@สนามบิน
อ๋าาาาาา! ฉันคิดถึงที่นี่ที่สุดเลย โอ๊ยยย! ไม่ได้กลับมานานขนาดไหนแล้วเนี่ย ฉันบินที่เรียนที่อเมริกาและก็ทำงานอยู่ที่นั้นสักพักนึง มันเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดเลยและวันที่ฉันรู้ว่า ได้ทุนไปเรียนคือ วันที่ฉันรับปริญญาพอดี และก็เป็นวันที่ฉันกับแฟน...เก่า เลิกกัน เขาไม่อยากให้ ฉันบินไปเรียนที่นั้น แล้วเขาก็ไม่อยากอยู่ที่นี่คนเดียว แต่ฉันคิดว่า ชีวิตคนเราก็ต้องเดินทางตามเส้นทางของตัวเอง ไม่ใช่ยึดติดกับคนรัก แต่ชีวิตไม่ได้ก้าวหน้าไปไหน มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าเราต้องอยู่ด้วยกัน แต่ไม่ได้ทำตามเส้นทางของตัวเอง เห้อออ! นึกถึงแล้วก็เศร้าใจ ตั้งแต่วันนั้นก็ยังไม่ได้เจอเขาอีกเลย
ตื้ดดดด ตื้ดดดด!
"ฮาโล กัปตัน แกมายังเนี้ย"
(เอ่อออ....แอรีส ฮ่าๆๆ แกอย่าโกรธนะ)
"อะไร จะมาสายว่างั้นสิ"
(ไม่ใช่.... แต่ว่าอยู่ๆ เมื่อกี้ก็มีงานกะทันหันหน่ะ แต่ แต่ แต่ ฉันไม่ได้จะให้แกมาเองนะ ฉันได้ส่งคนไปแทนแล้ว กลับดีๆ นะ ป่านนี้เขาน่าจะถึงแล้วแหละ ไปก่อนนะ)
"เห้ยยย! เดี๋ยวดิ ไอ้กัปตัน"
.
ไอ้บ้านี้มันนึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป แล้วใครเขาที่ว่า นี่มันคือใคร ฉันเดินออกมาจากประตูทางออก ก่อนจะหันซ้ายหันขวา แล้วก็ไม่บอกว่า เขาคนนั้นแต่งตัวยังไง ฉันจะไปรู้ได้ยังไง พรึ่บ! แล้วของฉันก็เยอะซะจริงๆ ไม่น่าอยากจะเอาของกลับมาให้หมดเลย
"แอรีส!" ฉันเงยหน้ามองตามเสียงเรียก เสียงคุ้นๆ จัง ก่อนจะเหลือบตาไปเห็น ผู้ชายตัวสูงในชุดสูทสีน้ำเงิน หน้าใบหวานที่มีลักยิ้มสองข้าง ภีม หรอ เขามารับฉันที่สนามบินอย่างนั้นหรอ
"อ่ะ...เอ่ออ... สวัสดี"
"อืม ไอ้กัปตันมันไม่ว่างอ่ะ มันเลยบอกให้ฉันมารับเธอก่อน" เราสองคนมองหน้ากันงงๆ แต่ฉันคิดว่า น่าจะเป็นเพราะการทำตัวไม่ถูกของเราสองคนมากกว่า แม้แต่ฉันที่เป็นคนพูดเองว่า ถ้าเลิกกันให้เรากลับมาเป็นเพื่อนสนิทกันเหมือนเดิม แต่มันดูยากกว่าที่คิดอีกแฮะ
"เป็นอะไร ง่วงหรือไง" หมับ! ฉันเบิกตากว้างเมื่อเข้ายื่นมาอังเข้าที่หน้าผากของฉัน ทำไมเขายังทำเหมือนสองคนเป็นแฟนกัน ต่างจากฉันที่ยืนแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น
"ตัวร้อนๆ ไปเถอะ จะได้พัก" พรึ่บ! เขาผละมือออกเบาๆ แล้วก็เดินมาลากกระเป๋าเดินทางของฉันไปเลย ปล่อยฉันยืนเหวออยู่กลางสนามบินเนี้ยนะ ตาบ้านี่! ฉันพยายามเดินตามหลังเขาอย่างเงียบๆ ไม่ได้เจอกันตั้ง 2 ปี ไม่รู้สิพอไม่ใช่แฟนกันมันก็ไม่รู้จะคุยอะไร แล้วก็ มันไม่ชินที่ต้องมาคุยกันแบบเพื่อนเพราะตลอดชีวิตของเราสองคนมันอยู่กันในฐานะแฟนมากกว่าเพื่อนหน่ะสิ
"เธอขนอะไรเยอะแยะขนาดนี้ กะไปอยู่ที่นั้นตลอดชีพเลยหรือไง" เขาหันมาพูดกับฉัน หลังจากที่ยกกระเป๋าของฉันขึ้นรถ ก็ไม่แปลกหรอกเพราะว่า ขนาดฉันที่เป็นเจ้าของกระเป๋ายังว่าหนักเลย
"จิ๊! ก็แค่ไม่อยากบินไปบินมาหลายรอบ"
"เธอบ้าสมบัติอะสิไม่ว่า" ฉันรีบถลึงตาใส่เขาทันที แต่เขาก็กลับเดินไปเปิดประตูขึ้นรถไปเลย ฉันไม่เคยยอมให้ใครมาว่าฉันแล้วก็เดินหนีแบบนี้เลยนะ เขาตอนเป็นแฟนกับตอนนี้ มันต่างกันจริงๆเลย
พรึ่บ!
"นี่นาย! ฉันไม่ได้บ้าสมบัตินะ นายจะมาว่าฉันแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย" ทันทีที่ฉันขึ้นมานั่งบน ก็รีบโวยวายเลยทันที แต่ไม่รู้เป็นเพราะว่าฉันนั่งรถคันนี้บ่อยหรือป่าว ตั้งแต่สมัยที่เราคบกัน เพราะว่า มันดูคุ้นชินไปหมด ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งหรือ...ความรู้สึก
"ก็เห็นอยู่ว่า เธอบ้าสมบัติ จะไปเรียนแค่ 2 ปี ขนไปอย่างกับจะไป 200 ปี" ฉันเบื่อจะเถียงกับเขาแล้ว พอเจอหน้ากัปตันนะฉันต้องรีบบอกมันทันทีเลยว่า ตาบ้านี่ ไม่สมควรไปรับใครที่สนามบินอีก โดยเฉพาะฉัน รถของเขาเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆ ไม่รู้ว่า ตอนนี้มันนานแค่ไหนแล้วที่ฉันต้องนั่งบนรถคันนี้ ท่ามกลางเสียงเงียบๆ แบบนี้ อึดอัดจะตายอยู่แล้วเนี้ย
"เธอไปอยู่ที่นั้นเป็นยังไงบ้าง"
"...ก็ดี"
"เรียนหนักมั้ย"
"ก็เฉยๆ"
"แล้วมีแฟนมั้ย"
"....." ฉันชะงักทันทีเมื่อได้ยินเขาถามออกมาแบบนั้น โดยที่สายตาของทอดตรงยาวไปข้างหน้า บางทีเขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรก็ได้ แต่ฉันก็ตกใจอยู่ดี
"อะไร ฉันก็แค่ถามเฉยๆ คนเป็นเพื่อนกัน ถามกันแบบนี้ไม่ได้หรือไง" ดูรู้ว่า เขากำลังประชดฉันอยู่ ฉันหันออกไปมองหน้าต่างข้างๆ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
"ไม่มี"
"แล้วเธอจะหงุดหงิดทำไม"
"ฉันไม่ได้หงุดหงิด" เขารู้ได้ไงว่า ฉันหงุดหงิด จิ๊! ช่างเถอะ เขามันเป็นคนชอบรู้ดี รู้ทันคนอื่นตลอดนั้นแหละ
"ขนาดฉันไม่ได้หันไปดูหน้าเธอ ฉันก็รู้แล้วกันว่า เธอหงุดหงิด ทำไม เธออยากให้ฉันถามในฐานะอื่น ที่ไม่ใช่ในฐานะเพื่อนหรอ" เคยมีใครบอกมั้ยว่า เขาเป็นคนชอบประชดคนอื่นมากแค่ไหน
"จิ๊! ถามในฐานะเพื่อนนี่แหละ! นายจะประชดฉันไปถึงไหน"
"ฉันไปประชดอะไรเธอ ฉันถามเธอด้วยความเป็นห่วงนะเนี้ย ปล้ำๆเป๋อๆ อย่างเธออ่ะ ไปมีแฟน สงสารผู้ชายตายเลย" ฉันอ้าปากค้างเลย อีตาบ้านี้มันเปลี่ยนไปจริงๆ นายควรจะเป็นห่วงฉัน ไม่ใช่ผู้ชายสิ!
"ไอ้บ้า! นายต้องสงสารฉันสิ ฉันจะเพื่อนนายนะ แล้วนายอยู่ที่นี่เป็นยังไงบ้าง แต่งตัวซะดูดีเลย"
"ก็ไม่เป็นยังไง ก็แค่ใช้ชีวิตไป ตามเส้นทางหน่ะ"
"แล้วมีแฟนมั้ย"
"แหมมมมมมมม! ถามแบบนี้คิดไรป่ะเนี้ย" ฉันรีบกรอกตามองบนทันที
"อ่ะ! ถึงแล้ว เธอรอที่บริษัทฉันก่อน ฉันมีประชุมด่วน" ฉันมองตามหลังเขาไปอย่างเงียบๆ ทั้งที่มันควรจะไม่รู้สึกอะไรไม่ใช่หรอ แต่พอเห็นเขาไม่ตอบแบบนั้น ในใจฉันมันกลับวูบขึ้นมาทันที เหมือนเขา...ไม่อยากจะบอก