5-1 *******งูนั้นล่อลวง

1178 Words
5 *******งูนั้นล่อลวง เหวสูงชันสุดทางป่าพรรณพฤกษาหน้าทางเข้านรกภูมิบัดนี้ คล้องด้วยโซ่ตรวนขนาดใหญ่สีขาวเจิดจ้าสาดตา เทพอู่เฉินบอกกับภริยาว่าจะต้องรอข้างบนส่งสัญญาณบอก จึงจะออกไปได้โดยไม่ต้องเปลืองแรงตัดโซ่แห่งหยินให้ขาดออกแล้วต่อเข้าด้วยกันใหม่อีกครั้ง ด้วยเหตุว่าราชาแห่งสวรรค์คงตั้งใจขังปีศาจอสรพิษอย่างนางเฟยอี๋ไว้ ไม่ให้นางขึ้นไปสร้างความวุ่นวาย ทว่ามารดาอสรพิษก็โปรดปรานการสร้างความวุ่นวายเสียจริง แถมเมื่อรู้ว่าอาเป้ยล่อลวงไม่ได้โดยง่ายดาย นางเริ่มเข้ามาปั่นป่วนด้วยการใส่ร้ายป้ายสี กุเรื่องขึ้นมาสารพัด เช่นว่าบุตรชายเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสตรีมากหน้าหลายตา เทพปีศาจผู้นี้หลายใจมีภริยาอยู่แล้ว ตั้งใจลวงหลอกนางไปเป็นอนุ นางเองก็มีบ้านอีกหลังหนึ่งเป็นบ้านของอนุภริยา หากรักไม่มั่นคงก็คงจะสมใจมารดา อาเป้ยอารมณ์ไม่สู้ดีมาสองราตรีแล้ว จนมองไม่เห็นรอยยิ้มบนใบหน้า ยังรับรู้ได้ว่าการถูกปีศาจหลอกลวงคืออะไร ไยอสรพิษและงูจึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการล่อลวงปั่นป่วนบนโลกมนุษย์ “เกล็ดสีนิลของท่าน... แสนงดงาม... ข้ามีความรู้สึกว่ามันนิ่มนวลอ่อนหวาน แตกต่างไปจากเกล็ดมัจฉาเพราะไม่มีกลิ่นเหม็นคาว มันหอมอบอวลและงดงามกว่ามาก ยามสะท้อนแสงจันทร์ราวไข่มุกดำในท้องทะเลลึก” นางหันไปเอ่ยชมบุรุษเทพปีศาจผู้กลับร่างเป็นอสรพิษคราหนึ่ง เพื่อโบยบินขึ้นสู่ท้องนภากว้างไปนำของหลายอย่างมาให้นาง บนตั่งนอนขนาดใหญ่มีทั้งฟูกนุ่ม หมอน ผ้าห่มหนา โต๊ะสำหรับจิบชา เทพอู่เฉินจัดวางให้นางเรียบร้อย หลังสะบัดมือเพียงครั้งก็เนรมิตได้ดั่งใจ นางจึงได้นั่ง ๆ นอน ๆ อย่างสะดวกสบายใต้แสงมืดสลัวจากเปลวเทียนวูบไหว โดยปกติแล้วเทพเซียนมักพกพาสมบัติส่วนตัวไปไหนมาไหน เทพอู่เฉินไม่คาดคิดว่าจะต้องค้างอ้างแรม จึงไม่ได้นำสิ่งของติดตัวมามาก และในเมื่อมารดาขโมยกระจกหยินหยางของท่านไป ท่านก็เลยไปขนของในบ้านของมารดาซะบ้างซึ่งนางไม่ได้ว่า อย่างที่ท่านเคยลั่นวาจาว่าท่านแม่ให้ท่านได้ทุกสิ่งอย่าง หากไม่ติดเรื่องวาจาระคายหู กิริยาไม่น่าดูชม และความบ้าคลั่ง นางจะนับเป็นมารดาที่ดีทีเดียว “เจ้ามีตาหามีแววไม่ เอาอะไรตรงไหนมางดงาม เกล็ดปีศาจนั่นเรียก... อัปลักษณ์” “ท่านแม่... ข้าขออยู่กับสามีตามลำพังเถิด” อาเป้ยบอกสตรีใบหน้างดงามในทางฝั่งซ้ายมือของนาง นางเฟยอี๋ดูรุ่นราวคราวเดียวกันมากเสียกว่าจะเป็นมารดาได้เพราะนางเป็นปีศาจเต็มกาย ก่อนจะหันกลับไปพูดกับสามี “ท่านไม่เสียใจใช่หรือไม่ ในเรื่องนี้... เป็นปมปัญหาในชีวิตของท่านหรือไม่” “ไม่เลย เพียงแต่...” เทพอู่เฉินมีสีหน้าครุ่นคิดเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต ขณะนั่งลงข้างภริยา โอบเอวของนางเอาไว้ “ข้าไม่เคยมีมิตรสหายเพราะเรื่องนี้ เมื่อข้ายังเล็กนัก บางคราข้าเล่นซุกซนจนเผลอใช้พลังจนหมดไป ก็จะกลับไปอยู่ในร่างครึ่งบุรุษครึ่งอสรพิษ จะมีแค่พวกปีศาจอสูรตระกูลที่มีหางครึ่งหนึ่งของร่างกาย อย่างท่านอาหลิ่งฟางมีอีกร่างเป็นม้าน้ำ ปีศาจกระเบนปีศาจเงือก พวกเขายอมพูดคุยกับข้า โดยไม่รังเกียจข้า...” “เทพบนเทวโลกต่างพูดกันว่า เกล็ดสีนิลของอู่เฉิน บุตรชายของนางเฟยอี๋ อัปลักษณ์... อย่าไปเข้าใกล้มัน” คำพูดนางมารดาทำให้อาเป้ยมองขวับตามอีกครั้ง “ข้าว่างาม ท่านอู่เฉินรูปงามนัก” “เจ้าอัปลักษณ์จะตายไป... วันที่ข้าคลอดเจ้าออกมา ข้าว่าเจ้าน่ะน่ารังเกียจนัก ขนาดท่านพ่อของเจ้าได้พบเจ้าคราแรก หน้าตาอาการคลื่นไส้ ขยะแขยง รีบเผ่นกลับเทวโลก ฮึ!” แล้วนางก็หัวเราะออกมาอย่างเสียสติยังว่า “ไอ้พวกเทพมังกรมันน่าตลกขบขันเสียจริง ๆ” “นั่นคงเป็นเรื่องในอดีตอันไม่น่าจดจำของท่าน ข้ายืนกรานคำเดิมว่างดงาม” “เจ้าอู่เฉินอัปลักษณ์” “ท่านแม่ ท่านอย่าได้พูดคำนี้อีก ท่านไม่ควรทำร้ายจิตใจสามีข้าทางวาจา ข้าขอเตือนท่าน...” “อัป...” “ข้าบอกว่างามก็งามยังไงเล่า! ท่านหูหนวกรึไง ไปให้พ้นหน้าข้าเสีย!” อารมณ์เกรี้ยวกราดนำพาทั้งไอหยินและเวทสีทองรวมเข้าด้วยกันฟาดใส่หน้ามารดาปลิวละล่องไปสุดสายตา อาเป้ยไม่รู้ตัวว่านางทำอะไรลงไปเมื่อหยัดยืนขึ้นพร้อมฝ่ามือที่เต็มไปด้วยไอเวทสีดำ และค่ายกลสีทองซึ่งปรากฏอักขระมากมายลอยอยู่ในอากาศ นางหอบหายใจแรงด้วยความรู้สึกเคียดแค้น อยากจะสังหารผู้ที่พูดเอ่ยคำว่าอัปลักษณ์เสีย เทพอู่เฉินนั่งนิ่งงัน จนนางหันไปมองใบหน้าซีดเผือดของท่าน “ท่าน... อู่เฉิน...” จากนั้นนางก็ละล่ำละลักพูด “ข้า... ข้า ขออภัย ข้าเพิ่งตบหน้าท่านแม่ของท่าน ข้าไม่ได้มีเจตนา... ข้าทำอะไรลงไป... ข้าทำอะไรลงไป ท่านแม่” หญิงสาวดูตระหนกตกใจในสิ่งที่ทำลงไปโดยไร้สำนึก ผู้เป็นสามีจึงลุกขึ้นยืน เข้าไปโอบเอวนางเอาไว้เพื่อปลอบประโลมให้นางหยุดสั่นกลัว แทนที่จะบริภาษนางกลับให้กำลังใจ “ท่านราชาแห่งสวรรค์คงชอบใจภริยาข้าแน่ ๆ เจ้าสามารถตบจ้าวปีศาจอย่างนางเฟยอี๋ได้ด้วยฝ่ามือเดียวของเจ้า แต่เจ้าต้องพยายามสงบอารมณ์ของเจ้าลงหน่อยก็ดี ข้าเกรงว่า...” ปลายเสียงเงียบไป เมื่อสบแววตาคู่สวยเอ่อคลอ คล้ายว่านางจะร้องไห้ออกมาเพราะเผลอตบท่านแม่ “เจ้ากำลังอ่อนไหวนัก ทั้งธาตุหยินหยางและสติของเจ้าไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ เจ้าไม่สมควรอยู่ในนรกภูมิกับท่านแม่ของข้า จะยิ่งไปกันใหญ่ เราควรไปหาที่หลบซ่อนตัว ที่ใดสักแห่ง” “เราสามารถหลบท่านแม่ได้หรือ?” “นรกภูมิกว้างใหญ่ไพศาล มีหลายภพภูมิไม่แพ้เทวโลก เอาล่ะ... ข้าจะพาเจ้าไปเที่ยวชมบ้านเกิดของข้า เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลใจไป ภริยาที่รักของข้า...” เทพอู่เฉินดูใจเย็นเสียเหลือเกิน ต่างจากนางผู้มีหน้าตาซีดเซียว ชะโงกคอมองหาปีศาจที่หายลับขอบฟ้า นางยกมือขึ้นประสานกันพลันก้มศีรษะลง ด้วยความรู้สึกผิดอย่างใหญ่หลวง “ท่านแม่... ข้าขออภัยท่าน ข้าไม่รู้สึกตัวเลย ไว้ข้าจะมาขอขมาท่านในภายหลัง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD