌอ!!” “หยุดเรียกชื่อฉันสักที...อื้ออ!” ทุกครั้งที่เราทะเลาะกัน มันรุนแรงมากจนคิดอยากจะหนี แต่ทุกครั้งที่คิดจะไป ร่างกายของฉันต้องถูกเรี่ยวแรงมหาศาลบีบบังคับ ฉุดรั้งไว้ สุดท้ายมันจะจบลงบนเตียง “ต้องการ...เฌอ” และคำๆ นั้นก็มักจะถูกพ่นออกมาให้ได้ยิน มันสามารถทำให้ฉันสยบยอมความร้ายกาจนั่นได้อย่างไม่มีข้อครหา ฉันแพ้น้ำเสียงที่ขานเรียกชื่อจากปากของผู้ชายสารเลวคนนี้... “เฌอ...” ร่างทั้งร่างสะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ๆ ร่างใหญ่ตรงหน้ากดทับกายฉันในท่านั่งจนเสียกายทรงตัว ริมฝีปากของเขาโฉบผ่านบริเวณต้นคอจนรู้สึกร้อนไปถึงใบหู เขากำลังจะเริ่มมันอีกแล้ว เซ็กซ์บนเตียงที่มีไว้สำหรับกักขังร่างกายฉัน.. “ปะ..ปล่อยนะ เมือง!” “เฌอ...ต้องการเฌอ” “ปล่อยฉันนะ เมือง!!” ตึก ตึก ตึก! เสียงฝีเท้าของคนแปลกหน้า ไม่อาจทำให้การกระทำเลวร้ายของเมืองหยุดลงได้ เมื่อเขายังคงขึงกายฉันด้วยเรียวแรงทั้งหมดที่เขามี จู่โจมฉันด้วยริมฝีปากร้อนนั่นแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุด “ไอ้เมือง พอสักที!” ฟึ่บ! อีกครั้งที่โชคเข้าข้าง เมื่อชายอีกคนซึ่งดูคุ้นเคยดี พุ่งเข้ารวบตัว ออกแรงกระชากร่างกำยำของขุนเมืองให้ออกห่างจากฉันแล้วเหวี่ยงออกไปอีกทาง “มึงทำบ้าอะไรอยู่วะ!?” เสียงของชายคนดังกล่าวตวาดดังขึ้นอย่างหัวเสีย พลางเหลือบมองฉันที่เอาแต่นั่งขดตัวสั่นอยู่ใกล้ๆ วูบหนึ่งที่เขาเลื่อนสายตาผ่านไปก่อนหันกลับไปเผชิญหน้ากับเมืองตรงๆ อีกทั้งกล่าว “มึงคิดจะจุดไฟเผาเฌอจริงๆ หรือไง บ้าหรือเปล่า...” หูของฉันมันอื้ออึงด้วยเสียงตวาดลั่นของชายหนุ่มคนดังกล่าว แต่รู้ไหม เขาก็เป็น ผู้ชายอีกคนที่ฉันรู้จักดีไม่ต่างอะไรไปจากเมืองนัก ไม่ต้องรอให้ใครเรียกตัว ฉันรีบตั้งสติลุกไปจากสถานการณ์น่ากลัวเบื้องหน้าโดยไม่คิดจะเหลียวหลังกลับไปมอง ท่ามกลางเสียงโวยวายของชายแปลกหน้าทว่ารู้จักกันดี ร่างกายมันสั่นเทิ้มแบบห้ามไม่ได้ขณะวิ่งพาตัวเองตรงไปยังหอพักเพื่อหลบหนีความจริงอันแสนเลวร้าย ราวกับตอนนี้เรื่องระยำในอดีตกำลังกลับมารวมตัวกัน ทั้งเรื่องของเมือง เหนือ รวมไปถึงผู้ชายคนนั้น เม้าส์...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD