ฉันเชื่อว่า ทุกคนต้องเคยมีคนที่ตัวรักและเชื่อใจ จนวาดฝันทุกอย่างไว้ด้วยกัน ในอนาคตของเรามักจะมีเขาแทรกซึมอยู่เสมอ มิตรภาพ ความรัก ความเชื่อใจ และการได้เป็นตัวเองเวลาอยู่กับเขา ทุกอย่างมันดีจนไม่เคยคิดว่า ถ้าวันนึงเราไม่มีกันและกัน จะเป็นยังไงเพราะว่า ทุกย่างก้าวของเรามักจะมีเขาอยู่ด้วยเสมอ
"ภีม ไปไหนน" ฉันนั่งมองผู้ชายตรงหน้าด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ฉันกับภีมเราเจอกันตอนม.4 วันแรกที่แรกที่เขาเป็นผู้ชายที่น่ารัก นิสัยดี ตอนนี้เขาก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ ตลอดเวลา 5 ปีที่เราอยู่ด้วยกันมา มันมาก มากจนนึกไม่ออกว่า มันจะเสียใจแค่ไหนถ้าเราไม่ได้ไปต่อ
"นี่... ฉันไปซื้อมาให้ เธอกินสิๆๆๆ" เขาฉีกยิ้มหวานให้ฉันพร้อมกับยื่นขวดน้ำหวานที่ฉันชอบกินมาให้ ฉันว่าเสน่ห์ของเขาต้องเป็นเพราะลักยิ้มทั้งสองข้างของเขาแน่ๆ เลย
"เออภีม ฉันถามอะไรหน่อยสิ"
"อื้ม อะไรครับ" ฉันหันไปมองอย่างยิ้มๆ
"ฮ่าๆๆ พูดเพราะทำไมเนี้ย ฉันจะถามว่า เราคบกันมานานมากเลยอ่ะ ถ้าเราวันนึงเราเลิกกัน คงเสียใจแย่เลย เพราะนายเป็นเหมือนเพื่อนสนิทของฉัน แฟนของฉัน พี่ชายและบางครั้งก็เหมือนน้องชายของฉัน นายเป็นคนที่ไม่ว่าจะหันหลังมามองอีกกี่ครั้ง ก็จะเจอนายยืนยิ้มฉันอยู่ตลอดเลย"
"ก็อย่าเลิกสิ ไม่งั้นเธอจะได้อยู่คนเดียวนะ งั้นเราไม่เลิกกันหรอก" ภีมชอบพูดอย่างอ้อนๆ แบบนี้ตลอด ทุกครั้งที่ฉันพูดแบบนี้
"นั้นฉันจะแก้ปัญหานั้นโดยการที่ ถ้าวันนึงเราเลิกกันอ่ะ นายต้องห้ามไม่ชอบฉัน ห้ามทิ้งฉันและก็ต้องเป็นเพื่อนสนิทของฉันเหมือนเดิมด้วย" ฉันไม่รู้ทำไมถึงได้พูดออกไปแบบนั้น คนที่เคยรักกันจะกลับไปเป็นเพื่อนกันได้ยังไง ภีมต้องคิดแบบนี้แน่ๆ
"....งืมมม นั้นเธอก็ต้องห้ามเกลียดฉัน เธอก็ต้องมาเป็นเพื่อนสนิทของฉันเหมือนกัน" อาจจะเป็นเพราะความสนิทของเราที่ยาวนานมาถึง 5 ปีล่ะมั้ง เลยทำให้ฉันรู้สึกว่า ถ้าต้องเสียเขาออกไปจากชีวิต มันเป็นเรื่องที่ยากเกินไป
"สัญญาสิ" ฉันยื่นนิ้วโป้งไปให้แปะโป้งทำสัญญาระหว่างเรา เขาฉีกยิ้มหวานก่อนจะยกนิ้วโป้งของตัวมาแปะเข้ากับนิ้วโป้งของฉัน สัญญาที่เราได้ทำการพูดกันวันนั้น มันสร้างความลำบากใจให้ฉันในวันนี้.....
@วันรับปริญญา
"แล้วนายจะให้ฉันทำยังไง" จากคนที่เคยเข้าใจทุกอย่างกลับเป็นคนที่ไม่เข้าใจอะไรเลย....สักอย่าง
"ก็แล้วถ้าเธอไปแล้วฉันจะอยู่กับใคร เธอจะทิ้งฉันไว้ที่นี่คนเดียวหรอ เธอไม่คิดจิตใจฉันบ้างเลยหรอ" เราสองคนในชุดครุยมันควรจะเป็นวันที่เราสองคนมีความสุขที่สุดที่สามารถประคับประคองกันมาได้ถึงตอนนี้ จากคนที่ไม่เคยเรื่องอาถรรพ์ 7 ปี ดูเหมือน...ตอนนี้ฉันเริ่มจะเชื่อมันแล้วล่ะ
"แล้วนายไม่คิดถึงอนาคตของฉันบ้างหรือไง!"
"พวกมึงสองคนใจเย็นๆ ก่อน" แววตาที่เกรี้ยวกร้าดกับหัวใจที่ไม่พร้อมจะรับฟังอีกฝ่าย มันกำลังจะสร้างความร้าวฉานให้กับความสัมพันธ์ของเรา และวันนี้ฉันได้เรียนรู้ว่า เราจะรู้ตัวอีกทีว่า มันเจ็บปวดมากแค่ไหนถ้าไม่มีเขา ก็ต่อเมื่อวันที่เราสองคนต้องจากกัน
.
2 ปีต่อมา......
"เห้ยๆๆๆ วันนี้กูได้ยินว่า แอรีส จะกลับมาแล้วนะเว้ย พวกเรามาฉลองกันดีกว่า" ผมนั่งฟังพวกไอ้กัปตันที่กำลังพูดแอรีสหรอ แอรีสจะกลับมาแล้วหรอ ผมก็ไม่ได้รอเธอหรอกแต่ว่า มันก็ผ่านมาประมาณ 2 ปีแล้วมั้งที่เราไม่ได้เจอกันเลย นับตั้งแต่วันนั้น...วันที่เราตัดสินใจเลิกกัน
"จะกลับมาแล้วหรอวะ ไปเรียนนานชิบหาย กูนึกว่าไปตั้งรกรากอยู่ที่นั้นเหอะ" หัวใจที่เคยตายเฉา พอได้ยินชื่อ แอรีสกลับดูเต้นรัวขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ไม่รู้จะสนใจทำไม ตอนที่เธอจะไปเธอไม่เห็นจะสนใจผมเลยว่า ผมจะรู้สึกยังไง ผมยื่นมือไปหยิบแก้วแอลกอฮอล์สีอำพันกระดกขึ้นรวดเดียวจนหมด
"อ่าวๆ ได้ยินชื่อแฟนเก่าเข้าหน่อย ก็กินเหล้าเป็นน้ำเลย" ผมไม่สนใจคำพูดของไอ้วอร์ ผมก็กระดกแอลกอฮอล์เข้าปากไม่หยุด ตั้งแต่วันที่เราต้องแยกกันไปตามทางของชีวิต ผมก็ไม่ยอมรับใครเข้ามาในชีวิตอีกเลย ไม่ได้เป็นเพราะผมยังยึดติดกับแอรีสหรอกนะ แต่เป็นเพราะ....อะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมอาจจะยังไม่เจอคนที่ถูกใจล่ะมั้ง
"มึงก็อย่าไปพูดแบบนั้นดิวะไอ้วอร์ พวกเราสี่คนเป็นเพื่อนกัน และจะเป็นเพื่อนสนิทกันตลอดไป" ก็ไม่แปลกหรอกที่ไอ้กัปตันจะพูดแบบนั้น เพราะพวกมันเคยเตือนตั้งแต่ที่ผมกับแอรีสจะตัดสินใจคบกันแล้วว่า ถ้าเมื่อไรเรามองเพื่อนตัวเองไม่เป็นเพื่อนอีกต่อไป จังหวะนั้นแหละคือจังหวะที่เราต้องเสียเพื่อนไปตลอดกาล พอมาถึงวันที่เราเลิกกัน พวกมันก็เกร็งกันจริงๆแหละ แต่มากกว่าเพื่อนไอ้กัปตันกับไอ้วอร์เกร็งคือ คำพูดของแอรีสมากกว่า 'นั้นฉันจะแก้ปัญหานั้นโดยการที่ ถ้าวันนึงเราเลิกกันอ่ะ นายต้องห้ามไม่ชอบฉัน ห้ามทิ้งฉันและก็ต้องเป็นเพื่อนสนิทของฉันเหมือนเดิมด้วย' ตอนนั้นผมก็คิดว่า ผมอาจจะทำได้ แต่ตอนนี้ผมเริ่มชักไม่มั่นใจแล้วล่ะ ว่า ผมจะทำแบบที่เคยสัญญาไว้ได้หรือป่าว