ตอนที่ 3

1633 Words
3 ชายหนุ่มเดินไปทุ่มตัวลงบนเตียงนอน ที่ตอนนี้มีนูนเหมือนกับมีใครบางคนนอนรอยคอยเขาอยู่ รอยยิ้มแต้มบนใบหน้าคมคร้าม “มาเปิดแอร์เย็นๆ นอนรอพี่บนเตียงเลยหรือสาวน้อย” ชายหนุ่มถาม แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ เขาจึงดึงผ้าห่มนวมออกช้าๆ แล้วก็ต้องให้แปลกใจกับคนที่นอนอยู่เบื้องหน้า สาวน้อยผิวสีน้ำผึ้ง ใบหน้ารูปไข่ ขนตายาวงอน จมูกโด่งรับกับริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูอิ่มเต็ม เรื่อยลงไปตามลำตัว แม้ว่าจะมีเสื้อผ้าปกปิดอยู่ แต่ความอวบอิ่มที่เขาเห็นจากภายนอกยังโดดเด่นชัดเจน ชายหนุ่มไล่สายตาลงไปเรื่อยๆ แล้วก็ต้องให้แปลกใจยิ่งขึ้น เมื่อแม่สาวน้อยที่จะมาทำงานให้เขาดันสวมใส่กางเกงยีน เขาไล่มองกลับไปด้านบนอีกครั้ง “เธอช่างน่ารักมาก” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงแผ่วราวกับตกอยู่ในมนต์สะกด ชายหนุ่มเคลื่อนมือไปไล้ริมฝีปากสีชมพู ใบหน้าคมก้มตามลงไปอย่างช้าๆ ก่อนจะแนบจุมพิตลงบนเรียวปากนุ่มแผ่วเบา แม้ว่าคนเบื้องล่างจะยังไม่ได้สติ แต่ความอ่อนหวานที่ ได้รับ ทำเอาเกเบรียลถึงกับปวดร้าวเรือนกายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “เธอนี่ท่าทางจะร้อนแรงไม่ใช่เล่นเลยนะสาวน้อย ทำเอาฉันทั้งร้อนและกระชุ่มกระชวยจนเนื้อเต้นแบบนี้” ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เคยได้หลับนอนกับผู้หญิงเสียเมื่อไหร่ แต่กับหญิงสาวที่นอนหลับสนิทตรงหน้า มันแตกต่างออกไป ความปรารถนาเอ่อล้นขึ้นมาอย่างหักห้ามใจเอาไว้แทบไม่ไหว แต่ในขณะเดียวกันเธอก็ทำให้เขาอยากปกป้อง ที่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกแบบนี้ ชายหนุ่มกดจุมพิต บดคลึงลงไปอย่างหนักหน่วง แต่เพราะหญิงสาวหลับอยู่ มันทำให้เขารู้สึกไม่อิ่มเต็มในรสสวาทที่ได้รับ เขาถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย พยายามระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ลง ก่อนจะเอนตัวลงนอน โอบแขนรอบลำตัวบอบบาง ดูซิแค่ได้เห็นหน้า...ได้สัมผัส แค่นิดเดียวเท่านั้น ภาพของเธอติดตรึงอยู่ในสมอง กลิ่นหอมหอมของผิวกายนุ่ม ตามติดฝังแน่นในใจเสียจนเขาปิดตาลงไม่ได้ เออ...แล้วเขาจะทนกับความต้องการทำไม ก็เพียงแค่ผู้หญิงที่ขายเรือนร่างแลกกับเงิน ดูเหมือนว่าหญิงสาวที่นอนอยู่จะนอนพักผ่อนเอาแรงเพียงพอแล้ว ร่างบอบบางจึงเริ่มมีการเคลื่อนไหว สร้างรอยยิ้มให้กับเกเบรียลเป็นอย่างมาก เพราะว่าเขากำลังคิดว่าจะปลุกเธอให้ตื่น ด้วยสัมผัสหวานๆ อยู่พอดี ที่นี่ที่ไหนกัน... ภูตะวันกะพริบตาปริบๆ ดวงตากลมโตพร่าเลือนเมื่อได้เจอกับแสงไฟที่ส่องสว่างอยู่ สมองก็เริ่มนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ก่อนจะเบิกตากว้าง จำได้ว่าตอนที่หนีคนพวกนั้นเข้ามาแอบอยู่ในห้องนี้...ไฟไม่ได้สว่างโร่แบบนี้ แล้วไหนจะยังมีอะไรหนักๆ ที่ทับอยู่บนลำตัวอีกล่ะ เกเบรียลพลิกกายแนบชิดลำตัวบอบบาง รอยยิ้มแต้มบนใบหน้า ดวงตาคมดุสบกับดวงตากลมโตใสแจ๋วที่มองเขาอย่างตื่นตระหนก หัวใจเธอเต้นแรงและเร็วราวกับจะทะลุออกจากอกจนเขารับรู้ได้ เช่นเดียวกับใบหน้าผุดผาดที่ยั่วยวนให้เขาหลงใหล ภูตะวันหายใจหายวาบ จะร้องแต่ก็โดนปิดด้วยปากอุ่นร้อนจากคนที่ทาบทับอยู่ เธอพยายามดันกายใหญ่ให้ออกห่าง แต่ก็เหมือนว่าเอามือไปผลักหินผา ที่ไม่มีทีท่าจะขยับเขยื้อนเอาเสียเลย แล้วหญิงสาวก็ต้องตื่นตระหนกยิ่งขึ้น เมื่อเจอกับสัมผัสร้อนผ่าวที่ลามเลียอยู่ทั่วใบหน้า “ผิวเธอทั้งนุ่มและหอมมากเลยนะสาวน้อย” ชายหนุ่มจูบเรียวปากนุ่มอย่างหนักหน่วง ขบกัดแล้วแทรกลิ้นร้อนๆ เข้าไปควานหาความหวานละมุนในโพรงปากนุ่ม จุมพิตราวกับจะกลืนกินภูตะวันเข้าไปหมดทั้งตัว “อื้อ...ปล่อย” เกเบรียลจับมือเรียวขึ้นไปตรึงไว้เหนือศีรษะ รอยยิ้มไม่ห่างหายจากใบหน้าคม ขณะดันตัวเสื้อนอกที่หญิงสาวสวมใส่อยู่ให้หลุดจากร่าง แต่เพราะว่าเสื้อตัวเล็ก มันเลยหยุดอยู่เมื่อเลยพ้นบ่ามาเพียงแค่เล็กน้อย แต่ในที่สุดเขาก็กำจัดเสื้อออกจากกายอรชรได้ “ปล่อย...ปล่อยฉันนะ” หากคำตอบที่เธอได้รับกลับเป็น... “ผิวเธอเนียนนุ่มมือดีนะ” เขาเริ่มจากด้านล่างของตัวเสื้อ ปลายนิ้วยาวป้วนเปี้ยนอยู่แถวกลางลำตัวตัวอย่างนุ่มนวลและแผ่วเบา ดวงตาก็มองทรวงอกอวบที่สะท้อนขึ้นลงตามแรงหายใจ ภูตะวันตกตะลึงตาเบิกกว้าง เมื่อกี้ก็โดนจุมพิตราวกับจะดึงเอาวิญญาณออกจากร่างไปทีหนึ่งแล้ว ตอนนี้ความเย็นของอากาศก็เริ่มเข้าปกคลุมร่างกาย เมื่อถ่านร้อนๆ ที่นาบลงไปบนผิวเนื้อเนียนนุ่มเคลื่อนขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงปทุมถันกลมกลึง “ใครนะ ช่างเลือกเธอส่งมาให้ฉัน เลือกเก่งจริงๆ อย่างนี้ต้องตกรางวัลให้เยอะๆ หน่อยแล้วล่ะ” เขามองใบหน้าแดงระเรื่อ พลางลากไล้มือไปบนใบหน้ารูปไข่ เคลื่อนลงไปบนเรือนกายนุ่ม ริมฝีปากเธอเจ่อบวมเล็กน้อย เพราะฝีมือเขาที่บดคลึงอย่างหนักหน่วงไปเมื่อครู่ “คุณ...คุณปล่อยตะวันนะคะ” หญิงสาวเอ่ยบอกอย่างที่ลืมไปว่า เมื่อครู่ได้พูดเป็นภาษาไทย แล้วชายหนุ่มตรงหน้านี้คงจะไม่เข้าใจ เธอเลยพูดใหม่อีกครั้งเป็นภาษาอังกฤษ ด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ด้วยความตื่นตระหนก       “ทำไมฉันต้องปล่อยเธอด้วยล่ะสาวน้อย” เกเบรียลถาม จุมพิตของเธอช่างแสนหวานติดตราตรึงจนเขาเฝ้าวนเวียนคิดถึงแต่ผิวเนื้อเนียนนุ่มและหอมละมุน อยากจะรู้นัก ยามที่ร่างกายเขาเคลื่อนไหวซอกซอนจมลึกไปในความอบอุ่นและฉ่ำร้อน การตอบสนองของหญิงสาวจะเป็นอย่างไร เขาจะมีความสุขแค่ไหนกับการตอบรับของเธอ “รู้ไหม เธออยากรู้สึกเวลาที่...” นิ้วใหญ่เคลื่อนไปด้านหลัง สะกิดตะขอเสื้อของหญิงสาวเพื่อปลดปล่อยปทุมถันอวบอิ่มให้เป็นอิสระ เมื่อได้เห็นความสวยงามของเนินเนื้อเต่งตึงเนียนนุ่มสีน้ำผึ้งตัดกับปลายยอดสีชมพูแข็งเป็นไต ชายหนุ่มถึงกับกลืนน้ำลายลงคอดังเฮือก “สัมผัสกับเจ้านี่” เกเบรียลอ้าปากแนบลงไปบนทรวงอกนุ่มหยุ่น ส่งมือเข้าไปกอบกุมอีกข้างไว้ ความนุ่มเต่งตึงที่ได้รับทำให้เลือดในกายหนุ่มเดือดพล่าน เขากดมือและปากย้ำลงไป จากแผ่วเบาแล้วทวีความหนักรุนแรงขึ้น เมื่อได้รับการตอบสนองอย่างไม่ประสีประสาจากสาวน้อยใต้ร่าง “คุณ...” ภูตะวันอ้าปากค้าง เธอไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เลยไม่รู้ว่าจะรับมือกับชายหนุ่มได้ยังไง ถึงจะทำให้เขายอมปล่อยเธอเป็นอิสระจากอะไรแปลกๆ ที่มันกำลังรุมเร้าเรือนกายอยู่ “หืม...มีอะไรสาวน้อย” ชายหนุ่มถาม “รู้สึกดี...ชอบให้ฉันทำอย่างนี้ใช่ไหม” เขาฟอนเฟ้นทรวงอกอวบอิ่ม เขาแนบปากลงบนปทุมงามอีกข้างด้วยความพอใจในการตอบสนองแบบไร้ประสบการณ์...ความไร้เดียงสาที่ได้รับ ที่ยิ่งเร่งเร้าและปลุกความต้องการของเขาให้พุ่งสูงปรี๊ดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “ไม่...ไม่ใช่” ภูตะวันพยายามเบี่ยงกายหนีปากและมือที่ฟอนเฟ้นร่างกายอยู่ แต่มีหรือที่แรงเท่ามดตะนอยอย่างเธอจะหาญสู้กับแรงช้างสารได้ ความร้อนผ่าวจึงลามเลียไปทั่วเรือนกายอย่างรวดเร็ว “หยุดเถอะนะ...ฉันขอร้อง” หญิงสาวอ้อนวอนเสียงสั่น ดวงตากลมโตมองชายหนุ่มอย่างเว้าวอนขอร้อง ริมฝีปากและลำคอแห้งผากกับความร้อนรุ่มที่ทาบทับบนเรือนกาย พร้อมกับความรู้สึกแปลกๆ ที่ตามติดเวลาที่ชายหนุ่มแตะต้องตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย “ทำไมถึงชอบพูดคำนี้นัก แต่รู้ไหม ยิ่งห้ามฉันยิ่งอยากจะทำอย่างนี้...” ปลายลิ้นสากระคายไล้ไปบนผลทับทิมอย่างแผ่วเบา ความหวานละมุนที่ได้รับทำให้ชายหนุ่มถึงกับอิ่มเอมอย่างที่ไม่เคยได้รับจากสาวคนไหนมาก่อนเลย เขาเคล้าคลึงฟอนเฟ้นตั้งแต่ฐานยอดจนถึงปลายยอดปทุมถันหดเกร็ง ปากหนาเคลื่อนไปหาปทุมถันงามอีกฝั่ง อย่างไม่ยอมให้มันต้องน้อยหน้า ผิวเนื้อหญิงสาวเนียนนุ่ม รวมไปถึงหอมละมุนราวกับกุหลาบแรกแย้ม แล้วก็ยังสดใหม่ราวกับว่าไม่เคยต้องมือชายมาก่อนเลย “เรา...เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เรา...ไม่ควรทำอย่างนี้” นิ้วยาวยกขึ้นปิดปากนุ่ม “เรากำลังทำความรู้จักกันอยู่นี่ไง เรียนรู้แบบ...ใกล้ชิด” เกเบรียลกลืนกินเชอร์รี่ผลหวานอย่างตะกรุมตะกราม “ไม่...มันไม่ควรเป็นแบบนี้” หญิงสาวพ้อเสียงสั่ง ความเย็นจากแอร์ที่เปิดอยู่ ยังไม่สู้ความร้อนจากปากหนาที่เคลื่อนไหวเป็นประวิงอยู่ขณะนี้ ปากร้อนผละจากปลายถันข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง กลืนกินมันอย่างหนักหน่วง จนเธอหายใจหายคอแทบไม่ทัน ยังจะคิดอะไรไม่ออกด้วย  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD