เจเดนจูบเปรี้ยวสักพักก็ต้องผละจูบออกเมื่อโดนเธอตีที่อกแกร่งอย่างแรงหลายครั้ง
“คุณเจเดน ทำไมเป็นคนแบบนี้คะ คุณมาจูบหนูทำไมเนี่ย”
เปรี้ยวรีบถอยออกมายืนตรงทันทีเมื่อเจเดนผละจูบออกแล้วแว๊ดเสียงใส่เขาพร้อมกับเอามือปิดปากตัวเองไว้
“ก็ฉันปวดหัว”
“ปวดหัวแล้วมาจูบหนูทำไมคะ”
เปรี้ยวถามเจเดนกลับด้วยความสงสัย
“จูบเธอแล้วมันหายปวดหัว ขึ้นรถได้แล้ว”
เจเดนตอบเปรี้ยวกลับหน้าตาเฉย จนเปรี้ยวได้แต่ยืนอึ้งกับคำตอบของเขา
“จะขึ้นมั้ย ไม่ขึ้นฉันจะได้กลับ เสียเวลา”
“ไม่ไปค่ะ คุณไปเลยก็ได้ เดี๋ยวคุณจะหาเรื่องจูบหนูอีก”
เปรี้ยวแกล้งพูดปฏิเสธเจเดนเพราะอยากรู้ว่าเขาจะทำยังไงกับเธอ
“ฉันไม่จูบใครสุ่มสี่สุ่มห้า ขึ้นรถเดี๋ยวนี้เปรี้ยว”
เมื่อได้ยินคำพูดของเจเดนเปรี้ยวก็เดินอ้อมไปขึ้นรถอีกฝั่งทันที
“บอกไม่จูบใครสุ่มสี่สุ่มห้า แต่คุณจูบหนูไปสองครั้งแล้วนะคะ”
เปรี้ยวพูดใส่เจเดนทันทีเมื่อขึ้นมานั่งบนรถของเขาแล้ว
“ฉันจูบเธอเพราะมันทำให้หายปวดหัว ไม่ได้จูบสุ่มสี่สุ่มห้า หยุดเถียงแล้วเงียบซะ ฉันรำคาญ”
เปรี้ยวกำลังจะอ้าปากเถียงเจเดนก็ต้องชะงักเงียบเสียงเมื่อโดนเขาพูดดักทางจึงได้แต่สะบัดหน้าหนีเขาด้วยความไม่พอใจเมื่อเถียงสู้เขาไม่ได้ ส่วนเจเดนก็แอบกระตุกยิ้มชอบใจที่เห็นเธอทำหน้าบูดบึ้งเพราะเถียงสู้เขาไม่ได้ เจเดนขับรถออกจากมหาลัยสักพักก็มาถึงห้องเช่าของเธอ
“คุณรู้ได้ยังไงคะว่าหนูพักอยู่ที่นี่”
เปรี้ยวถามเจเดนด้วยความสงสัยเพราะเธอไม่เคยบอกเขาว่าพักอยู่ที่ไหน
“เธอเป็นพนักงานในผับ ฉันก็ต้องรู้ที่อยู่ของพนักงานทุกคน เผื่อวันไหนเธอขโมยของในร้านไปฉันจะได้ตามจับตัวถูก ลงไปเปลี่ยนชุดแล้วก็รีบออกมาฉันให้เวลาสิบนาที”
“นี่คุณจะรอหนูหรอคะ”
เปรี้ยวถามเจเดนกลับด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะรอรับเธอไปด้วย
“เหลือเก้านาที”
“งืออ ไปเดี๋ยวนี้ล่ะค่า”
เมื่อเห็นเจเดนกำลังจับเวลาเปรี้ยวก็รีบลงจากรถวิ่งเข้าไปในห้องพักอย่างเร็ว ส่วนเจเดนเมื่อเห็นเปรี้ยวเข้าไปแล้วก็เอนเบาะรถพักสายตาเพราะมัวแต่คิดเรื่องที่เธอไม่กลับห้องจึงทำให้นอนไม่หลับทั้งคืน เมื่อเปรี้ยวเข้ามาในห้องแล้วก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยไม่แต่งหน้าเพราะกลัวจะเลยเวลาสิบนาทีซึ่งปกติเธอก็ไม่ใช่คนอาบน้ำช้าอยู่แล้ว เมื่อแต่งตัวเสร็จเปรี้ยวก็รีบวิ่งมาแล้วขึ้นรถทันทีก็ต้องชะงักเมื่อเห็นเจเดนหลับอีกแล้ว
“คุณเจเดนคะ”
“อืม”
เมื่อได้ยินเสียงเรียกของเปรี้ยวเจเดนก็ขานตอบสั้นๆทแล้วลืมตาขึ้นจากนั้นก็ขับรถไปทันที
“เมื่อคืนคุณไม่ได้นอนหรอคะ คุณดูเพลียมากเลย”
เปรี้ยวเอ่ยถามเจเดนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“อืม”
เจเดนตอบกลับสั้นๆ ขณะที่ขับรถอยู่
“ถ้างั้นคุณไปถึงผับต้องนอนสักนิดนะคะ โหมงานมากมันไม่ดีต่อสุขภาพ”
เปรี้ยวพูดเสนอเจเดนด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“อืม”
เมื่อเห็นเจเดนเอาแต่ตอบว่า อืม เปรี้ยวจึงไม่พูดอะไรต่อจนเจเดนขับรถมาถึงผับของตัวเอง
“ขอบคุณนะคะที่ให้ติดรถมาด้วย หนูไปทำงานก่อนนะคะ”
เมื่อเจเดนจอดรถแล้วเปรี้ยวก็พูดขอบคุณแล้วลงรถเข้าไปในผับทันที
“สวัสดีค่ะพี่ออกัส พี่ผักบุ้ง”
เมื่อเดินเข้ามาในโซนแผนกของตัวเองเปรี้ยวก็ยกมือไหว้ทักทายพี่ทั้งสองคนอย่างนอบน้อม
“สวัสดีจ้าน้องเปรี้ยว มาเร็วจังเลย จริงๆ น้องเปริยวมีเรียนมาเรทก็ได้นะเพราะคุณเจด้าบอกพวกพี่ไว้แล้วว่าเดือนนี้น้องเปรี้ยวจะต้องรับน้องจนถึงสี่โมงเย็นตลอดเลย”
ผักบุ้งพูดกับเปรี้ยวด้วยรอยยิ้ม
“นั่นสิ พวกพี่สองคนไม่มีใครว่าอะไรหรอก ทั้งเรียนทั้งรับน้องยังต้องมาทำงานอีก นั่งพักหายเหนื่อยค่อยมาทำงานก็ได้เพราะพวกพี่คุยกับคุณเจด้าไว้แล้วว่าให้เรามาเข้างานตอนหกโมงเย็นน้องเปรี้ยวจะได้ไม่ต้องรีบเดินทาง”
ออกัสพูดเสริมอีกคน ส่วนผักบุ้งก็พยักหน้ายิ้มให้เปรี้ยวอย่างเป็นมิตร
“ขอบคุณพี่ๆ มากนะคะที่เข้าใจหนู แต่หนูมาตามเวลาปกติดีกว่า เกรงใจพี่ทั้งสองที่ต้องมาทำงานก่อนหนู”
เปรี้ยวพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มจนออกัสและผักบุ้งนั้นยิ้มตามทั้งสามคนคุยกันสักพักก็แยกย้ายกันทำงาน
“น้องเปรี้ยวคุณเจเดนให้ขึ้นไปหาบนห้องน่ะ”
เปรี้ยวถึงกับชะงักตกใจเมื่อได้ยินคำพูดของว่าน
“หนูไม่ไปได้มั้ยคะ หนูพึ่งทำงานเองค่ะ เดี๋ยวงานไม่เสร็จ”
เปรี้ยวพูดปฏิเสธเสียงเบาเพราะไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าเธออู้งาน
“พี่ว่าน้องเปรี้ยวขึ้นไปหาคุณเจเดนเถอะ ถ้าคุณเจเดนโกรธขึ้นมางานเข้าทั้งผับเลยนะ”
“ค่ะ”
เปรี้ยวถอนหายใจออกมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของว่านเพราะดูท่าเวลาเจเดนโกรธคงจะทำให้พนักงานโดนหนักไปตามๆ กัน จึงเลือกที่จะขึ้นไปหาเจเดน เมื่อมาถึงเปรี้ยวก็เคาะห้องของเขาแล้วเปิดประตูเข้าไปทันทีก็ต้องชะงักเมื่อเห็นเจเดนกำลังคุยงานอยู่กับลีวายอยู่
“ขอโทษค่ะ หนูไม่รู้ว่าคุณคุยงานอยู่ งั้นเดี๋ยวหนูลงไปทำงานก่อนนะคะ”
พูดจบเปรี้ยวก็ตั้งท่าจะรีบเดินออกจากห้องก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงของเจเดนพูดขึ้นมา
“ไม่ต้อง ฉันคุยเสร็จแล้ว วันนี้ฉันปวดหัวถ้าไม่ได้เรียกห้ามใครเข้ามาวุ่นวายในห้องฉันเด็ดขาด”
ลีวายถึงกับทำหน้างงเพราะเขายังรายงานเรื่องงานไม่เสร็จ แต่ก็ต้องรีบลุกขึ้นยืนรับคำสั่งของเจ้านายต่อถึงแม้จะยังมีคำถามอยาก็ตาม
“ครับคุณเจเดน”
ลีวายรับคำสั่งของเจเดนแล้วเดินออกจากห้องทันที ส่วนเปรี้ยวเมื่อได้ยินเจเดนบอกว่าปวดหัวก็เริ่มระแวงกลัวว่าเขาจะจูบเธออีกจึงตั้งท่าจะเดินตามลีวายออกจากห้อง
“เธอจะไปไหน”
เปรี้ยวถึงกับชะงักเมื่อได้ยินคำพูดของเจเดน
“ก็คุณบอกว่าปวดหัวห้ามให้ใครเข้ามาวุ่นวาย นะ...หนูก็เลยจะออกไปค่ะ”
เปรี้ยวหันมาตอบเจเดนเสียงกุกๆ กักๆ
“มานี่”
“ไม่ค่ะ เดี๋ยวคุณจะจูบหนู”
เปรี้ยวส่ายหน้าปฏิเสธเจเดนอย่างระแวง
“เธอคิดว่าฉันพิศวาสเธอมากรึไง อย่าหลงตัวเองให้มาก มานี่เดี๋ยวนี้เปรี้ยว”
เปรี้ยวมองค้อนใส่เจเดนทันทีเมื่อได้ยนิคำพูดเสียงดุๆ ของเขา จึงค่อยๆ เดินไปนั่งตรงโซฟาใหญ่ที่เขานั่งแต่เธอเลือกที่จะนั่งริมขอบสุดของโซฟาห่างจากเจเดนเล็กน้อย เมื่อเปรี้ยวนั่งลงแล้วเจเดนก็ทิ้งตัวนอนหนุนตักเธอทันที
“คุณเจเดน! คุณมานอนหนักหนูทำไมคะ เดี๋ยวใครมาเห็นจะเข้าใจผิดเอานะคะ”
เปรี้ยวพูดขึ้นด้วยความตกใจมือเล็กพยายามจะดันให้เขาลุกออกจากตักแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะเจเดนไม่ยอมลุกขึ้นแถมยังจับมืออีกข้างมาทาบไว้ที่อกของเขาโดยมีมือหนากุมมือเธอไว้อีกทำเอาเปรี้ยวถึงกับใจเต้นแรงเพราะการกระทำของเขาตอนนี้ไม่ต่างจากคนรักกันทำด้วยซ้ำ
“หยุดโหวกเหวกโวยวายสักที ฉันจะนอน ถ้าเธอพูดอีกฉันจะให้เธอมานอนกับฉัน”
เปรี้ยวเงียบเสียงทันทีเมื่อได้ยินคำขู่ของเจเดนจึงยอมให้เขานอนหนุนตักอยู่เงียบๆ ส่วนเจเดนเมื่อเห็นเปรี้ยวเงียบเสียงแล้วตาคมก็หลับลงทันที กลิ่นหอมจากตัวเธอทำให้เขานอนหลับอย่างง่ายดายเป็นครั้งแรกที่เขานอนหลับโดยที่ไม่รู้สึกตัวตื่นถึงแม้จะมีเสียงรบกวนก็ตาม ทางด้านเปรี้ยวก็ได้แต่มองใบหน้าหล่อที่นอนหลับอยู่บนตักอย่างหลงใหลยิ่งได้มองใกล้ๆ แถมเขายังนอนกุมมือเธอไม่ปล่อยยิ่งทำให้เธอนั้นตกหลุมรักเขามากกว่าเดิม เจเดนนอนหลับยาวจนผ่านไปชั่วโมงกว่าก็ยังไม่ตื่น
“คนอะไรขนาดหลับยังหล่อ เบ้าหน้าฟ้าประทานจริงๆ อ๊ะ! อื้อออ!”
เปรี้ยวถึงกับตกใจเมื่ออยู่ดีๆ เจเดนก็ลืมตาแล้วลุกขึ้นจับเธอกดลงให้นอนราบกับโซฟาโดยมีร่างสูงตามมาคร่อมเธอไว้จากนั้นเขาก็โน้มหน้ามาจูบเธอทันที