“อื้อออ!”
เปรี้ยวถึงกับเบิกตากว้างตกใจเมื่อโดนเจเดนจูบแบบไม่ทันตั้งตัว มือเล็กพยายามดันอกแกร่งออกเพราะตกใจแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะเจเดนนั้นใช้มือล็อกท้ายทอยเธอไว้ไม่ให้เธอขยับหนี ปากหนาสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเธอจนเปรี้ยวที่พยายามขัดขืนต้องยอมอ้าปากให้เขาเข้ามาเชยชมรสหวานในปากของเธอ เมื่อโดนเจเดนจูบแลกลิ้นไม่หยุดเปรี้ยวจึงเผลอเคลิ้มไปกับรสจูบของเขาเพราะตัวเธอเองก็ชอบเขาอยู่แล้ว สักพักเจเดนก็ผละจูบออกแล้วมองใบหน้าหวานด้วยสายตาหลงใหลจนเปรี้ยวต้องหลบตาหันหน้าไปทางอื่นเพราะเขินกับสายตาที่เขามองเธอ
“หึ จูบแรกสินะ”
“คุณรู้ได้ไงคะว่าเป็นจูบแรกของหนู”
เปรี้ยวหันมาถามเจเดนด้วยความสงสัย
“เธอจูบได้ห่วยมาก”
เจเดนตอบเปรี้ยวสั้นๆ ทำเอาเปรี้ยวถึงกับหันไปมองค้อนใส่เมื่อได้ยินคำพูดของเจเดน
“แรงมาก รับผิดชอบหนูเลยนะคะ คุณมาขโมยจูบแรกที่หนูหวงแหนไว้ให้คนที่รักไปแบบนี้ ต้องรับผิดชอบด้วย”
เปรี้ยวพูดใส่เจเดนด้วยความไม่พอใจ
“ถ้าจะให้ฉันรับผิดชอบฉันต้องได้มากกว่าจูบ”
“ไม่ให้รับผิดชอบแล้วค่ะ หนูไม่ให้รับผิดชอบแล้ว”
เปรี้ยวรีบดันอกแกร่งไว้ทันทีเมื่อเจเดนโน้มหน้ามาใกล้เธออีกครั้ง เพราะกลัวเขาจะทำมากกว่าจูบ ส่วนเจเดนเมื่อได้ยินคำพูดของเปรี้ยวก็เผลอกระตุกยิ้มชอบใจที่สามารถเอาชนะเธอได้ จึงกลับมานั่งเหมือนเดิมแล้วขับรถพาเธอไปมหาลัยทันที เมื่อมาถึงมหาลัยแล้วเจเดนก็ขับมาจอดที่ตึกคณะของตัวเอง
“เลิกเรียนกี่โมง”
เจเดนเอ่ยถามเปรี้ยวสั้นๆ เมื่อจอดรถแล้ว
“วันนี้รับน้องถึงสี่โมงเย็นค่ะ”
เปรี้ยวตอบกลับเจเดนแล้วรอว่าเขาจะพูดอะไรต่อ
“อืม”
“ถามแค่นี้หรอคะ นึกว่าคุณจะบอกให้หนูกลับด้วยซะอีก”
“พูดมาก ลงรถไปได้แล้ว”
เปรี้ยวหันไปมองค้อนใส่เจเดนเมื่อได้ยินคำพูดของเขา แล้วลงรถตั้งท่าจะเดินไปเรียนทันที
“เลิกเรียนแล้วก็มารอฉันที่รถ”
“คะ เอ้า! อะไรของเค้าเนี่ย คุยยังไม่เคลียร์ก็เดินไปเฉยเลย คนอะไรพูดน้อยจริงๆ สรุปจะให้กลับด้วยใช่มั้ย”
เปรี้ยวบ่นพึมพำให้เจเดนเมื่อเขาพูดจบก็เดินหนีเธอโดยไม่คุยกับเธอให้รู้เรื่อง เมื่อเห็นเขาเดินไปไกลแล้วเปรี้ยวจึงเดินตรงไปยังตึกคณะบริหารเพราะวันนี้เธอมีเรียนวิชาพื้นฐาน ซึ่งวิชาพื้นฐานทุกคณะต้องไปเรียนที่ตึกคณะบริหาร ขณะที่เปรี้ยวกำลังเดินไปถึงข้างตึกบริหารก็มีกิ่งไม้หักลงมาตรงตำแหน่งที่เธอกำลังเดินไป
“ว้ายย!”
เปรี้ยวถึงกับร้องตกใจเมื่ออยู่ดีๆ มีคนมาดึงคอเสื้อเธอจากข้างหลังจนเซถอยหลังไป ตอนแรกเธอตั้งท่าจะหันไปด่าคนนั้นแต่ก็ต้องชะงักตกใจเมื่อเห็นกิ่งไม้ตกอยู่ต่อหน้าตัวเอง เปรี้ยวจึงหันไปขอบคุณคนที่ช่วยทันที
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยไว้ เอ้า! คุณนี่เอง”
เปรี้ยวถึงกับตกใจเมื่อคนที่ช่วยเธอไว้ก็คือดิวผู้ชายที่เธอช่วยไว้เมื่อคืนนั่นเอง
“ไม่คิดว่าเธอจะเรียนที่นี่เหมือนกัน”
ดิวพูดกับเปรี้ยวเสียงเรียบ ถึงใบหน้าตอนนี้เขาจะนิ่งและเฉยชาแต่ในใจกลับดีใจไม่น้อยที่ได้เห็นเธออีกครั้งโดยบังเอิญแถมยังเรียนมหาลัยเดียวกันอีก
“นั่นสิคะ บังเอิญจัง ว่าแต่คุณเป็นยังไงบ้าง เจ็บแผลมากมั้ยคะ”
เปรี้ยวถามดิวกลับตามประสาคนเรียนพยาบาลทำเอาดิวรู้สึกดีไม่น้อยที่เธอนั้นถามเขาด้วยความเป็นห่วง
“แผลแค่นี้ไม่เจ็บเท่าไหร่หรอก แต่ยังรู้สึกมึนๆ หัวนิดหน่อย”
ดิวตอบเปรี้ยวไปตามตรง
“กินลูกอมหน่อยมั้ยคะ รสมะนาวเปรี้ยวจี๊ดถึงใจ รับรองว่าตาสว่างแน่นอน”
เปรี้ยวพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มแล้วยื่นลูกอมรสมะนาวให้ดิวสามเม็ด
“หึ ถ้ากินแล้วไม่เป็นเหมือนที่เธอพูด เธอต้องรับผิดชอบนะ”
ดิวพูดขึ้นพร้อมกับกระตุกยิ้มใส่เปรี้ยว คำพูดและท่าทางของเธอทำเอาเขาถึงกับรู้สึกเอ็นดูทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
“ถ้ากินแล้วยังรู้สึกมึนหัวอยู่เดี๋ยวฉันจะเอารสที่เปรี้ยวมากกว่าเดิมมาให้กินแทนค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวสิ เธอชื่ออะไร เรียนอยู่ปีไหน”
ดิวรีบถามชื่อเปรี้ยวทันทีเมื่อเห็นเธอตั้งท่าจะเดินไปแล้ว
“ชื่อเปรี้ยว เรียนพยาบาลปีหนึ่งค่ะ”
เปรี้ยวหันมาตอบดิวด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร
“ฉันชื่อดิว เรียนบริหารปีสาม ยินดีที่ได้รู้จักนะ ทีหลังเรียกฉันว่าพี่ด้วยล่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะพี่ดิว งั้นเปรี้ยวขอตัวไปเรียนก่อนนะคะ”
เปรี้ยวพูดกับดิวด้วยรอยยิ้ม ดิวจึงพยักหน้ายิ้มตอบเธอ เปรี้ยวจึงเดินไปทันที เมื่อแยกกับดิวแล้วเปรี้ยวก็เดินขึ้นไปเรียนบนตึกจนถึงเวลาทำกิจกรรมรับน้องเปรี้ยวจึงไปนั่งรวมกับเพื่อนๆ และเธอก็ได้นั่งหลังสุดเหมือนเดิมเพราะไม่มีใครชวนไปนั่งด้วย เมื่อนั่งรอได้สักพักรุ่นพี่ปีสองก็เดินมาพอดี
“สวัสดีค่ะน้องๆ วันนี้พี่จะมาแจ้งรายละเอียดการประกวดดาวเดือนมหาลัยนะคะ อีกสองสัปดาห์จะมีกิจกรรมการประกวดดาวเดือนมหาลัยซึ่งพวกพี่ได้ทำการคัดเลือกน้องๆ คณะเราในสัปดาห์ก่อนไปแล้ว วันนี้พวกพี่จะประกาศรายชื่อน้องที่ได้เป็นตัวแทนดาวเดือนนะคะ ดาวเดือนคณะของเราปีนี้ได้แก่น้องต้นน้ำและน้องเปรี้ยวค่า ขอเชิญน้องทั้งสองออกมาโชว์ตัวให้เพื่อนๆ ดูด้านหน้าเลยค่า”
เปรี้ยวถึงกับตกใจเมื่อได้ยินรุ่นพี่ประกาศชื่อตัวเองว่าได้เป็นดาวคณะเพื่อไปประกวดเพราะตอนที่คัดตัวเธอไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะได้ด้วยซ้ำ เมื่อเห็นเพื่อนผู้ชายที่เป็นตัวแทนลุกขึ้นยืนเปรี้ยวจึงลุกขึ้นเดินออกไปยืนข้างหน้า
“ขอคัดค้านได้มั้ยคะ ทำไมยัยนี่ถึงได้เป็นดาวคณะ ทั้งๆ ที่เป็นแค่เด็กทุน หน้าตาก็งั้นๆ แถมยังฐานะจนสุดๆ จะมีปัญญาไปหาช่างแต่งหน้า ไปหาชุดมาประกวดได้ยังไง ไม่กลัวทำให้ทางคณะอับอายหรอคะ”
เบลพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจเมื่อตัวเองไม่ได้เป็นดาวคณะจึงพูดดูถูกประจานเปรี้ยวเรื่องฐานะของเธอ จนเปรี้ยวได้แต่ยืนกำหมัดแน่นด้วยความโกรธแต่ก็พยายามนิ่งไม่โต้ตอบอะไรเพราะไม่อยากมีเรื่อง
“ถ้าต้องได้หาชุดและช่างแต่งหน้าเองหนูคงต้องสละสิทธิ์ค่ะ เพราะหนูไม่มีเงินเหมือนที่เค้าพูดจริงๆ”
เปรี้ยวพูดกับรุ่นพี่ไปตามตรงด้วยน้ำเสียงสุภาพโดยไม่ได้รู้สึกอายที่เธอนั้นฐานะไม่ได้ร่ำรวยเหมือนคนอื่น
“การเป็นตัวแทนไม่จำเป็นต้องใช้เงินตัวเอง เราไม่ได้เลือกคนรวยแต่เลือกคนที่เหมาะสม น้องเปรี้ยวคือคนที่รุ่นพี่ทุกชั้นปีลงมติเลือกอย่างเป็นเอกฉันท์ ถ้าเงินคณะไม่พอสำหรับการหาชุดและช่างแต่งหน้าฉันจะเป็นคนออกให้เองทุกอย่าง น้องที่คัดค้านก็เข้าคัดเลือกเหมือนกันนิแต่กลับไม่ได้รับเลือกแสดงว่าน้องมีความสามารถไม่เพียงพอ และเรื่องหน้าตาถ้าน้องเปรี้ยวหน้าตาสะสวย ผิวขาวออร่าเด่นขนาดนี้ยังว่างั้นๆ คนอื่นก็คงจะโคตรธรรมดาแล้วล่ะนะ อย่าเอาความจนคนอื่นมาเหยียบเพื่อให้ตัวเองดูสูงขึ้นมันดูเหมือนคนไม่มีการศึกษา เชิญพี่ปีสองทำกิจกรรมต่อได้เลยนะคะ ส่วนน้องต้นน้ำไปหาพี่จีจี้เดี๋ยวพี่เค้าจะแนะนำการเตรียมตัวให้ ส่วนน้องเปรี้ยวมากับพี่ค่ะ”
เบลถึงกับหน้าเสียเมื่อโดนยี่หวารุ่นพี่ปีสี่พูดตอกกลับ ส่วนเปรี้ยวก็รู้สึกดีไม่น้อยเมื่อรุ่นพี่พูดปกป้องตัวเอง เมื่อเห็นยี่หวาเรียกเปรี้ยวจึงเดินตามเธอไปนั่งยังใต้ต้นไม้ข้างตึกเรียนของตัวเอง
“ขอบคุณนะคะพี่ยี่หวา เมื่อกี๊ถ้าพี่ไม่เข้ามาช่วย หนูคงจะต้องสละสิทธิ์จริงๆ”
เปรี้ยวยกมือไหว้ขอบคุณยี่หวาอย่างซาบซึ้ง
“เรื่องเล็กๆ น่ะ เดิมทีพี่ก็ไม่ชอบคนแบบนี้อยู่แล้ว นิสัยไม่ดีชอบเหยียดคนอื่น น้องเปรี้ยวไม่ต้องกังวลนะพี่จะสนับสนุนทุกอย่างเอง ขอแค่ตั้งใจทำให้เต็มที่ก็พอ”
“หนูจะทำอย่างสุดความสามารถเลยค่ะ”
เปรี้ยวพูดตอบยี่หวาด้วยรอยยิ้ม
“ดีมาก เดี๋ยวพี่จะแนะนำวิธีเตรียมตัวก่อนวันประกวดนะ...”
ยี่หวาพูดแนะนำให้เปรี้ยวฟังอย่างละเอียด ส่วนเปรี้ยวก็นั่งฟังอย่างตั้งใจจนผ่านไปเกือบชั่วโมงยี่หวาก็ให้เปรี้ยวกลับบ้าน เปรี้ยวจึงเดินมายังตึกวิศวะเพื่อไปที่รถของเจเดนตามที่เขาบอกไว้ เมื่อมาถึงแล้วก็เห็นเจเดนเปิดกระจกรถนอนหลับอยู่ในรถเปรี้ยวจึงเดินไปแล้วโผล่หน้าเข้าไปหาเขาเพื่อจะปัดผมที่ปกหน้าออกให้
“อื้ออ!”
เปรี้ยวที่กำลังจะยื่นมือไปปัดผมที่ปกหน้าออกให้ถึงกับตกใจเมื่ออยู่ดีๆ เจเดนก็ลืมตาขึ้นแล้วคว้าท้ายทอยเธอมารับจูบของเขาโดยที่เธอนั้นไม่ทันได้ตั้งตัวเลยสักนิด