ห้างสรรพสินค้า Best By Shaun (BBS)
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่อมาเราสามคนพ่อลูกก้าวเข้ามาอยู่ในห้างสรรพสินค้าที่คาดคิดกันเอาไปเองว่าไอ้โทโมะมันพามาวินมา ก่อนจะพบว่าผู้คนที่เดินทางมาเลือกซื้อสินค้าในที่แห่งนี้กำลังพากันวิ่งหนีกันอย่างอุตลุต ก่อนคีเองที่พจะจับใจความได้ว่าลูกชายคนรองของท่านวศินกำลังเอาปืนจ่อหัวเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกลางร้านไอศกรีมที่อยู่ชั้นสาม
"มาวิน!" ได้ยินแบบนั้นผมเองก็ถึงกับครางออกมาดั่งลั่นด้วยความตื่นตระหนกและกลัวว่ายัยเด็กแก้มใสของผมเธอจะเป็นอะไรไป
"มึงหยุด!" เป็นพ่อของคีเองที่ตรงเข้ามารั้งแขนคีที่กำลังจะเดินเข้าไปช่วยผู้หญิงในดวงใจของตัวเอง
"พ่อ! เธอกำลังจะโดนยิงนะ!" คีทนไม่ไหวจริงๆ ครับทุกคน ก็เลยเผลอตวาดพ่ออย่างหลงลืมความโหดของพ่อไป
คีขอโทษนะพ่อ ปากมันไวไปหน่อย~
"มึงหันไปดูอีกทีไอ้คี"
"O_O" ทุกคนเชื่อคีไหมครับว่าในตอนนี้ปืนกระบอกนั้นที่ค่อยจ่ออยู่ตรงหัวเล็กๆ น่ารักๆ ของได้ตกไปอยู่ในมือของยัยเด็กแก้มใสของผมแล้วเป็นที่เรียบร้อย ยิ่งไปกว่านั้นก็คือคีไม่มีโอกาสจะได้รู้เลยว่าเธอทำแบบไหนได้ยังไง เพราะคีมัวแต่หันหน้าไปโวยโวยให้พ่อกับไอ้จ้าวอยู่นั่นเอง
"หมดหน้าที่กูละ" ท่านบูรพาหัวเราะออกมาอย่างโล่งอกระคนดีใจ ที่ได้เห็นกับตาว่า ว่าที่ลูกสะใภ้ของตัวเองนั้นมีความบ้าระห่ำอยู่ในสายเลือดมากพอที่จะเอาตัวรอดมาจากสายเลือดคนอันตรายอย่างลูกชายของวศินมาได้สำเร็จ
"มันออกมาแล้ว"
ปั๊ก!
ทันทีที่เห็นหน้าเพื่อนทรยศคีก็ไม่รอช้าที่จะตรงเข้าไปกระโดดถีบมันอย่างแรงจนมันล้มหงายตึงไปตามแรงถีบ ก่อนจะลากขามันออกมาให้พ้นจากรัศมีที่มาวินกำลังจะเดินออกมา
ปั๊ก ตุ๊บ!
โทโมะอาศัยในช่วงจังหวะที่คีตะเผลอและเตะตัดเท้าคีตะกำลังยืนเหม่ออยู่จนร่างสูงโปร่งนั้นล้มลง ก่อนจะทำการเหวี่ยงหมัดลงไปบนเบ้าตาฟ้าประทานของคีตะจนใบหน้านั้นเบี้ยวเหยเกเพราะแรงหมัด
"เฮ้อ...กูอีกจนได้" ท่านบูรพาที่ยังคงแอบซุ่มดูอยู่ห่างๆ กับจ้าวโฮปพากันเดินเข้ามาหาโทโมะที่กำลังเอาเท้าเหยียบหน้าอกของคีตะอยู่อย่างใจเย็น
"ไอ้จ้าว มึงไป!" ท่านบูรพาพยักหน้าให้ลูกชายคนโตเบาๆ
ฟึ่บ!
เพราะความตัวใหญ่ดั่งยักษ์ปักหลั่นของจ้าวโฮปจึงทำให้ร่างท้วมของโทโมะปลิวละลิ่วไปอีกทางด้วยมือเพียงข้างเดียว
ตุ๊บ! ตุ๊บ!
"ถอยไปไอ้จ้าว มึงมันไม่ได้เรื่องไอ้ลูกเวร! เล่นกระทืบอยู่แต่ที่ท้องแบบนั้นมันจะไปประสาอะไรวะ!" ท่านบูรพาเดินเข้าไปผลักลูกชายคนโตให้พ้นทางอย่างขัดใจ
ปั๊ก ปั๊ก
"อ๊าก" สองมือใหญ่ของโทโมะยกขึ้นมากุมปากตัวเองที่พึ่งโดนท่านบูรพาเตะเสยปลายคางจนกรามแกร่ฃบดเบี้ยวผิดรูป ซ้ำร้ายไปกว่านั้นฟันของเขายังหลุดกระจายไปจนเกือบจะหมดทั้งช่องปากเสียอีกด้วย
"ไอ้จ้าวมาจับมือมัน!" ไม่รอให้บิดาพูดซ้ำลูกชายคนโตก็ตรงมาล็อกแขนคนที่นอนกองอยู่แทบจะทันที
"อ่อยอู" เพราะความบิดเบี้ยวของใบหน้าจึงทำให้โทโมะพูดอะไรออกมาไม่ค่อยถนัด
"พล่ามอะไรของมึง"
ฉับ! ฉับ!
"อ๊ากกกกก" เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของโทโมะดังลั่นไปทั่วทั้งห้างดังใจกลางเมือง เนื่องจากในตอนนี้นิ้วข้างขวาทั้งห้าของเขาที่เคยใช้ถือปืนจี้ขมับสาวน้อยเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมานั้นได้ถูกท่านบูรพาจัดการตัดขาดมันออกจากกันโดยที่ไม่มีทางจะต่อกลับมาให้เป็นดั่งเดิมได้อีกแล้ว
"ไป ไอ้จ้าว ไอ้คี" ก่อนจะพากันเดินออกไปและปล่อยให้ร่างใหญ่นั้นนอนครางด้วยความเจ็บปวดและสิ้นหวังอยู่คนเดียว
"ตัวมึงผอมยิ่งกว่าหมาไร้บ้านริอาจจะไปต่อยมันนะไอ้ฉิบหาย" ท่านบูรพาหัวเราะเยาะลูกชายตัวเองเบาๆ คีตะเป็นคนร่างบางสูงโปร่งเหมือนผู้เป็นแม่ ในเวลาที่มีเหตุให้ต้องต่อสู้จึงต้องเสียเปรียบคนที่เป็นผู้ชายด้วยกันอยู่เสมอ
"ไปไอ้จ้าว มึงกับกูนั่งแท็กซี่กลับ"
"รถเราก็มีจะไปนั่งแท็กซี่ทำไมเล่าพ่อ" จ้าวโฮปเท้าเอวใส่ผู้เป็นพ่ออย่างขัดใจ
"ให้ไอ้คีมันเป็นพระเอกหน่อย นู่น" ท่านบูรพาบุ้ยปากไปยังว่าที่ลูกสะใภ้ของตนที่ถึงตอนนี้ก็ยังคงนั่งรอรถแท็กซี่เพื่อกลับหอพักอยู่ เมื่อจ้าวโฮปเห็นดังนั้นก็ทำการตบบ่าน้องชายตัวเองเบาๆืก่อนจะเดินตามพ่อออกไปโดยไม่โอดครวญอะไรออกมาอีก
"เฮ้ย!" ทันทีที่ผมแตะไหล่เล็กๆ นั้น ยัยแก้มใสก็หมุนตัวกลับมาตั้งการ์ดใส่ผมแทบจะทันที จะดุอะไรขนาดนั้นครับแม่คุณทูนหัว
"อ้าว...พี่คี" ก่อนจะลดมือลงไปเมื่อหันมาเห็นว่าเป็นผมที่ยืนอยู่
"บังเอิญมาเจอได้ไงไม่รู้ ซวยแย่เลยวะวันนี้"
เพราะเป็นคนที่พูดจาขวานผ่าซากอยู่ป็นทุนเดิม เลยทำให้ผมพูดอะไรแบบนั้นออกไป ทั้งๆที่ใจจริงๆ เป็นห่วงเขาจะตายห่าอยู่แล้ว
"หนูต่างหากที่ต้องเป็นคนพูดคำนั้นไม่ใช่พี่"
"เดี๋ยวนะ" เธอเถียงคีแค่นิดหน่อยครับ ก่อนจะเดินเข้ามาและยกสองมือเล็กๆ เหมือนเด็กประถมนั้นมาบังคับคีให้หันหน้าไปหาเธอแบบตรงๆ
"แล้วนี่พี่ไปทำอะไรมา ทำไมเบ้าตามันถึงได้เขียวช้ำเอาซะขนาดนั้น" เธอเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงจนมันทำให้คีรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองมันกำลังเต้นแรงซะจนแทบจะทะลุออกมากองอยู่นอกอกอยู่แล้วครับทุกคน
"เสือกเรื่องของคนอื่นน่า! ถามจริงนอกจากเสือกแล้วทำอะไรเป็นอีกบ้างไหมชีวิตนี้"
เพราะคีไม่อยากให้เธอจับจุดได้ว่าตัวเองกำลังเขินกับคำพูดเรียบง่ายของเธอมากแค่ไหน คีก็เลย...พลั้งปากสบถด่าเธอออกไปอีกครั้งอย่างยับยั้งปากตัวเองเอาไว้ไม่อยู่
หมับ!
"นั่งลงนี่" เชื่อไหมครับว่าเธอไม่แม้จะโกรธกับคำพูดของคีเลย ซ้ำยังออกแรงกดไหล่คีเบาๆเพื่อที่จะให้คีนั่งลงบนเก้าอี้ และควักผ้าเย็นสีหวานออกมาจากกระเป๋าของเธอ
"แล้วแขนไปโดนอะไรมา" ผมสะกิดแขนเล็กๆนั้นด้วยปลายนิ้วเพราะกลัวว่าเธอจะเจ็บ
"เสือก" ทั้งๆ ที่เธอด่าแท้ๆ แต่มันกลับทำให้คีเกือบที่จะหลุดขำออกไป ฮ่าๆๆ
"โอ๊ย! เจ็บนะเป็นผู้หญิงแท้รึเปล่าวะมือหนักฉิบหาย บัดซบ" ตอนนี้เธอกำลังใช้ผ้าเย็นประคบเบ้าตาให้คีอยู่ครับทุกคน ซึ่งจริงๆ แล้วคีไม่ได้เจ็บอะไรขนาดนั้นหรอกครับ ก็แค่...แกล้งปากเสียไปอย่างนั้นแหละ เพราะกลัวว่าถ้าหากเธอยัฃยื่นหน้าหวานๆ นั้นเข้ามาใกล้มากกว่านี้คีจะห้ามใจตัวเองไม่ให้จูบปากเล็กๆ ของเธอไม่ได้
"นั่งนิ่งๆ" แต่เธอก็ยังดึงดันที่จะประคบเบ้าตาให้ไอ้คีมันอยู่นั่น ฉันจะไม่ไหวจริงๆแล้วนะเว้ยเด็กบ้าเอ๊ย!
"ก็ไม่ได้ขอปะ เสนอหน้ามาเอง โอ๊ย!" จบประโยคสิ้นคิดของไอ้คีคนหล่อ มือเล็กๆ นั้นก็กดลงมาที่เบ้าตาของมันอย่างแรงในทันที
"เจ็บนะ! ยัยเด็กบ้า"
"ใครใช้ให้ปากเสียไม่ยอมเลิกเองละ นี่ๆ" เธอกดผ้าเย็นย้ำลงมาอีกครั้งจนหน้าคีเหยเกเพราะความเจ็บ เจ็บมากครับทุกคน ไอ้ห่านั่นหมัดหนักฉิบหายเลย!
"สมน้ำหน้า" ทำร้ายร่างกายคนอื่นแล้วยังมาสมน้ำหน้าเขาอีก เด็กบ้า!
"ไปละ" เธอยัดผ้าเย็นผืนจิ๋วใส่มือผมก่อนจะตั้งท่าเดินไปยังรถแท็กซี่ที่มาจอดเทียบอยู่นานแล้ว
"ประสาทยังดีอยู่หรือเปล่า จะทุ่มอยู่แล้วยังจะนั่งแกร็ปอยู่ แล้วคนขับยังเป็นผู้ชายอีก ขอร้องเถอะช่วยโง่ให้มันน้อยๆ ลงกว่านี้หน่อยจะได้ไหมวะ กินปลาบ้างหรือเปล่าหรือกินแต่หมูจนไขมันมันไปรวมกันจนแทนสมองไปแล้ว ถ้ายังมีขามีตาก็เดินตามฉันมานี่ แล้วเดินให้มันดีๆละเที่ยวไปล้มคว่ำหัวคะมำ เดี๋ยวมันจะตายก่อนวัยอันควรเอา"
ไม่เคยรู้สึกอยากตบปากของตัวเองเท่าครั้งนี้มาก่อนเลยครับทุกคน! ไอ้ปากบ้าเอ๊ยทำไมมึงไม่หัดพูดให้ตรงกับใจบ้างวะพับผ่าสิ!
วิลาสินี แมนชั่น
"ขอบคุณที่มาส่งหนูนะคะพี่คี" ยัยเด็กแก้มใสที่ไอ้คีคนนี้หลงรักจนหมดหัวใจหันมาโบกมือน้อยๆ ให้ ในตอนนี้คีมาส่งตัวเธอถึงหอพักแล้วเป็นที่เรียบร้อยครับทุกคน
"เวทนาต่างหากเล่าถึงพามาส่ง" ยัยเด็กแก้มใสยิ้มกว้างกลับมาอย่างเมินในคำพูดร้ายๆ ของคี ก่อนที่คีจะเห็นว่าเธอหมุนตัวกลับหลังและรีบวิ่งขึ้นห้องของตัวเองไป
มันก็แปลกตรงที่เธอไม่เคยที่จะพูดหยาบคายใส่คีสักครั้งทั้งๆ ที่คีปากเสียกับเธอมากถึงขนาดนี้นี่แหละ
รักเขาจะตายห่าอยู่แล้วแต่ดันปล่อยแต่หมาในปากไปวิ่งไล่งับเขาไม่เลิก ละเขาจะเอาอะไรมารักมึงวะนะไอ้คีเอ๊ยไอ้คี
รักเขาแต่ดันไปกวนประสาทเขาแล้วจะได้เขมือบเขาชาติไหนละพ่อคุณเอ๊ย แล้วไอ้รักจะตายห่าของแกนี่มันรักมากขนาดไหนกันวะพ่อ ฮ่าๆๆ