โครม! เพล้ง!
"ว้าย!" ฉันกรีดร้องออกมาจนสุดเสียงเมื่อจู่ๆ ร่างใหญ่เทอะทะของเฮียอั๋นก็ล้มลงจนโต๊ะบาร์ที่อยู่บริเวณนั้นล้มลงระเนระนาดเต็มไปหมด
"ขะ...ขอบคุณค่ะ" ฉันเงยหน้าไปขอบคุณพี่คีตะที่วิ่งเข้ามาเอาตัวเองเป็นเกราะกำบังให้กับฉัน ก่อนที่ฉันจะพยายามที่จะเพ่งเล็งผ่านรักแร้ของพี่เขาไปเพื่อที่จะมองว่าใครที่เป็นต้นเหตุให้พี่ชายของฉันต้องล้มลงจนหมดสภาพไปแบบนั้น
"พี่เสน่ห์เนี่ยนะ!" ฉันร้องออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงตัวเล็กกระจิ๋วเดียวมันจะกระโดดถีบเข้าใส่จนพี่ชายหุ่นยักษ์ของฉันล้มลงไปได้แต่มันก็เป็นไปแล้ว! โอ้มายก๊อด!
"มึง! ไอ้ฉิบหาย ไอ้หน้าหมา มึงจะเอาแบบนี้อย่างนั้นใช่มั้ยไอ้เด็กเหี้ย! มึงกล้ามากไอ้หนูที่คิดการณ์จะนอกใจคนอย่างกู คอยดูนะกูจะตัดของมึงให้เป็ดกินจนมันเหลือแต่ตอเลย ไอ้หนอนน้อยของมึงมึงร่านนักใช่มั้ยไอ้เด็กเวร ตอบกู! "
"อีเหน่!" พวกเพื่อนๆ ทั้งสี่คนของพี่แกต่างก็พยายามที่จะเข้ามาห้ามปรามเพื่อนของตัวเอง
"อย่าเข้าไปครับ มันอันตรายนะเห็นไหม" พี่คีตะรั้งมือฉันที่กำลังจะเข้าไปช่วยดึงตัวพี่เสน่ห์ออกมาอีกคน
"ค่ะ... เข้าใจแล้ว" ก็คนเขาพูดดีด้วย เราก็ต้องตอบรับดีๆ สิ ใช่ไหมละ?
เพล้ง! ปัง!
ไม่ทันที่ทุกคนในที่นี้จะได้หายใจหายคอ พี่เสน่ห์แกก็เล่นคว้าขวดเหล้ามาจากโต๊ะที่อยู่ข้างๆ ฟาดไปบนหน้าเฮียอั๋นที่ยังคงนอนอยู่ที่เดิมซะจนเต็มแรง ก่อนจะหันไปยกเก้าอี้บาร์ทุ่มใส่ร่างยักษ์ใหญ่ของพี่ชายฉันไปอีกถึงสองตัวด้วยกัน
"พุดเดิ้ล อีพุดเดิ้ล! มึงใจเย็นๆ แล้วฟังกู" ก่อนที่นาทีต่อมาจะมีผู้ชายคนหนึ่งที่เดินตรงเข้ามาและมัดตัวพี่เสน่ห์เอาไว้ได้ในที่สุด
"จอนนี่ปล่อยกู! กูจะฆ่ามัน! ฆ่าไอ้สารเลวนี่ ไอ้... ไอ้คนสำส่อน ไอ้หนังหน้าขน ไอ้ชิงกระต่ายมาเกิด!"
"พวกมึงออกไปเรียกการ์ดให้มาพาพี่อั๋นไปหาหมอก่อน ส่วนเดี๋ยวทางนี้กูจัดการต่อเอง" คนที่ชื่อจอนนี่หันมาสั่งคนรอบข้างที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กัน
"เดี๋ยวพวกกูพาไปเอง" พี่คีตะอาสาตัวเองก่อนจะผละไปจากตัวฉันและเดินเข้าไปช่วยพยุงพี่อั๋นให้ลุกขึ้นยืน "มาวิน มากับฉัน"
"พุดเดิ้ล มึงไปกับกู" ไม่ทันที่ฉันจะเดินไปหาพี่ชายกับพี่คีตะ คนที่ชื่อจอนนี่ก็พูดแทรกขึ้นมาและพยายามดึงตัวพี่เสน่ห์ให้ออกไปจากฉัน
"กูไปแน่ไอ้จอน! แต่อีนี่มันต้องตอบกูก่อน ว่ามันเป็นใคร!"
"หนูเป็นน้องสาวคนละพ่อของเฮียอั๋น" ฉันตอบออกไปตามความจริง แต่เหมือนกับว่ามันจะยิ่งทำให้พี่เขาโมโหหนักขึ้นไปกว่าเดิม
"ไม่จริง! พวกมึงแม่งตอแหล!" แต่... ดูท่าแล้วฉันว่าพี่เขาก็คงสนทนาด้วยไม่รู้เรื่องแล้วละ กลิ่นแอลกอฮอล์จากช่องปากมันหึ่งเอาซะขนาดนี้...
"ฉันรู้ว่าเธอเป็นอะไรกับเฮียอั๋น และฉันก็ต้องขอโทษแทนอีพุดเดิ้ลมันด้วย เดี๋ยวยังไงรอมันใจเย็นลงกว่านี้ค่อยมาเคลียร์กันดีกว่าเนอะ"
จอนนี่ลากตัวพี่เสน่ห์ที่ยังคงโวยวายไม่เลิกไปตามทาง ดูจากสถานการณ์แล้วไอ้พี่ชายตัวแสบของฉันมันคงยังไม่บอกถึงอายุที่แท้จริงของตัวเองให้พี่เขาได้รับรู้แน่ๆ พี่เขาถึงได้ออกอาการมาอย่างชัดเจนว่าไม่เชื่อในเรื่องที่ฉันเป็นน้องสาวพี่อั๋น
"วิน มึงโอเคนะ" แพรไหมที่ยังคงตกใจไม่ต่างกันตรงเข้ามาถามฉัน
"อืม เราไปหาเฮียอั๋นกันเถอะอีแพร" ฉันว่าก่อนจะฉุดรั้งมือแพรไหมให้เดินตามพี่คีตะที่พยุงพี่ชายฉันออกไปก่อนได้สักพักแล้ว
"ไปกับพี่ก็...
"มาวิน! พี่ชายเธอเจ็บจะตายห่าอยู่แล้วรีบเดินหน่อยมันก็คงไม่ทำให้เธอถึงแก่ความตายหรอก!"
"ไม่เป็นไรค่ะ พอดีพี่คีตะแกอยากให้ไปช่วยปฐมพยาบาลให้กับพี่อั๋นเขาด้วยนะคะ" ฉันเมินในคำพูดหยาบกระด้างของพี่คีตะ และหันมาปฏิเสธความหวังดีของพี่โทโมะที่ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ กลับมา
"ไปเหอะแพร ป่านนี้ไม่รู้พี่อั๋นเป็นไงมั่ง"
"อื้ม"
โรงพยาบาลมหานครอินเตอร์
"เป็นไงมั่งลูกพี่" พี่คีตะที่พาพี่อั๋นมาโรงบาลรีบชิงถามก่อนใครหลังจากหมออนุญาตให้ญาติเข้ามาเยี่ยมได้
"ก็ยังไม่ตาย ฮ่าๆๆ" พี่ชายฉันที่แม้จะบาดเจ็บหนักอยู่พอตัวฝืนเค้นเสียงหัวเราะออกมาอย่างน่าสงสาร
"แล้วมึงอยากตายไหมละไอ้ห่า เดี๋ยวกูจะได้ช่วยสงเคราะห์ให้กับมึงเอง"
"พุดเดิ้ล ไหนมึงบอกกูว่าจะใจเย็นไง" จอนนี่ตรงเข้ามาดึงชายเสื้อของพี่เสน่ห์เบาๆ
"มึงจะเอาไงไอ้อั๋น กูเลิกจบนะ ไป! กลับไอ้จอห์น"
"มาวินเธอเป็นน้องสาวคนละพ่อของฉัน" เฮียอั๋นพูดเสียงกระซิบเพราะคงยังเจ็บปากที่ถูกพี่เสน่ห์แกเอาเก้าอี้บาร์ฟาดลงตรงเบ้าหน้าเมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
"มึงตอแหล น้องเหี้ยอะไรขึ้นปีหนึ่งพร้อมกัน สันดานเถอะอั๋น" พี่แกเริ่มหันหาอาวุธอีกแล้ว คนอะไร...ตัวก็เล็กนิดเดียวแต่ดุชะมัดเลย
"อะไร" พี่เสน่ห์ถามฉันที่ยื่นบัตรประชาชนพี่อั๋นให้ดู พี่ชายฉันที่ในตอนนี้อายุครบสามสิบสี่ปีบริบูณ์แล้วเป็นที่เรียบร้อย..
"14มกราคม2532 นี่มันอะไรเรื่องอะไรกัน พวกเธอคิดว่าตัวเองตลกนักรึไง" พี่เสน่ห์ตวาดลั่นอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่สองตาของตัวเองกำลังเห็น
"ก็พี่อั๋นปลอมตัวมาเป็นเด็กมอสี่เพื่อตามจีบมึง แต่มึงดันเสือกเข้าไปจีบพี่แกก่อน แกก็เลยไม่มีจังหวะได้บอก" จอนนี่พูดขึ้นเรียบๆ ในขณะที่พี่ชายฉันก็พยักหน้าเสริมหงึกๆ
"มึงรู้แล้วทำไมมึงไม่บอกกูวะไอ้ฉิบหาย" พี่เสน่ห์มองค้อนจอนนี่ตาเขียวปั๊ด
"ก็กูอยากให้พวกมึงบอกกันเอง แล้วอีกอย่างมันก็เรื่องของเฮียอั๋นเค้า" จอนนี่อธิบายอย่างใจเย็นพลางยักไหล่หน่อยๆ
"แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่ที่ร้าน" น้ำเสียงของพี่เสน่ห์ในตอนนี้เริ่มที่อ่อนลงจนเห็นได้ชัด ละตอนนี้พี่แกก็กำลังยืนบิดจนตัวม้วน ถ้าฉันเดาไม่ผิดก็สงสัยจะรู้สึกเขินอยู่นะแหละ ฮ่าๆๆ
"แล้วมึงฟังใครบ้างละอีเหน่ อีฉิบหาย!" พี่ๆ ที่เป็นเพื่อนของพี่เสน่ห์อีกสี่คนพูดและยกเท้าขึ้นใส่พี่เสน่ห์อย่างพร้อมเพรียงกัน
"ขอโทษนะที่พูดจาแย่ๆ ใส่" พี่แกหันมาขอโทษฉันอย่างจริงใจ
"ไม่เป็นไรค่ะ ก็พี่ไม่รู้หนิ^_^" ฉันส่งยิ้มตอบไปให้พี่แกและตอบกลับไปอย่างจริงใจเช่นเดียวกัน เพราถ้าหากเรื่องใรวันนี้จะมีใครผิดจริงๆ ก็ต้องพี่ชายฉันเองนี่แหละ ที่เลือกที่จะโกหกพี่เขาเพื่อปกปิดความจริงมาตั้งแต่แรก...
"แล้วนี่กลับไง ให้พี่กับไอ้จอนไปส่งนะถือเป็นการไถ่โทษ อีกอย่างพี่ว่าจะคุยอะไรด้วยอีกนิดหน่อยด้วย" ฉันพยักหน้ารับให้พี่เขาเบาๆ แทนคำตอบ
"แล้วฉันอะ" พี่ชายฉันแกล้งแย้งขึ้นด้วยน้ำเสียงอู้อี้อยู่ในคอ
"พี่น่ะหายแล้วค่อยคุยกัน ก็คิดว่าจะได้กินเด็ก ที่ไหนได้เป็นเด็กถูกหลอกกินอยู่ตั้งนาน" พี่เสน่ห์ว่าก่อนก้มลงอย่างจงใจที่จะหลบจากทุกสายตาในที่นี้เพราะความเขินปนกับอับอาย
"ฮ่าๆๆ" เราทุกคนที่เห็นแบบนั้นก็พากันหัวเราะพร้อมกันในความเปิ่นของพี่เสน่ห์ พี่เสน่ห์น่ารักจังเลยค่ะทุกคน จะเสียก็แค่ดุเหมือนหมาไปนิดนึง ฮ่าๆๆ
แต่ละมื้อแต่ละเดย์มีแต่เรื่องบ้าบออะไรไม่รู้ คนสวยเหนื่อย!
ปิดเป็นความลับมาได้ตั้งนาน มาแจ็คพอตแตกตอนที่จุ๊บเหม่งน้องสาวตัวเองซะงั้น น่าเอ็นดูจริงๆ ลูกชายแม่เหยิน