ขณะที่เปรี้ยวกำลังยืนหลบอยู่ด้านข้างของผับก็ต้องรีบถอยมานั่งหลบอยู่ถังขยะด้านหลังเพราะอยู่ดีๆ พวกเจ้าหนี้ก็เดินมาทางนี้
“ไม่มีใครเลยพี่”
สินหนึ่งในกลุ่มเจ้าหนี้พูดกับไม้เมืองลูกพี่ตัวเองทันทีเมื่อทั้งสามคนเดินมาหยุดตรงที่เปรี้ยวยืนหลบครั้งแรก
“แต่กูเห็นว่ามันยืนหลบตรงนี้ ผิวขาวออร่าขนาดนั้นมองไกลๆ กูก็จำได้ หึ”
ไม้เมืองยิ้มมุมปากขึ้นแล้วตั้งท่าจะเดินไปตรงถังขยะเพราะเห็นเงาของเปรี้ยวอยู่หลังถังขยะจึงตั้งท่าจะเดินไปหาเธอเงียบๆ
“ที่นี่ไม่ใช่ที่สาธารณะที่ใครจะสุ่มสี่สุ่มห้าเดินไปไหนมาไหนก็ได้”
ไม้เมืองถึงกับหยุดชะงักหันมามองด้านหลังเมื่อได้ยินเสียงดุของเจเดน
“เฮ้ย! พูดแบบนี้อยากมีเรื่องหรอวะ”
“อย่าไปมีเรื่อง นี่ไม่ใช่ถิ่นเรา ไปกันเถอะ”
ไม้เมืองรีบห้ามสินทันทีเพราะไม่อยากมีเรื่องกับเจเดนตอนนี้ จากนั้นทั้งสามคนก็เดินไปขึ้นรถขับออกไปจากผับทันที ส่วนเจเดนเมื่อเห็นพวกไม้เมืองไปแล้วก็หันมามองตรงถังขยะด้วยสายตานิ่งเรียบจากนั้นก็ขึ้นรถตัวเองขับออกไปโดยไม่ได้คิดจะเรียกเธอ
“เฮ้ออ! รอดตัวไปอีกหนึ่งวันแล้วยัยเปรี้ยว โชคดีจริงๆ ที่คุณเจเดนเดินมาพอดี”
เมื่อเห็นทุกคนไปกันหมดแล้วเปรี้ยวจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกจากนั้นก็เดินออกมาจากหลังถังขยะแล้วเดินกลับแต่ไม่ได้จะกลับบ้าน วันนี้เธอก็คงต้องไปนั่งหลับที่สวนสาธารณะเพราะคิดว่ายังไงกลุ่มเจ้าหนี้ต้องไปรอที่หน้าห้องเช้าเธอแน่นอน ขณะที่เปรี้ยวกำลังเดินไปทางสวนสาธารณะก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นมีคนกำลังโดนรุมอยู่ตรงช่องตึกเล็กๆ ถึงเขาเหมือนจะสู้เก่งแต่ลักษณะเหมือนคนกำลังจะหลับแล้วก็โดนต่อยไปหลายหมัดเปรี้ยวจึงตัดสินใจเข้าไปช่วยทันที
“คุณตำรวจคะมีคนกำลังโดนทำร้ายทางนี้ค่ะ”
เปรี้ยวแกล้งตะโกนพูดกับตำรวจ จนคนกลุ่มนั้นตกใจรีบวิ่งหนีไปทันทียกเว้นแต่ผู้ชายร่างสูงที่โดนรุมคนเดียวที่ยืนเซไปพิงผนังด้วยอาการเริ่มจะหลับเพราะเขาโดนวางยานอนหลับมาก่อนที่จะโดนรุมทำร้าย เปรี้ยวจึงรีบวิ่งไปประคองเขาไว้ทันที
“คุณเป็นอะไรมั้ยคะ ไหวมั้ย”
“อย่ามายุ่งกับฉัน”
ดิวที่กำลังมึนหัวเพราะฤทธิ์ยาตวาดด่าเปรี้ยวด้วยความไม่พอใจเพราะเขาไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับเขา จะพยายามผลักเธอออกแต่เรี่ยวแรงกลับไม่มี
“ไม่ยุ่งไม่ได้หรอกค่ะ คุณอาการแย่ขนาดนี้ อ๊ะ! นี่คุณ”
เปรี้ยวถึงกับตกใจเมื่ออยู่ดีๆ ดิวก็สลบเซล้มลงพื้นจนเธอที่พยุงเขาไว้ต้องล้มนอนอยู่ข้างๆ เขา เปรี้ยวจึงรีบลุกขึ้นนั่งเขย่าตัวดิวเพื่อปลุกเขาให้ตื่น แต่ก็ไม่เป็นผล
“ชีพจรก็ปกตินิ กลิ่นแอลกอฮอล์ก็ไม่มี หรือว่าโดนวางยานอนหลับมาหรอ”
เปรี้ยวพูดพึมพำขึ้นขณะตรวจชีพจรของดิวก็เห็นว่าปกติเหมือนคนนอนหลับไปเฉยๆ จึงคิดว่าเขาน่าจะโดนยานอนหลับมา เปรี้ยวจึงพยายามพยุงดิวให้นั่งพิงที่ผนังตึกจากนั้นก็หยิบอุปกรณ์ทำแผลออกมาทำแผลที่อยู่บนใบหน้าให้เขา หลังจากทำแผลเสร็จแล้วเปรี้ยวจึงนั่งพิงผนังตึกข้างๆ ดิวแต่เว้นระยะห่างพอสมควรเพราะเธอไม่กล้าทิ้งเขาไว้คนเดียว จนผ่านไปเกือบสี่ชั่วโมงซึ่งเป็นเวลาเกือบตีสี่ดิวจึงรู้สึกตัวขึ้น
“แม่ง ปวดหัวชะมัด”
ดิวพูดขึ้นอย่างหัวเสียเมื่อเสียท่าให้กับศัตรูซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นโดนวางยาตอนไหน ขณะที่ดิวกำลังจะลุกขึ้นก็ต้องชะงักเมื่อเห็นเปรี้ยวนั่งหลับอยู่ใกล้ๆ ดิวจึงนึกขึ้นได้ว่าเธอคือคนที่ช่วยเขาไว้
“นี่เธอ”
ดิวเรียกเปรี้ยวเสียงแข็งตามประสาคนที่มีนิสัยแข็งกร้าว เมื่อได้ยินเสียงเรียกเปรี้ยวจึงสะดุ้งตื่นขึ้นทันที
“เอ้า! ตื่นแล้วหรอคุณ เป็นยังไงบ้าง”
ดิวถึงกับชะงักเมื่อได้ยินคำถามของเปรี้ยวซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีคนถามเขาด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงแถมสีหน้าเธอยังดูจริงใจไม่มีความเสแสร้งเลยสักนิด
“ทำไมเธอยังอยู่ที่นี่”
ดิวถามเปรี้ยวเสียงแข็งด้วยความสงสัยโดยไม่ตอบคำถามเธอ
“ก็ฉันเห็นคุณสลบไปเลยไม่กล้าทิ้งคุณไว้คนเดียว แต่ดูคุณคงไม่เป็นอะไรแล้ว งั้นฉันไปนะคะ”
พูดจบเปรี้ยวก็ลุกขึ้นเดินไปทันที ส่วนดิวก็ได้แต่นั่งดูแผ่นหลังบางเดินไปไม่วางตาเพราะรู้สึกถูกชะตากับผู้หญิงคนนี้ซะแล้ว ทางด้านเปรี้ยวเมื่อเดินมาแล้วก็ตรงกลับห้องเช่าตัวเองเพื่อไปแต่งตัวไปเรียน
“เป็นครั้งแรกเลยแฮะที่มีเพื่อนอยู่ตอนหนีเจ้าหนี้ ถึงจะเป็นเหตุฉุกเฉินก็เถอะ ผู้ชายหล่อๆ สมัยนี้คงจะดุจะเย็นชาทุกคนล่ะเนาะ แต่คนนี้น่าจะไม่ดุเท่าคุณเจเดน คนอะไรดุได้ใจจริงๆ เฮ้อ! พอพูดแล้วก็คิดถึงเลยแฮะ”
เปรี้ยวพูดพึมพำขึ้นขณะที่กำลังเดินกลับห้องถึงจะพูดถึงดิวแต่ในใจก็ดันไปนึกถึงเจเดนขึ้นมา ปากบางก็ยิ้มกว้างขึ้นทันทีเมื่อคิดภาพตอนที่ได้นั่งตักเขา ถึงเจเดนจะปากร้ายแต่ตอนที่เธอทำแผลให้มือที่กอดเธอกลับรู้สึกอ่อนโยนมากเลยทีเดียว เมื่อมาถึงห้องเช่าแล้วเปรี้ยวก็รีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปเรียนทันทีด้วยความที่กลัวสายเลยตัดสินใจจะนั่งรถเมล์ไป ขณะที่กำลังรอรถก็ต้องชะงักตกใจที่เห็นรถสปอร์ตของเจเดนขับมาจอดตรงหน้าเธอ
“ขึ้นรถ”
เจเดนเปิดกระจกรถแล้วเอ่ยเรียกเปรี้ยวเสียงเรียบ
“เรียกหนูหรอคะ”
เปรี้ยวถามเจเดนกลับพร้อมชี้นิ้วเข้าหาตัวเองด้วยความสงสัย
“ไม่ให้เรียกเธอจะให้เรียกหมารึไง ก่อนจะถามหัดหันมองดูบ้างว่าใครยืนอยู่ด้วยมั้ย ซื่อบื้อจริงๆ”
เจเดนพูดใส่เปรี้ยวเสียงแข็ง
“เอ้า! ก็ถามเพื่อความชัวร์ค่ะ เกิดหนูเดินขึ้นรถแล้วคุณบอกไม่ได้เรียกหนู หนูก็หน้าแตกสิคะ”
เปรี้ยวพูดสวนเจเดนอย่างไม่ยอม
“พูดมาก จะขึ้นหรือไม่ขึ้น ไม่ขึ้นฉันจะได้ไป เสียเวลา”
“ขึ้นค่า”
เปรี้ยวรีบวิ่งไปขึ้นรถเจเดนทันทีเมื่อเขาตั้งท่าจะขับออกไป
“ขอบคุณนะคะที่ให้ขึ้นรถไปมหาลัยด้วย”
เปรี้ยวพูดขอบคุณเจเดนด้วยรอยยิ้มเมื่อขึ้นรถมาแล้ว
“ใครบอกว่าฉันจะไปมหาลัย”
“ไม่ไปมหาลัยแล้วคุณจะให้หนูขึ้นรถมาทำไม อ๊ะ! คุณเจเดน หยุดรถทำไมเนี่ย”
เปรี้ยวแว๊ดเสียงใส่เจเดนทันทีพร้อมกับเอามือแตะหัวตัวเองเพราะเจเดนนั้นเลี้ยวจอดข้างทางกะทันหันหัวเธอชนกับกระจกข้างของรถ
“เมื่อคืนเธอไปนอนที่ไหนมา ทำไมถึงไม่กลับห้องตัวเอง”
เจเดนหันไปถามเปรี้ยวพร้อมกับมองเธอด้วยสายตาดุดัน จนเปรี้ยวได้แต่ทำหน้างงใส่เขา
“คุณรู้ได้ยังไงคะว่าเมื่อคืนหนูไม่ได้กลับห้อง”
เปรี้ยวถามเจเดนกลับด้วยความสงสัย จนเจเดนนั้นชะงักเล็กน้อยเมื่อเผลอตัวถามเธอไปตรงๆ เพราะเมื่อคืนเขาให้ว่านสืบหาที่อยู่ของเธอแล้วให้ไปเฝ้าเพราะกลัวพวกนั้นจะดักรอเธออีก
“ช่างมันเถอะ ถือว่าฉันไม่ได้ถามแล้วกัน”
เจเดนพูดปัดไปทันทีเพราะไม่อยากตอบคำถามเธอ จากนั้นก็เอามือกุมขมับตัวเองเมื่อเริ่มรู้สึกปวดหัวขึ้น
“ปวดหัวหรอคะ”
เปรี้ยวเอ่ยถามเจเดนด้วยความห่วงใย
“อืม”
เจเดนตอบเปรี้ยวสั้นๆ แล้วตั้งท่าจะขับรถออกไปแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเปรี้ยวจับแขนเขาไว้ก่อน
“อะไร”
เจเดนหันไปถามเปรี้ยวเสียงเรียบ คิ้วหนาขมวดขึ้นด้วยความสงสัย
“คุณปวดหัวแบบนี้ไม่ควรขับรถนะคะ ให้หนูนวดคลายความปวดให้ก่อนดีมั้ยคะ แป๊บเดียวค่ะไม่ถึงห้านาทีแน่นอน”
เปรี้ยวพูดเสนอขึ้นดเวยน้ำเสียงอ่อนโยน สีหน้าแสดงความเป็นห่วงเขาชัดเจน
“อืม”
เจเดนตอบกลับสั้นๆ จนเปรี้ยวรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่เขายอมให้เธอนวดให้
“หนูนวดขมับให้นะ ให้หนูจับหน้าได้จริงๆ หรอคะ คุณบอกไม่ชอบให้ใครจับหน้านิ”
เปรี้ยวถามเจเดนด้วยความสงสัย
“จะทำก็รีบทำอย่าถามมาก”
“ค่า ดุอีกแล้ว หันหน้ามาแล้วขยับมาใกล้ๆ สิคะ”
เจเดนทำตามที่เปรี้ยวบอกทันทีจนเปรี้ยวถึงกับเอนไปข้างหลังด้วยความตกใจเพราะไม่คิดว่าเจเดนจะโน้มหน้ามาใกล้เธอขนาดนี้ เมื่อตั้งสติได้เปรี้ยวจึงยื่นมือไปนวดขมับให้เขาทันที ส่วนเจเดนเมื่อเปรี้ยวนวดขมับให้ก็รู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย ตาคมจ้องมองปากบางอย่างหลงใหลและโน้มหน้าไปจูบปากเธอทันที
“อื้อออ!”
เปรี้ยวถึงกับเบิกตากว้างตกใจเมื่อโดนเจเดนจูบแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้