‘ที่ผ่านมาดินไม่เคยให้แหวนเข้าไปอยู่ในโลกของดินเลยใช่ไหม’
‘…’ ไม่เคยมีคำตอบ หรือคำพูดดี ๆ หลุดจากปากเขาแล้วทำให้ฉันรู้สึกดีสักครั้ง คำพูดของเขาที่พูดกับฉันแทบจะนับครั้งได้ ทั้งที่เราอยู่ด้วยกันมาก็หลายปี
‘แหวนนี่ก็โง่นะ รู้ทั้งรู้ก็ยังถาม ทั้งที่รู้ว่าถามไปดินก็ไม่ตอบ’
‘พูดจบหรือยัง’ สายตาที่แสดงออกถึงความรำคาญกำลังมองมาที่ฉัน
การมองแบบนี้ฉันเห็นมาตลอดทุกครั้งที่ฉันจู้จี้จุกจิกใส่เขา
ทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะว่าเขาเบื่อหน่าย และรำคาญฉันมาก
ฉันรู้มาตลอด รู้เรื่องของเขาแทบทุกเรื่อง
รู้ว่าเขามีคนที่เขารัก
รู้ว่าเขาเกลียดวิธีที่ฉันทำกับเขา
และรู้ว่าเขาอยากได้อิสรภาพที่ฉันเป็นคนจองจำเขาไว้
คนไม่รัก ทำดีให้ตายยังไงเขาก็ไม่มีทางรักเรา
ตื๊อเท่านั้นถึงจะได้มาครอบครอง นิยามนี้ใช้กับผู้ชายคนนี้ไม่ได้ เขาไม่ใช่ผู้ชายใจอ่อน หรือโลเล ไขว้เขวเหมือนคนอื่น
‘ยัง’ ฉันตอบและเผยยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
ยิ้มสมเพชตัวเองไง
‘…’ ดินชักสีหน้าเฉยชา นั่นหมายความว่าเขากำลังรำคาญฉันหนักมาก
‘ไปเซ็นใบหย่าให้แหวนหน่อย แหวนเหนื่อยกับความพยายามที่สูญเปล่าแล้ว แหวนคืนอิสรภาพให้ดิน’
‘มารยาขั้นไหนอีก’
‘ไปเจอกันที่อำเภอนะ แหวนมีเวลาไม่มาก’ ฉันเลือกที่จะไม่สนคำพูดเหน็บแนมของเขา
ในวันนี้ฉันคิดว่าฉันควรพอ ควรที่จะปล่อยเขาไป ควรเลิกรั้งคนที่ทำยังไงก็ไม่มีทางจะรักเรา
ฉันเหนื่อยที่จะสู้ เหนื่อยกับการรอคอยให้เขาหันกลับมาสนใจ
และเพิ่งคิดได้ว่าไม่อยากเสียเวลาชีวิตอีกต่อไป
“เฮ้ ทางนี้ ๆ” สาวผมยาวปลิวสวยสยาย ร่างบอบบางโบกมือเรียกฉัน ทำให้ฉันละทิ้งความทรงจำในวันเก่าที่มันผุดเข้ามาในหัวโดยอัตโนมัติเมื่อตัวฉันกลับมาเหยียบผืนแผ่นดินของประเทศไทย
“ไงแก” ฉันเอ่ยทักพร้อมรอยยิ้มสดใส สาวสวยผมยาวคนนี้เป็นคนที่เสนอตัวมารับฉันที่สนามบิน ทั้งที่งานของนางยุ่งมาก ๆ แต่นางก็พยายามเคลียร์คิวเพื่อฉัน
“ไงแกคืออะไร อย่ามาเด๋อ” ฟองเพื่อนที่ฉันสนิทด้วยทำหน้ากวนประสาท
“ปากร้ายเหมือนเดิม กี่ปีก็ไม่เปลี่ยนสันดานเลยเนอะ”
“เปลี่ยนได้ไง สันดานเปลี่ยนยากนะจ๊ะ ว่าแต่แกเถอะ ทำไมด้วยเปรี้ยวดูมีออร่าเรียกผู้จังวะ” ฟองจับตัวของฉันหมุน ๆ แทนการกอดทั้งที่เราไม่ได้เจอกันเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ความจริงต้องกอดนะ
“ก็แค่ตัดผมสั้น แต่งตัวให้เข้ากับลุค ดูเปรี้ยวตรงไหน”
“ดูแปลกตาเลยล่ะ ก็ปกติแกรักผมแกยิ่งกว่าอะไร” จริงอย่างที่ฟองพูด ฉันรักผมของฉัน แต่บางทีคนเรามันก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้าง อะไรที่เคยจมปลักก็ต้องสละมันทิ้งไปเมื่อถึงเวลาที่ต้องทิ้ง
“อะไรไม่ดีก็ต้องตัดทิ้งสิ จะเก็บไว้ทำไม”
“ตัดผมที่รักกับตัดใจจากคนใจร้ายอะไรทำง่ายกว่ากัน” ถึงแม้เรื่องของฉันกับอดีตสามีที่ไม่รักฉันจะจบกันไปนานแล้ว แต่ว่าเพื่อนของฉันก็ยังชอบพูดถึง ชอบเอามาจิกกัดฉันอยู่บ่อย ๆ
พวกเพื่อนสนิทของฉันชอบหาว่าฉันโง่งมงาย บ้ารักผู้ชายที่เขาไม่รัก แถมยังชอบด่าว่าฉันทำตัวไร้ค่า
“ขึ้นแท็กซี่กลับง่ายกว่าอะ” ฉันแกล้งทำเป็นงอน
“ทำน้อยใจไปได้น่า เพื่อนแค่หยอกเอง ปะ ปะกลับกัน เดี๋ยวเพื่อนพาเลี้ยงข้าวปลอบใจน้า”
“ปลอบใจอะไรของแก”
“แกก็จับผิดคำพูดของฉันอีกแล้วนะแหวน”
“ก็แกกับไอ้ญ่าชอบแว้งกัดฉันบ่อย ๆ นี่นา”
“กินปูนร้อนท้องเองรึเปล่า”
“พอแล้วฟอง ฉันอยากพักละ ไม่อยากมาเถียงกะแก” ให้เถียงเรื่องของคนที่เป็นอดีตของฉันเถียงให้ตายยังไง ฉันก็ไม่มีทางชนะ
เพราะว่าเมื่อก่อนฉันงมงายกับผู้ชายคนเดียวมากจริง ๆ
แต่เมื่อวันนี้ทุกอย่างรอบตัวมันเปลี่ยน สังคมรอบข้างทำให้ฉันเข้าใจหลาย ๆ อย่าง และเราควรจะเติบโตต่อไป ไม่ใช่หยุดทุกอย่างเพียงเพราะผู้ชายคนเดียว
ฉันชื่อ ‘แหวน’ อายุ 26 ปี มีน้องชายฝาแฝด แต่ตอนนี้ไม่อยู่แล้ว เขาโดนทำร้ายจนตายเมื่อ 2 ปีก่อนได้มั้ง พ่อแม่ของฉันก็เสียใจมาก แต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้
เงินไม่ถึงไง เรียกร้องอะไรเยอะไม่ได้อยู่แล้ว ตอนนี้ก็เท่ากับว่าฉันเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว
ปัจจุบันสถานะของฉันคือคนโสด เพราะล้มเหลวในชีวิตคู่ คู่ชีวิตที่ฉันยัดเยียดตัวฉันให้เขา
ย้อนความกลับไปเมื่อตอนปี 1 ฉันเคยตกหลุมรักผู้ชายคนหนึ่ง เพียงเพราะเขาเข้ามาช่วยฉันในเหตุการณ์ที่น่าขายหน้า นับตั้งแต่นั้นมาฉันก็แอบรักเขา ตามสืบตามเช็กว่าเขาเรียนคณะอะไร
แล้วฉันก็ได้รู้ว่าเขาเรียนคณะเดียวกับน้องชายฝาแฝดของฉัน และยังเป็นเพื่อนกับน้องชายของฉันด้วย ความหวังในความรักของฉันมีเพิ่มเข้ามาทันทีเลยล่ะ ยังไงก็สมหวังแน่ ๆ ในตอนนั้นฉันคิดแบบนั้นนะ
ฉันคิดว่าตัวฉันก็มีดีพอ ยังไงซะเขาก็ต้องชอบฉัน มั่นใจตัวเองสูงไง
แต่แล้วมันก็ไม่เป็นแบบนั้น เขาไม่พูด ไม่สนใจรอบข้าง หนำซ้ำเพื่อนของน้องชายฉันอีกคนยังพยายามจะจีบฉัน และฉันยังได้รู้กฎของกลุ่มน้องชายด้วยว่า ‘จะไม่จีบผู้หญิงคนเดียวกัน’
นับแต่นั้นมาความรักของฉันมันจึงเริ่มห่างไกลจากคำว่าสมหวัง แต่ว่าฉันก็ไม่ย่อท้อหรือยอมแพ้แต่อย่างใด ฉันชัดเจนกับนาฟเพื่อนของน้องชายฉันตลอดว่าเราสองคนเป็นได้แค่เพื่อนกัน
เวลาผ่านไปกระทั่งฉันอยู่ปี 4 คือมันไม่มีอะไรดีขึ้นเลยสำหรับสถานะของฉันและดิน เขาปิดโลกของเขาไม่ให้ฉันได้ก้าวขาเข้าไป ในขณะที่เขาใจดีกับรุ่นน้องคนหนึ่งมาก เธอคนนั้นเป็นคนที่ดินพูดด้วย ยิ้มให้บ่อยที่สุด ฉันคิดว่าดินอาจจะชอบเธอ และนั่นทำให้ฉันรู้ว่าความสวยมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าผู้ชายไม่รักไม่ใส่ใจ
การแอบรักมันเหนื่อยมากจริง ๆ
ของขวัญวันเกิดที่ฉันตั้งใจเลือกให้เขาทุกปี เขารับมันไว้เพื่อรักษาน้ำใจเพราะคิดว่าฉันคือเพื่อนอีกคนเท่านั้น บางทีฉันก็เหมือนคนไม่มีค่าในสายตาของเขา
แล้วในที่สุดความอดทนของฉันก็หมดลง ฉันเลือกที่จะคว้าโอกาสสุดท้ายก่อนเรียนจบเอาไว้ เลือกที่จะขายศักดิ์ศรีตัวเองเพื่อเอาเขามาครอบครอง ขณะที่อีกใจก็ยังมีความลังเลอยู่เล็กน้อย
ในวันเกิดของดินปีนั้น เขาพาผู้หญิงตัวเล็ก ๆ น่ารัก หน้าตาจิ้มลิ้ม ผมยาวสลวยมาด้วย สายตาที่ดินมองเธอมันพิเศษกว่าใครที่ดินเคยมอง ฉันอยากให้ดินมองฉันแบบนั้นบ้าง
หวังลม ๆ แล้ง ๆ ไง
แล้วดินก็บอกทุกคนในงานว่าผู้หญิงคนนั้นคือแฟนของดิน
คือเชื่อไหมว่าวันนั้นฉันเข้าใจคำว่า ‘ใจสลาย’ เลยอะ
แอบรักว่าเจ็บแล้ว แต่นี่เขาบอกว่าเขามีแฟน ฉันยิ่งเจ็บ ฉันร้องไห้ ฉันเสียใจ
ซึ่งไม่มีใครสั่ง หรือใครบังคับให้ฉันทำ หรือให้ฉันเป็นแบบนี้ ทุกอย่างคือฉันเลือกที่จะเจ็บเองล้วน ๆ
แล้วด้วยความหน้ามืดตามัว อยากได้ดินจนตัวสั่น จากที่ลังเลว่าจะทำสิ่งนั้นดีไหม
ฉันก็ตัดสินใจทำทันที