“คุณเจเดนคะ”
เปรี้ยวที่รู้สึกตัวตื่นก่อนปลุกเจเดนเบาๆ เมื่อเขานั้นยังไม่ตื่นโดยที่ยังกอดเธอไว้
“อืม”
เจเดนขานตอบสั้นๆ ขณะที่ตายังหลับอยู่
“เรานอนนานแล้วนะคะ วันนี้คุณไม่ไปไหนหรอ งืออ คุณเจเดนปล่อยค่ะ หนูจะลุก”
เปรี้ยวเอ่ยถามเจเดนเบาๆ แล้วตั้งท่าจะลุกขึ้นแต่ก็โดนเจเดนนั้นกระชับกอดแน่นขึ้น
“ฉันยังไม่อยากลุก ฉันอยากนอนต่อ”
เจเดนตอบเปรี้ยวแล้วกระชับกอดแน่นขึ้นโดยที่ตายังหลับอยู่
“คุณอยากนอน คุณก็นอนไปสิคะ จะกอดหนูไว้ทำไม ไหนจะพาหนูไปเก็บของหรือเปลี่ยนใจไม่ให้หนูมาอยู่ที่นี่แล้วหรอคะ”
เจเดนลืมตาขึ้นทันทีเมื่อเปรี้ยวนั้นพูดไม่หยุด
“ฉันเก็บมาให้แล้ว”
“ห๊ะ! เก็บตอนไหนคะ อย่าบอกนะว่าที่คุณออกไปคุณไปเก็บของที่ห้องหนูมาหรอ”
เปรี้ยวถามเจเดนขึ้นด้วยความตกใจ
“อืม ของก็ไม่เยอะ แถมเธอยังเก็บของใส่กล่องไว้เหมือนเตรียมจะย้ายออก เธอตั้งใจจะย้ายออกตั้งแต่แรกรึไง”
เจเดนถามเปรี้ยวกลับด้วยความสงสัย เพราะเขาไปเอากุนแจห้องในกระเป๋าของเธอที่ลืมไว้ที่ผับแล้วไปห้องของเธอเพื่อจะเก็บของมาให้ แต่ก็ต้องรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเพราะของในห้องนั้นเก็บใส่กล่องใส่กระเป๋าไว้เหมือนเตรียมจะย้ายออกแถมของส่วนตัวเธอยังมีไม่เยอะอีก
“ไม่ได้เตรียมจะย้ายออกหรอกค่ะ แต่เตรียมไว้เผื่อฉุกเฉินที่ต้องไปตลอดเวลา”
“หมายความว่าไง”
เจเดนถามเปรี้ยวกลับด้วยความสงสัย
“เจ้าหนี้พวกนั้นมันพยายามจะเอาตัวหนูไปขัดดอกตลอด ถ้าเดือนไหนหนูหาเงินจ่ายดอกไม่ทันหนูก็ต้องเตรียมหนีไปตั้งหลักเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง แต่รอบนี้โชคร้ายที่พวกเจ้าหนี้ดันมาเจอหนูที่ทำงาน หนูก็ไม่คิดว่าพวกนั้นจะทำโดยไม่เลือกสถานที่ ถ้าคุณไม่ช่วยไว้หนูไม่รู้เลยว่าตัวเองจะเป็นยังไง”
เปรี้ยวบอกเจเดนโดยไม่ปิดบังน้ำเสียงสั่นเครือด้วยความกลัวเมื่อคิดถึงเรื่องที่ตัวเองโดนเมื่อคืน จนเจเดนกระชับกอดเธอไว้แน่นกว่าเดิม
“ต่อไปนี้เธอไม่ต้องใช้ชีวิตหลบหนีใครอีก อยู่กับฉันไม่มีใครหน้าไหนจะมาแตะต้องตัวเธอได้ทั้งนั้น”
เจเดนพูดกับเปรี้ยวด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใบหน้าหล่อขบกรามแน่นด้วยความโกรธเมื่อรู้ว่าเธอต้องเจออะไรมาบ้าง
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยหนู ถ้ามีอะไรที่หนูทำให้คุณได้หนูยอมทำทุกอย่างเลยค่ะ”
เปรี้ยวพูดขอบคุณเจเดนแล้วเงยหน้าส่งยิ้มให้เขา
“ยอมทุกอย่างจริงๆ หรอ ถ้าฉันบอกว่าอยากได้ร่างกายเธอล่ะ เธอจะยอมมั้ย”
เจเดนแกล้งถามเธอเพราะอยากรู้ว่าเธอจะตอบยังไง
“ไม่ค่ะ เรื่องอื่นหนูทำได้หมด แต่เรื่องนี้หนูทำไม่ได้จริงๆ ถึงหนูจะหวั่นไหวกับคุณก็ตามแต่ถ้าคุณไม่ได้รู้สึกอะไรกับหนูก็อย่าทำเลยนะคะ ถ้าคุณอยากได้ตัวหนูจริงๆ คุณต้องรักหนูก่อนค่ะ แต่คุณคงไม่คิดอยากจะจริงจังกับคนอย่างหนูอยู่แล้วเพราะฐานะเราต่างกัน ถ้าคุณอยากทำจริงๆ คุณไปทำกับคนอื่นเถอะค่ะ”
“ฉันไม่เคยมองคนที่ฐานะ อย่าเอาฉันไปรวมกับไอ้พวกที่ชอบแยกชนชั้น บ้านฉันไม่เคยสอนแบบนั้น อีกอย่างฉันไม่ใช่คนสำส่อนที่เอาผู้หญิงไปทั่ว ฉันเคยบอกเธอไปแล้วว่าฉันไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องตัวฉันง่ายๆ ฉันไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายในพื้นที่ส่วนตัวฉัน”
เปรี้ยวถึงกับมองเจเดนด้วยความสงสัยเมื่อได้ยินคำพูดของเขา เพราะสิ่งที่เขาบอกไม่ชอบเขากลับทำกับเธอทุกอย่าง
“แต่สิ่งที่คุณบอกไม่ชอบ คุณทำกับหนูหมดเลยนะคะ คุณไม่ชอบให้ใครแตะต้องตัวแต่คุณก็จับหนูกอดจับหนูจูบตลอด คุณบอกไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายพื้นที่ส่วนตัวแต่คุณก็ให้หนูมาอยู่ที่นี่ด้วย ย้อนแย้งมากเลยนะคะ สรุปคุณชอบหรือไม่ชอบกันแน่เนี่ย”
เปรี้ยวพูดขึ้นไปตามตรงด้วยความสงสัย
“ฉันทำกับเธอแค่คนเดียว กับคนอื่นไม่”
คำพูดของเจเดนทำเอาเปรี้ยวถึงกับชะงักมองหน้าเขาอยู่ดีๆ หัวใจก็เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
“คุณเจเดน คุณชอบหนูหรอคะ”
เปรี้ยวถามเจเดนไปตามตรง ทำเอาเจเดนถึงกับทำตัวไม่ถูกรีบปล่อยกอดออกแล้วลุกขึ้นนั่งทันทีจนเธอต้องลุกนั่งตามอย่างงงๆ
“ถามอะไรไร้สาระ บ่ายสองแล้วฉันจะสั่งข้าว เธอพาฉันนอนไม่รู้เวล่ำเวลาจนเลยเที่ยง ฉันหิว”
“หนูพาคุณนอนที่ไหนกันคะ คุณนั่นล่ะเป็นคนดึงหนูไปนอนกอดเองแท้ๆ ยังมาโทษหนูอีก เอ๊ะ! เดี๋ยวนะคะ คุณเข้าห้องหนูได้ยังไง คุณงัดห้องหนูหรอ”
เปรี้ยวเอ่ยถามเจเดนขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาเข้าห้องเธอได้ยังไง
“ฉันจะงัดห้องให้เสียเวลาทำไม ในเมื่อกุนแจห้องเธอก็มี ฉันให้ว่านเอากระเป๋าเธอมาให้ วางอยู่ตรงหน้าแท้ๆ ไม่แหกตาดูเลยรึไง”
เจเดนพูดใส่เปรี้ยวด้วยคำพูดประชดประชัน จนเปรี้ยวต้องหันไปมองก็เห็นกระเป๋าและโทรศัพท์เธอวางอยู่บนโต๊ะกระจกด้านหน้า
“หนูจะเอาเวลาไหนสังเกตล่ะคะ คุณมาถึงก็เล่นคร่อมหนูเลย คุณสั่งข้าวตัวเองไปเลยนะคะไม่ต้องสั่งเผื่อหนู ว่าแต่หนูทำอาหารกินเองได้มั้ยคะ คือมันจะประหยัดกว่าซื้อสำเร็จกินทุกวัน”
เปรี้ยวพูดขอเจเดนขึ้นเพราะเธอชอบทำอาหารกินเองมากกว่า
“อยากทำอะไรก็ทำ ของที่จะมาทำอาหารก็ใช้เงินฉันซื้อเอา แอพธนาคารฉันก็ย้ายไปไว้เครื่องเธอแล้ว จัดการรายจ่ายให้ฉันดีๆ ด้วยล่ะ ถ้าเธอจะทำอาหารกินเองอยากได้อะไรก็จดมาฉันจะให้คนไปซื้อให้ วันนี้ทั้งวันห้ามเธอเดินบ่อย ห้ามออกไปไหน”
“ได้ไงคะ หนูต้องไปทำงานที่ผับนะคะ หนูลาไม่ได้หนูพึ่งทำงานได้สองวันเอง”
เปรี้ยวพูดค้านเจเดนทันทีเมื่อเขาบอกไม่ให้เธอออกไปไหน
“เธอลืมแล้วรึไง ว่าฉันเป็นเจ้านายเธอ ฉันสั่งให้เธอหยุดใครมันจะกล้าว่าเธอกัน”
เจเดนตอบเปรี้ยวเสียงเรียบ
“ทำแบบนั้นก็เหมือนหนูเป็นเด็กเส้น หนูไม่ชอบแบบนั้น งั้นขอหนูโทรไปหาพี่ออกัสที่เป็นหัวหน้าได้มั้ยคะ หนูขอลากับพี่เค้าก่อน หนูไม่สบายใจถ้าอยู่ๆ ก็หยุดไปโดยไม่แจ้งหัวหน้า”
เปรี้ยวพูดขอร้องเจเดนด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ
“ตามใจเธอ อย่าคุยนาน ฉันไม่ชอบใครคุยโทรศัพท์ใกล้ๆ มันรำคาญ”
เจเดนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ จนเปรี้ยวได้แต่ทำหน้างงใส่เขาเพราะไม่รู้ว่าเขาไม่พอใจอะไร
“งั้นเดี๋ยวหนูเดินไปคุยที่ครัวก็ได้ค่ะ”
เปรี้ยวตัดสินใจจะเดินไปคุยไกลๆ เขา เพราะกลัวเจเดนจะรำคาญ
“ไม่ต้อง จะโทรก็รีบโทร”
“อะไรของคุณเนี่ย”
เปรี้ยวได้แต่พูดขึ้นแบบงงๆ เมื่อเจเดนนั้นพูดวกไปวนมา แต่ก็ไม่อยากเถียงกับเขาจึงหยิบโทรศัพท์ตัวเองมาโทรหาออกัสทันทีแต่ก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ดีๆ เจเดนก็แย่งโทรศัพท์เธอไปเปิดสปีกเกอร์โฟน จนเธอกำลังจะอ้าปากถามเขาแต่ออกัสก็รับสายก่อน
(น้องเปรี้ยว เป็นยังไงบ้าง เมื่อคืนพี่กับผักบุ้งเป็นห่วงมากเลยนะ)
“หนูไม่เป็นไรแล้วค่ะพี่ออกัส แต่หนูเท้าบวมเดินไม่ค่อยได้ค่ะ หนูขอลางานได้มั้ยคะ”
(ได้สิๆ เดี๋ยวพี่บอกคุณเจด้าให้ ว่าแต่น้องเปรี้ยวไปหาหมอยัง อยู่คนเดียวหรอ มีคนดูแลมั้ย)
“อยู่กับฉัน”
เจเดนพูดสวนขึ้นเสียงแข็งแล้วกดตัดสายออกัสไปทันที
“คุณเจเดน! หนูยังพูดไม่จบเลยนะ”
เปรี้ยวแว๊ดเสียงใส่เจเดนด้วยความไม่พอใจเมื่อเขาตัดสายทิ้งโดยไม่รอให้เธอพูดก่อน
“เธอแจ้งลาไปแล้วนิ ก็คุยจบแล้ว ห้ามโทรหาใครอีก ฉันจะนั่งทำงาน เธอเป็นลูกหนี้ต้องมาช่วยฉันพิมพ์งานด้วย ฉันต้องส่งอาจารย์วันจันทร์”
“ค่า คุณเจ้าหนี้ จะให้ทำอะไรบอกมาเลยค่า”
เปรี้ยวพูดใส่เจเดนด้วยน้ำเสียงประชดประชัน เมื่อเขาสั่งงานเธอ
“ดี อย่ามาว่าฉันสั่งงานเยอะทีหลังล่ะ”
พูดจบเจเดนก็เดินไปหยิบโน๊ตบุ๊กในห้องนอนออกมาให้เปรี้ยวแล้วบอกเธอว่าจะให้พิมพ์อะไร ส่วนเปรี้ยวเมื่อเข้าสู่โหมดทำงานก็ตั้งใจฟังเขาบอกอย่างจริงจัง จากนั้นก็ทำงานช่วยเจเดนโดยไม่บ่นอะไรเลยสักนิดจนเจเดนได้แต่กระตุกยิ้มชอบใจเมื่อเห็นร่างบางกำลังตั้งใจทำงานให้เขาอย่างจริงจัง