“อือ” ก่อนออกแรงกึ่งดึงกึ่งลากพาฉันกลับเข้าไปในหอพัก ทำราวกับว่าเธอไม่มีตัวตน เมืองกำกระชับข้อมือฉันไว้แน่นไม่พูดไม่จา พาขึ้นบันไดมายังชั้นสามของหอพัก ก่อนจะหยุดที่ห้องซ้ายมือริมสุดของทางเดิน ก่อนไขกุญแจและพาฉันเข้าไปข้างในในที่สุด เอาจริงๆ ฉันก็ไม่ได้โง่จนถึงกับดูอะไรไม่ออก ยิ่งเป็นผู้หญิงเหมือนกัน มองแว๊บเดียวก็เข้าใจ ผู้หญิงที่ชื่อพริกไทยอะไรนั่น เธอคงจะแอบชอบเมืองอยู่แน่ๆ เผลอๆ ที่เมืองจูบฉันที่หน้าหอพักนั่นเธอเองก็คงได้เห็นเหมือนกันถึงได้แสดงสีหน้าท่าทางเสแสร้งใส่เราทั้งคู่แบบนั้น แต่ถึงเธอจะชอบหรือไม่ได้ชอบเมือง มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันนี่ ถูกมั้ย? ฉันเหลือบมองเมืองซึ่งเอาแต่เดนวนไปวนมาภายในห้องรกๆ ขอตัวเองราวกับหาอะไรบางอย่างอยู่ครู่สั้นๆ ก่อนละสายตามองไปทางอื่นเพื่อมองหาที่นั่งพักชั่วคราว ซึ่งโซฟาตัวเกาซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับเตียงนอนคือที่ที่ฉันเลือก ความจริงแล้วฉันไม่ได้อ