อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช
วิลาสินีแมนชั่น
"เหนื่อยโว้ย!" ฉันออกปากบ่นขณะกำลัฃกระแทกบั้นท้ายสวยๆ นั่งลงบนโซฟาตัวเก่าภายในแมนชั่นคุณภาพระดับร้อยดาวที่ฉันกับเพื่อนรักอย่างแพรไหมใช้ซุกหัวนอน
"แต่ฉันว่าโดยรวมแล้วกิจกรรมรับน้องของมหาลัยนี้ก็สนุกดีนะมาวิน ฉันชอบ" แพรไหมเอ่ยและยื่นแก้วน้ำเย็นเฉียบมาให้ฉันที่ยังคงนั่งหน้ามุ่ยอยู่ที่เก่า
"เชิญแกสนุกไปคนเดียวเถอะค่ะอีแพร แกคิดตามฉันนะคะ ว่าถ้าหากเสร็จจากรับน้องแล้วเราก็ยังต้องตามหาสายรหัสตามคำใบ้ที่ได้มาอีกด้วยนะคะอีแพร คนสวยจะบ้าตาย! ช่วยเรียนๆ ไปเลยไหมจะได้จบๆ มากเรื่องฉิบหายเลย" ฉันเบะปากกลอกตาตาใส่เพื่อนรักเพียงคนเดียวที่รู้สึกสนุกมันไปได้กับทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
"ฉันนะรอคอยเวลาที่จะได้เป็นน้องรหัสของรุ่นพี่สายรหัสสุดหล่ออยู่นานแล้วละ" แพรไหมทำตาลุกวาวอย่างกำลังเพ้อฝัน และท่าทางแบบนั้นของมันก็ทำให้ฉันหลุดหัวเราะออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย
"แล้วถ้าเกิดพี่รหัสแกเป็นรุ่นพี่ผู้หญิงละ" ฉันว่าอย่างจงใจที่จะขัดคอมันเพราะความรู้สึกหมั่นไส้มันเต็มที
"งั้นกูก็อาจจะมีลุง ตา หรือปู่รหัสหล่อๆก็เป็นได้ใครจะไปรู้เล่า" แต่มันไม่แม้แต่จะสนใจในคำพูดของฉันเลยค่ะทุกคน
"แล้วถ้าสายรหัสแกเป็นรุ่นพี่ผู้หญิงทั้งหมดละยัยแพร" ฉันจงใจที่กวนประสาทมันหนักขึ้นเพราะรู้ดีว่าความอดทนของมันนั้นต่ำกว่าส่วนสูงฉันที่ฉันมีเอาซะอีก ฮ่าๆ
"มาวิน!" แพรไหมปาหมอนอิงมาทางฉันที่หลบไปได้อย่างหวุดหวิด
ไม่ได้แดกกูหรอกค่ะอีแพร ฮ่าๆ
"งั้นมารอดูกันว่าสายรหัสของใครจะเริศกว่ากัน! ถ้าใครแพ้ต้องเลี้ยงข้าวอีกอาทิตย์นึง!"
เอากับมันสิเออ การพนันเป็นสิ่งไม่ดีนะคะอย่าหาลอกเลียนแบบพฤติกรรมของอีแพรมัน
"กูไม่ชอบเล่นพนัน"
"มึงกาก?"
"เออก็ได้! ใครแพ้เลี้ยงข้าวเดือนนึงไปเลย" แต่... บางครั้งคำว่าศักดิ์ศรีมันก็ต้องมาก่อนคำว่าการกระทำที่ไม่ดีงามนะคะทุกคน แฮร่!
Mahanakorn University, intelligent person (มหาวิทยาลัยมหานครคนอัจฉริยะ)
ตึกคณะแพทย์ศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การแพทย์
"เวรกรรมอะไรของอีแพรหนักหนาวะเนี่ย พี่รหัสเป็นผู้หญิงว่าซวยแล้ว นี่สายรหัสดั๊นเล่นเป็นผู้หญิงทั้งหมดอีก" เสียงหวานๆ ของนางสาวแพรไหมเพื่อนสุดที่รักของน้องมาวินคนสวยบ่นอย่างหัวเสียเมื่อมันได้รับรู้ว่าตัวเองจะต้องเลี้ยงข้าวฉันเดือนนึงตามที่ได้พนันกันเอาไว้เมื่อก่อนหน้านี้
"เอาน่า... กูลดให้มึงเหลือครึ่งเดือนละกัน" ฉันที่พยายามกลั้นขำสุดฤทธิ์แสร้งทำเป็นเห็นใจมัน
"มองจากดาวอังคารยังรู้ว่ามึงตอแหล อีวิน" มันถลึงตาใส่ฉันอย่างเอาเรื่อง แต่ฉันที่กำลังถือไพ่เหนือกว่าอย่างฉันมีรึที่จะเกรงกลัวเบี้ยล่างอย่างมัน
"เอ้าอีนี่! แพ้แล้วพาลนี่หว่า เลี้ยงทั้งเดือนเลยเป็นไงปากดีนัก" ฉันจงใจข่มขู่มันเพราะรู้ดีว่าช่วงนี้มันโดนทางบ้านลดค่าขนมรายเดือนให้น้อยลงโทษฐานที่มันเอาเงินส่วนนั้นไปเอฟรองเท้าจนหมดเมื่อช่วงกลางเดือนที่แล้ว
"โอ๋ๆ เพื่อนรักน้องแพรขอโทษน้า~ ถ้าเลี้ยงมึงทั้งเดือนมีหวังกูจะไม่เหลือเงินไว้กินไว้ใช้แน่เลย" มันเอนหัวมาถูแขนฉันเหมือนลูกหมาน่ารักๆ ตัวหนึ่ง ซึ่งสิ่งนี้มันก็ทำฉันให้ฉันใจอ่อนให้มันทุกครั้งไป
"เออๆ เอาหัวมึงออกไป กูเหม็น"
"แต่มึงต้องช่วยอะไรกูอย่างนึง" ฉันเสนอกลับไปเพราะตอนนี้ฉันกำลังเผชิญปัญหาหนักเพราะยังตามหาตัวปู่รหัสไม่เจอนั่นเอง
"ว่าๆ ฉันจะช่วยเต็มที่เลยเพื่อนเลิฟของฉัน" แพรไหมรีบตอบตกลงอย่างรวดเร็ว มันคงกลัวว่าฉันจะเปลี่ยนใจแหละ
"คือกูยังตามหาลุงรหัสไม่เจอเลยอะ" ฉันบ่นเพราะเริ่มที่จะรู้สึกเหนื่อยแล้ว ยิ่งคิดไปถึงคำใบ้ที่ปู่รหัสคนนั้นเป็นคนกำหนดมาให้ฉันก็ยิ่งรู้ละเหี่ยใจ
"คำใบ้มันยากขนาดนั้นเลยเหรอวะ?" แพรไหมว่าก่อนจะยื่นมือมารับกระดาษคำใบ้ใบจิ๋วไปจากมือของฉัน
"ลุงรหัสคนนี้ หน้าตาดี มีหมาอยู่ในปาก ฮ่าๆ เหี้ยอะไรวะเนี่ย ให้ตายเถอะว่ะมาวิน ฮ่าๆๆๆ" คิดเอาเถอะขนาดแพรไหมที่เป็นคนเส้นลึกยังหัวเราะจนน้ำตาไหลเลยหลังจากอ่านคำใบ้จากลุงรหัสของฉัน
"ไม่ตลกเลยแพร กูว่ากูโดนทำโทษแน่เลยวาฝ่ะ" ฉันก้มหน้าลงซบต้นแขนด้วยความรู้สึกหมดหวังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"แต่กูว่ากูพอที่รู้จักอยู่คนนึงนะ แต่กูก็ไม่แน่ใจว่ามันจะใช่รึเปล่า... ถ้าเป็นรุ่นพี่ปีสามหล่อแต่ปากหมามันก็จะมีอยู่คนนึฃ..." แพรไหมว่าแบะตั้งใจเว้นจังหวะเพื่อที่จะทำให้ฉันรู้สึกสงสัย
"อีแพร เดือนนึงนะ" ก่อนที่ฉันจะออกปากข่มขู่มันไปอย่างเหลืออดเหลือทนกับท่าทางกวนประสาทของมันเต็มที
"เออๆขู่จริงเว้ย คนที่เขาร่ำลือว่าหล่อแต่ปากหมากูคิดว่ากูเคยได้ยินอยู่แค่คนเดียว พี่คีตะปีสาม เรียนคณะวิศวกรรมโยธา " และเมื่อได้ยินคำคู่นั่นของฉันมันก็รีบตอบในสิ่งที่ตัวเองรับรู้มาอย่างไวในทันที เพราะกลัวว่าต้องจะต้อฃเลี้ยงข้าวฉันเดือนนึงจริงๆ
มาวินเหนื่อยกับคุณมากนะพ่อลุงรูปหล่อปาหมา😒
เลิกเรียน
"หลงทางเหรอจ๊ะน้องสาว ให้พี่ช่วยไหมจ๊ะ"
"อย่าไปพูดกับมันไอ้นี่มันเจ้าชู้"
"ถ้าชอบเพื่อนพี่สองคนนี้ชอบพี่ดีกว่า"
ฉันอยากจะบ้าตายวันละล้านแปดรอบ! ก็พอจะรู้มาจากแพรไหมอยู่บ้างหรอกว่าไอ้พวกผู้ชายที่เรียนคณะนี้มันชอบพูดจาแทะโลมผู้หญิง แต่ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นกันหนักมากถึงขนาดนี้
"ขอทางด้วยค่ะพี่ พอดีหนูมาตามหาลุงรหัสค่ะ" ฉันตัดบทและพยายามที่จะเดินแทรกผ่านไปกลุ่มรุ่นพี่ชายทั้งสามคนนั้นไป
"อยู่ตรงนี้แล้วไงละจ๊ะ แต่ไม่ใช่ลุงรหัสนะ แต่เป็นแฟนของน้องนี่แหละจ๊ะ"
"ฮิ้ว~"
มันเริ่มกันอีกแล้ว โว๊ะ! มาวินอยากจะบ้าจริงๆ เลย!
"พวกมึงจะไปรังแกน้องเขาทำไม น้องเขากลัวเห็นมั๊ย"
ก็ไม่ได้กลัวอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ ออกจะติดไปทางรำคาญเอาซะมากกว่า -_-
"โหย...ไอ้โทโมะ น้องเขาแม่งแจ่มขนาดนี้มึงปล่อยไปไหวเหรอวะ พระเอกเกินไปแล้ว!"
เชื่อไหมว่าในตอนนี้ฉันเริ่มที่จะมีความรู้สึกอยากจะต่อยปากไอ้แก่บ้ากามตรงหน้านี้ขึ้นมาแล้ว วุ้ย! รำคาญ!
"ไม่ต้องไปสนใจพวกมันนะครัยน้อง ว่าแต่...น้องมาถึงนี่มีธุระอะไรรึเปล่าครับ"
โห... หน้าก็หล่อใจก็หล่ออะรุ่นพี่คนนี้
"สวยแต่โง่ กะอีแค่คำใบ้แค่นี้ยังแก้ไม่ได้" ไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไร จู่ๆ ก็มีอีตาบ้าหน้าหล่อคนนึงที่เดินเข้ามาพร้อมกับหน้าตากวนอวัยวะเบื้องล่างของน้องมาวินเอาซะจริงๆ
ว่าแต่... ไอ้หน้าหล่อปากปีจอนี้มันเป็นใครกันแน่นะ! มาถึงก็เล่นด่าว่าฉันโง่เฉยเลย กล้าดียังไง!
"พี่เองก็ปากปีจอซะจนฉันเสียดายความหล่อที่พี่มีเลยค่ะ" ฉันแซะกลับอย่างรู้สึกหมั่นไส้ คนอะไร... หล่อซะเปล่าแต่สันดานเสียสุดๆ
"ฉันนี่แหละที่เป็นลุงรหัสเธอ อีเตี้ย"
คีตะ ตำนานมาเฟียปากหมาตลอดกาล ฮ่าๆ 🤣