3
**********การแก้แค้นเป็นงานของคนโง่เขลา
“เพราะนังแพศยานั่น! ท่านพ่อของเจ้าจึงได้ทอดทิ้งเราสองแม่ลูก”
เสียงตะโกนกึกก้องดังไปทั่วท้องนภาสีแดงฉาน ใต้ดวงจันทร์รุธิระ แววตาเคียดแค้นชิงชังของจ้าวปีศาจประกาศศึกต่อเทพแห่งสายน้ำ ใต้เท้าจีกง บุตรชายทั้งสอง และเทพฝั่งนางฟางเหนียงอีกถึงสาม ผู้มาร่วมเดินหมากเซี่ยงฉีในราตรีนี้
ทันทีที่นางเฟยอี๋เบิกตรีเนตร มองเห็นบุตรชายปลดปล่อยวงแหวนแห่งพลังหยินใส่ถุงผ้าสีทอง นางรีบสลัดเกล็ดสีนิลทำลายโซ่ตรวนหน้าปากทางเข้านรกภูมิ เพื่อขึ้นมาบนภพภูมิบาดาล ด้วยความขุ่นข้องใจเป็นอย่างมาก
เมื่อนางขึ้นมาทั้งกายาอันโอฬารในสวนของเป่าเป้ย กลับถูกตรึงบนวงเวทสีเหลืองทองของสำนักเทียนหลง ตามแผนการของท่านฮุ่ยหมิงได้เตรียมกับดักรอต้อนรับนางเอาไว้ พร้อมด้วยของวิเศษหลายอย่าง ซึ่งไปหามาจากเทวโลก เพื่อสยบพลังของนางให้อ่อนกำลังลง ทั้งโซ่ตรวนแห่งแสงสว่าง กระจกแห่งพลังหยาง ใช้ร่วมกับเวทสีทองล้วนปราบปีศาจอสูรได้เป็นอย่างดี
ปีศาจไม่ถูกกับเวทเซียนสีเหลืองทอง ผู้ใช้เวทชนิดนี้มีเพียงนักปราบปีศาจ นักพรตนักบวช แต่อักขระที่วาดด้วยเลือด ใช้เป็นอาวุธในการทำร้ายศัตรูได้ มีเพียงแห่งเดียวบนโลกมนุษย์ สำนักเทียนหลงมีชื่อเสียงเลื่องลือเรื่องการจับวิญญาณและปราบปีศาจมาเนิ่นนานนับพันปี
หมากเซี่ยงฉีบนกระดานไม้ของเทพเจ้าแห่งสายน้ำยังกลับกลายเป็นเวทสีเขียวและฟ้า เป็นเชือกรัดพันธนาการปีศาจอสรพิษเอาไว้
กระนั้น พลังทำลายล้างของจ้าวอสรพิษมากล้นเหลือคณา เมื่อนางเพิ่งพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส จำศีลอยู่ในนทีอันธการ จนกระทั่งพลังปีศาจกลับมาเต็มเปี่ยมเต็มกาย
เพลิงกัลป์ลุกท่วมไปทั่วแม้ต้นไม้ใบหญ้ากลับกลายเป็นสีดำสนิท พลังอันล้มปริ่มนำพาไอหยินแผ่กระจายไปทั่ว แม้ค่ายกลสีทองยังถูกบดบังด้วยกลุ่มควันดำ คืบคลานไปอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งดั่งเช่นพลังของนางผู้เป็นจ้าวปีศาจ
“ลูกรัก... งานแก้แค้นสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด”
“เจ้าควรปล่อยวางเสียเฟยอี๋ การแก้แค้นเป็นงานของคนโง่เขลา” ท่านนักพรตอาวุโสพูดเตือนสตินาง มารดาอสรพิษจึงเริ่มส่งเสียงหัวเราะอย่างสตรีวิปลาส
“ฮ่า ๆ โง่เขลารึ! สำนักเทียนหลงของพวกท่านก็ใช่ย่อย อย่ามาทำเป็นสั่งสอนข้าไปเลย...”
“ลืมเรื่องแก้แค้นไปเถิดท่านแม่ ป่านนี้นางไปจุติในภพภูมิของนางแล้วกระมัง”
“ไปไม่ได้! เครื่องสังเวยจุติได้ที่ไหนเล่าลูก... วิญญาณของนังนั่นไปไหนไม่ได้ ฮ่า ๆ”
ในเสียงหัวเราะอัดอั้น เพลิงโทสะสุมทรวงสาหัสสากรรจ์ เมื่อบ่าวสตรีรับใช้ผู้เคยเป็นเครื่องสังเวยของนาง นำเรื่องที่นางเป็นปีศาจไปบอกกับสามี คราเทพฮ่าวหรานลงไปเผชิญด่านเคราะห์บนโลกมนุษย์ ก่อนสิ้นสลายไปในเวหา
นางเฟยอี๋ฝังใจเคียดแค้นบ่าวสตรีรับใช้ ซึ่งได้รับเป็นบรรณาการจากเพื่อนบ้าน ว่าเป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด จึงอยากครอบครองหยกพันปี เพื่อฟื้นคืนเครื่องสังเวยขึ้นมาทรมานให้สาแก่ใจ ก่อนหน้านี้ได้สั่งให้เหล่าอสูรไปหามันมาให้นาง ทั้งป๋ายเซี่ย อสูรพยัคฆ์ก็ดันไม่ได้เรื่องได้ราว
“ส่งหยกพันปีมาให้แม่นะลูก... ลูกรัก...”
“ลูกขอเถิดท่านแม่ ให้ลูกสักครั้ง... ลูกไม่ปรารถนาสิ่งใดจากท่านอีกแม้สักอย่างเดียว”
“ไม่ อู่เฉิน! เจ้าลูกชายดื้อด้าน เจ้ามันน่ารังเกียจเหมือนพ่อของเจ้า!”
การเจรจากับมารดานั้นไม่เป็นผล ฝั่งบุตรชายล่วงรู้จิตใจของมารดายามถูกโทสะครอบงำ คงไม่ยอมโอนอ่อนตามใจผู้ใด จึงเร่งมือระหว่างมิตรสหายช่วยกันถ่วงเวลา สร้างพายุระลอกใหญ่เป็นไอหยิน ขดเกล็ดอันแข็งแกร่งราวเหล็กกล้าเป็นวงกลม ล้อมรอบถุงผ้าสีทองเอาไว้
ท่านฮุ่ยหมิงและเหล่าเทพแห่งสายน้ำยังคงช่วยกันออกแรงพันธนาการนางเฟยอี๋ไว้ในค่ายกลสีทอง และเชือกหลากสีของเทพแห่งสายน้ำอย่างสุดกำลัง เมื่อถุงผ้าสีทองดูดไอหยินเหล่านั้นเข้าไปเป็นจำนวนมาก
“อู่เฉิน! ส่งหยกพันปีมาให้แม่!” เสียงแหลมเล็กตะคอกเพียงครั้ง เกิดแรงระเบิดมหาศาลจนเหล่าเทพกระเด็นไปคนละทิศทาง ทั้งเวทสีทอง อักขระมากมายบนท้องนภาสลับกับวงเวทสีเขียวและสีขาว ถูกสลัดออกด้วยการสะบัดปลายหางอสรพิษ กระจกหยางของท่านฮุ่ยหมิงยังแตกเป็นเสี่ยง ๆ
การที่ถุงผ้าสีทองขยายใหญ่และขาดออก ปรากฏเป็นร่างวิญญาณของสตรีนางหนึ่งในค่ายกลดาวหกแฉก นางเฟยอี๋รู้ตนดีว่าคงเหลือเวลาไม่มากในการยื้อแย่งหยกพันปี
“อนาคตของเจ้าจะไม่สว่างไสวเปล่งประกายดังชื่อของเจ้า ที่แม่ตั้งให้เจ้า หากว่าเจ้าไม่ฟังแม่ อู่เฉิน [1] ... เจ้าจะพบนรกภูมิอันดำมืด มืดหม่น... ในราตรีนี้”
เทพอู่เฉินเคยถูกมารดาตำหนิ คราวเป็นเด็กน้อยเล่นซุกซน จำเสียงเข่นเขี้ยวของมารดาได้อย่างแม่นยำ หากท่านแม่ไม่ขึ้นเสียงตะคอก ไม่หัวเราะเมื่อใด เรียกได้ว่าชะตาขาดเป็นแน่แท้
ยิ่งนางเริ่มออกแรงต่อสู้กับเหล่าเทพแห่งสายน้ำ และนักพรตนอกรีต ซึ่งคอยขวางกั้นนางไม่ให้เข้าไปถึงตัวบุตรชายและหินก้อนหนึ่ง ตราบจนกระทั่งร่างโปร่งใสเริ่มเป็นรูปร่างชัดเจน สตรีผู้ดิ้นรนหาทางออกในค่ายกลหกแฉก มีสีหน้างุนงงเมื่อมือทั้งสองกลับมามีเนื้อหนังมังสา ท่านอาจารย์ฮุ่ยหมิงหันไปสะบัดมือ ปลดผนึกค่ายกลสีทองออก
ไม่ทันกาล สายไปเสียแล้ว แต่เพราะแรงมหาศาลนั้นจะทำให้การหล่อหลอมเครื่องสังเวยนี้ไม่สำเร็จสมบูรณ์ ร่างอสรพิษจึงสลัดลูกแก้วปีศาจกว่าสามสิบแปดลูกใส่เรือนร่างงาม สร้างพายุดำมืดล้อมรอบนางเอาไว้
เทพอู่เฉินคิดว่าท่านควรทำเช่นนี้แต่แรก เช่นวันที่นางตั้งใจร่ายรำอย่างงดงามให้ท่านเชยชม มอบจุมพิตให้ท่านด้วยความรักใคร่ ไม่ว่าท่านจะอยู่ในร่างใด จึงขังนางเอาไว้ในกำแพงสูงชันซึ่งเป็นเกล็ดสีนิลอันแข็งแกร่ง
น่าเสียดายที่ผลัดเกล็ดสีนิลเป็นลูกแก้วหมดแล้ว และนี่เป็นเกล็ดสุดท้าย
รักมั่นคง เนิ่นนาน ต่อให้ต้องสิ้นลมหายใจไปพร้อมกับการพบหน้านางอีกสักครั้ง ท่านคงถือเสียว่าเคราะห์ร้าย วาสนาไม่นำพา ไม่ได้กลับมาครองคู่กันอีกในภพนี้
ทำดีที่สุดแล้ว... มอบชีวิตให้นางฟื้นคืนกลับมาบนเทวโลกแล้ว...