6 อย่าถือสา

1905 Words
“ไปถึงบ้านก็ช่วยทำหน้าดี ๆ ด้วย เห็นอะไรก็เงียบ ๆ ไว้ ถ้าสงสัยอะไรขากลับค่อยมาถามดิน แล้วจะพูดจะจาอะไรช่วยเอาใส่สมองกลั่นออกมาดี ๆ ก่อนค่อยพูด อย่าสักแต่ว่าจะพูด” “...” จู่ ๆ ก็เข้าโหมดดราม่าซะงั้น แล้วที่พูดมาหมายความว่าไง บอกตามตรงว่าฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่ดินพูด ซ้ำเขายังพูดเหมือนฉันไม่มีสมอง “เข้าใจที่พูดใช่ไหม” ดินถามซ้ำเมื่อฉันเงียบ คะยั้นคะยอเพื่อ “รำคาญ” ฉันเบือนหน้าหนีมองทางอื่น ตอนนี้น่ะความพิศวาสลุ่มหลงหรือความรู้สึกที่สื่อไปทางเสน่หามันไม่มีแล้ว กับบางเรื่องที่ฉันรู้สึกกับเขาคือความเจ็บปวด ความเจ็บใจซะมากกว่า ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่า ๆ ก็มาถึงบ้านของแม่ดิน เมื่อก่อนแม่เปิดร้านเสริมสวย แต่ว่าตอนนี้เหมือนจะปิดตัวลงแล้ว เกิดจากสาเหตุอะไรกันนะ ฉันไม่ได้ตามถามข่าวสารทุกข์สุกดิบใครตั้งแต่ที่เลิกรากับดิน “อย่าลืมเรื่องที่ดินพูดไว้นะแหวน” ดินหันมาย้ำฉันอีกครั้งก่อนที่จะลงจากรถ เหมือนดินจะจริงจังเอามาก ๆ ดินลงจากรถเดินนำฉันเข้าไปในบ้านของเขา เมื่อก่อนฉันมาบ่อยอยู่นะ มาเองคนเดียวนั่นแหละ ดินไม่พาฉันมาอยู่แล้ว “มากันแล้ว” เสียงนี้เสียงแม่ของดินฉันจำได้ เบื้องหน้าที่ฉันเห็นคือแม่ของดินนั่งอยู่บนรถเข็น สาเหตุนี้ไหมที่ดินไม่ให้ฉันถามหรือพูดโผงผาง ฉันเดาว่าใช่นะ “สวัสดีค่ะแม่” ฉันยกมือไหว้แม่ของดิน และคลานเข่าเข้าไปหาแม่ ขอเรียกแม่แก้วแล้วกันจะได้ไม่สับสน “แหวนเปลี่ยนไปเยอะเลยลูก ดูเปรี้ยวแซบขึ้นเยอะเลย” แม่แก้วลูบที่หัวของฉันอย่างเอ็นดู “แล้วสวยไหมคะ” “สวยสิลูก แหวนน่ะสวยอยู่แล้ว” “แม่แก้วปากหวานใส่แหวนตลอดเลย” ฉันกรีดยิ้มหวานให้แม่แก้วแม่ของดิน “แหวนไปนั่งพักก่อนนะลูก มาเหนื่อย ๆ” “ไม่เป็นไรค่ะแม่แก้ว แหวนไปช่วยยกกับข้าวดีกว่า” เหนื่อยอะไรกัน ฉันไม่ได้เหนื่อยเลยด้วยซ้ำ “เอาอย่างนั้นเหรอลูก” “ค่ะแม่แก้ว” “งั้นก็ตามใจแหวนเลย…หยาดเสร็จหรือยัง ลูกสาวเธอมาแล้วนะ” แม่แก้วตะโกนเรียกแม่ของฉัน แม่ฉันชื่อหยาด สองคนนี้อายุเท่ากัน จึงนับถือพูดคุยกันเหมือนเพื่อน ฉันเดินเข้ามาในครัวเพื่อเจอแม่ของฉัน ก็ค่อนข้างประหม่านะ เพราะฉันกับแม่เราแทบไม่ได้พูดคุยกันเลย “แม่…” ฉันเรียกแม่ที่กำลังวุ่นกับการตักอาหาร แม่ของฉันยังสาวยังสวย และจมปลักกับการสูญเสียลูกชายอันเป็นที่รัก แม่จะเป็นแม่ที่ดีมากในเวลาที่แอลกอฮอล์ไม่เข้าร่างกาย แต่เมื่อไหร่ที่แม่เมา แม่จะกลายเป็นอีกคน แม่สามารถโทรข้ามประเทศเพื่อระบายความในใจและลงท้ายด้วยการโทษทุกอย่างมาที่ฉันเพียงคนเดียว ในขณะที่พ่อของฉันเริ่มเป็นสมภารกินไก่วัดอย่างเต็มตัวหลังจากที่หวายจากไป พูดให้ชัดเจนก็ครอบครัวฉันพังหลังจากที่หวายตายไป ก่อนหน้าที่หวายยังไม่ตายมันรอมร่อว่าจะพังอยู่เหมือนกัน แต่เพราะลูกเป็นกาวใจทำให้บ้านยังเป็นบ้าน ครอบครัวยังเป็นครอบครัว แต่แล้วสุดท้ายมันก็พังทลายลง พ่อให้เวลากับผู้หญิงคนนั้นมากกว่า ด้วยอ้างเหตุผลว่าเธอเข้าใจพ่อ ในขณะที่แม่เมามายและจบด้วยการโวยวายอาละวาดตลอด คงจะผิดที่ฉันจริง ๆ เพราะฉันปิดหูปิดตา ไม่รับรู้ปัญหาครอบครัวใด ๆ ทั้งนั้น แม่ถึงได้โทษฉัน “มาแล้วเหรอลูก แม่ทำของโปรดของแหวนไว้เยอะเลย แหวนมาชิมต้มยำซี่โครงหมูหน่อยสิว่ารสชาติเดิมไหม” เนี่ยแม่ร่างหนึ่ง แม่ที่แสนอบอุ่น แค่รอยยิ้มฉันก็รู้สึกดี แต่ถ้าร่างสองมาเมื่อไหร่ ก็ตัวใครตัวมันแล้วกัน “ค่ะ” รสชาติอาหารฝีมือแม่มันอร่อยและไม่เหมือนใคร หากินที่ไหนไม่ได้ด้วย กับข้าวฝีมือแม่ทำให้ฉันคิดถึงน้องชายฝาแฝด ไม่ว่าเขาจะเลวทรามแค่ไหน แต่เขาก็ยังเป็นน้องชายของฉัน และเขามักจะชวนฉันกลับมากินข้าวฝีมือแม่ทุกวัน ‘แม่จะได้ไม่เหงาไงแหวน’ คือคำตอบของหวายเมื่อฉันเริ่มอิดออดที่จะกลับบ้านเพราะเหนื่อยจากการเรียน “อร่อยเหมือนเดิมค่ะ” ฉันส่งรอยยิ้มให้แม่ แม่กำลังมองฉันแล้วยิ้ม ซึ่งฉันไม่ชอบนัก เพราะการที่แม่มองฉันนาน ๆ แม่จะเริ่มนึกถึงหวาย เนื่องจากหน้าตาของฉันกับหวายเหมือนกันมาก “มาค่ะแหวนตักให้ แม่ไปพักเถอะนะ” ฉันต้องดึงความสนใจไปทางอื่นเพื่อที่แม่จะได้ไม่เครียดและเอาไปลงที่แอลกอฮอล์ “ไม่ต้องเลย แม่อยากทำ เดี๋ยวแม่ทำเอง” แม่หันมายิ้มและตักกับข้าวต่อ มีอาหารมากมายเชียวล่ะ มีของโปรดฉัน ของโปรดดิน และส่วนใหญ่เป็นของโปรดหวาย ซึ่งฉันต้องเป็นคนกินแทนน้องชาย “แม่คะ” มันอาจจะไม่เหมาะสมที่ฉันเอามาพูดเวลานี้ แต่มันก็ต้องพูด ในเมื่อฉันมาเพื่อสิ่งนี้ “ว่าไงแหวน” “แหวนกับดินเราเลิกกันแล้ว ทำไมแม่ถึงยังมาที่บ้านของดิน ดินไม่ได้รักแหวนแม่ก็รู้ไม่ใช่เหรอคะ ดินอาจจะรำคาญก็ได้ที่เราเข้ามาวุ่นวายในชีวิตของครอบครัวเขา” เชื่อเถอะว่าถ้าแม่ไม่เข้าใจ คืนนี้ฉันต้องได้รับสายของแม่ร่างสองแน่นอน “แหวนกับดินเลิกกันทำไมแม่จะไม่รู้ เพราะมันคือหนึ่งในต้นเหตุของความไม่เข้าใจในครอบครัวของเรา แหวนเคยรักดินมาก แม่ก็รู้ ดินไม่เคยรักแหวนเลย แม่ก็รู้” “…” “และแหวนอย่าลืมว่าดินกับหวายเป็นเพื่อนกัน ที่แม่มาที่นี่แม่มาเพราะดินเป็นเพื่อนของหวาย แม่หวังว่าแหวนจะแยกแยะได้ แต่ถ้าแยกแยะไม่ได้ แม่ก็จะไม่แยกแยะเหมือนกัน และแม่ก็จะถามแหวนว่า…แหวนสามารถทำให้หวายกลับมาได้ไหม ถ้าแหวนทำได้ แม่จะไม่มายุ่งกับครอบครัวของดิน แต่ถ้าแหวนทำไม่ได้ แหวนก็อยู่เงียบ ๆ ไป ทำเหมือนไม่มีตัวตนเหมือนสองปีที่ผ่านมาก็ได้ ต่างคนต่างอยู่ ขอแค่อย่ามาสั่งหรือบงการแม่” “…” ฉันเงียบไง ให้พูดอะไรต่ออะ แม่ไม่ต้องทำร้ายตบตีหรอก แค่คำพูดก็สามารถทำฉันเจ็บได้แล้ว ให้ชุบชีวิตหวายขึ้นมาอะเหรอ เห็นฉันเป็นผู้วิเศษหรือไง คนตายไปแล้วก็คือตายไปแล้ว จะฟื้นขึ้นมาได้ยังไง ความหมายของแม่ก็แค่อยากให้ฉันอยู่เงียบ ๆ อย่าก่อความวุ่นวาย “แหวน…แม่แก้วอยากคุยด้วย” ดินสะกิดที่ไหล่ของฉัน ฉันปาดน้ำตาที่มันแอบไหลออกมาเพราะคำพูดของแม่ ไม่รู้เลยว่าดินเข้ามาในครัวตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่รู้ว่าดินได้ยินอะไรบ้าง แต่ถึงเขาได้ยินอะไรเขาก็ไม่พูดอยู่แล้ว ในเมื่อเขาเป็นคนไม่พูด “เดี๋ยวดินยกกับข้าวออกไปเอง แหวนไปหาแม่แก้วเถอะ” ดินพูดต่อเนื่องจากฉันเงียบ ฉันจึงพยักหน้ารับและเดินออกจากห้องครัว “อ้าว กับข้าวเสร็จแล้วเหรอลูก” แม่แก้วถาม ถามแบบนี้แสดงว่าไม่ใช่อย่างที่ดินบอก แม่แก้วไม่ได้มีเรื่องอยากคุยกับฉัน หมายความว่าดินอาจจะไม่อยากให้ฉันอยู่กับแม่หยาด ดินคงได้ยินเรื่องที่ฉันคุยกับแม่สินะ “เสร็จแล้วค่ะ ดินอาสายกออกมาเอง บอกให้แหวนมาคุยเป็นเพื่อนแม่แก้ว” ฉันยิ้มกลบเกลื่อนความรู้สึกแย่ ๆ “แหม ดินก็จริง ๆ เลย ไม่รู้จะห่วงอะไรแม่นัก เดี๋ยวแม่ก็หายแล้ว” “…” ฉันยิ้มให้แม่แก้วแทนการถามไถ่ถึงเรื่องที่แม่แก้วต้องนั่งอยู่บนรถเข็น ฉันกลัวพูดอะไรผิดไปแล้วจะกระทบกระเทือนจิตใจของแม่แก้ว จึงเลี่ยงการถามไถ่เรื่องนี้ “ว่าแต่ไปอยู่เมืองนอกมีแฟนหรือยังลูก” ที่แม่แก้วถามแบบนี้เพราะแม่แก้วรู้ว่าลูกชายคนโตของแม่แก้วไม่ได้รักฉัน และแม่แก้วก็รู้ดีว่าดินเคยรักใคร “ก็มีคุย ๆ บ้างค่ะ แต่แหวนยังไม่ได้ชอบเขามากนัก” ฉันก็ไม่รู้จะปิดบังทำไมไง มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตด้วย ถ้าไปได้ดีกับทอมสักวันทุกคนก็ต้องรู้ “จริงเหรอ เขาเป็นใครลูก อยู่ที่ไหน พามาหาแม่บ้างสิ” แม่แก้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงดีใจ “ตอนนี้เขาอยู่ต่างประเทศค่ะ เรียนจบถึงจะกลับมา เขาบอกจะตั้งใจเรียน น่าจะไม่เกินปีนี้คงได้กลับไทย ถ้าเขากลับมาแล้วแหวนยังคุยกับเขาอยู่ แหวนจะพามาให้แม่แก้วสแกนนะคะ” “พูดแล้วนะ อย่าหลอกให้แม่ดีใจเล่นล่ะ แม่อยากอุ้มหลานแล้ว” “ของแหวนยังอีกนานค่ะ ของดินลูกชายแม่น่ะสิ อาจจะเร็ว ๆ นี้หรือเปล่าคะ” “หือ ดินเนี่ยนะลูก” ทำไมแม่แก้วต้องทำหน้าเหมือนเป็นเรื่องประหลาดด้วยล่ะ “ค่ะ ก็ดินมีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอคะ” “โอ๊ย รายนั้นจะมีได้ยังไงกัน วัน ๆ ทำแต่งาน ตั้งแต่เลิกกับแหวนไปก็ทำงานและตามหาคนดี วนเวียนอยู่แค่นั้น คนไม่พูดอย่างดินสาวที่ไหนจะชอบลูก จะมีก็มีแต่แหวนนั่นแหละที่หลงเข้ามา” “อะไรกันคะแม่ อย่าดูถูกลูกชายของแม่เชียวนะคะ ดินอาจจะซุ่มเงียบก็ได้ วันดีคืนดีอาจจะพามาเปิดตัวกับแม่” “พอเลยลูก สะใภ้คนโตแม่เอาแหวนคนเดียวเท่านั้น ทุกวันนี้หนูก็ยังเป็นสะใภ้ของแม่นะลูก คนอื่นแม่ไม่ปลื้มจ้ะ” แต่แม่แก้วเพิ่งดีใจที่แหวนมีคนคุยนะคะ “แม่แก้วทำแหวนซึ้งอีกแล้ว อีกหน่อยแหวนก็งอแงมาที่บ้านทุกวันจะทำไงคะ” “มาทุกวันสิยิ่งดี เจ้าดิสก็ไปทำงานต่างจังหวัด ดินก็วุ่นกับงานกับร้านกว่าจะกลับมาบ้านก็ดึกดื่น บางคืนก็ไม่กลับ หมกตัวอยู่บริษัทบ้างร้านบ้าง ดีนะบางวันได้แม่ของแหวนมานอนเป็นเพื่อน” “แม่หยาดเมาบ่อยไหมคะแม่แก้ว” “ก็ถ้าอยู่กับแม่ แม่ก็ห้ามไม่ให้กิน แต่เมื่อไหร่ที่กลับไปบ้านนู้นก็คงจะกินนั่นแหละ แหวนอย่าถือสาแม่เขานะลูก” “ค่ะแม่แก้ว” ไม่ถือสา แต่ว่ารู้สึกน่ะสิ การที่ทุกอย่างมันพัง แล้วโดนกล่าวหาว่าต้นเหตุมาจากฉัน มันทำให้รู้สึกแย่แค่ไหน ใครไม่เจอกับตัวไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกนี้ได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD