เพล้ง!! พลั๊ก!!! เพล้ง! เพล้ง!
“โธ่เว้ย!!!”
พอกลับมาถึงคอนโด คริสเตียนก็เข้าสู่โหมดทำลายล้างทันที ของทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าถูกเขาพังลงมาจนหมด ก่อนจะหอบร่างอันโกรธเคืองเดินไปที่เคาเตอร์เหล้า เขาเทมันใส่แก้วแล้วกระดกรวดเรียวราวกับว่ามันหวานหอมยิ่งกว่าขนมหวานก็ไม่ปาน ใบหน้าเรียวยังคงปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาจนต้องเขวี้ยงแก้วใส่
“ผู้หญิงเลว...ทำไมไม่ตายๆไปซะ จะกลับมาอีกทำไม...ทำไม!!!”
เขาได้แต่ตะโกนพูดกับตัวเอง ก่อนจะหยิบแก้วใหม่มาแล้วดื่มเข้าไปอีกครั้ง อีกครั้งและอีกครั้ง
ส่วนอลิสาที่นั่งร้องไห้จนพอใจค่อยๆควานหาโทรศัพท์มือถือของเธอขึ้นมา และพบว่าหน้าจอมันแตกและดับไปเรียบร้อยแล้ว เธอเดินไปล็อกประตูหน้าบ้านแล้วรีบเดินเข้าห้องนอนพร้อมกับล็อกอีกชั้นอย่างแน่นหนาเพราะกลัวว่าจะมีใครเข้ามาได้อีก เห็นทีเธอต้องรีบจัดการเรื่องที่นี่ให้เสร็จแล้วจะได้กลับอเมริกาและเธอคงไม่คิดกลับมาที่นี่อีกแล้ว
เช้าวันต่อมา เธอรีบออกจากบ้านตั้งแต่เช้าเมื่อต้องไปซื้อกล่องและอุปกรณ์แพ็คของมาเก็บของที่เธอจะส่งไปอเมริกา เมื่อนอกจากบ้านหลังนี้เธอก็ไม่มีที่อยู่ที่นี่แล้ว
“อลิซ!!! นี่อลิซจริงๆด้วย!!”
“ฟ้า!!!”
“อ๊ายยยยย! ฉันคิดว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอแกอีกแล้วอลิซ!!”
ขณะที่เดินลงจากแท็กซี่ เสียงร้องเรียกชื่ออลิสาก็ดังขึ้น ทำเอาเธอถึงกับตกใจรีบหันไปมอง และพบว่าคือ ฟ้าใส เพื่อนสนิทของเธอตั้งแต่เด็ก สองสาววิ่งเข้าหากันอย่างแสนคิดถึง เมื่อนานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้เจอกัน
“แกหายไปไหนมา! ฮื่อๆๆๆ รู้ไหมว่าฉันแทบบ้าตอนที่แกหายตัวไปยัยเพื่อนบ้า!!”
ฟ้าใสรีบต่อว่าพร้อมทั้งน้ำตาเมื่ออยู่ดีๆอลิสาก็ไม่กลับมาอีกเลย เธอเฝ้าถามและตามหาอลิสาไปทั่วแต่ก็ไม่มีใครรู้ จนเธอคิดว่าอลิสาอาจไม่มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้แล้ว
“ฉันขอโทษ ฉันคิดถึงแกเหมือนกันนะฟ้า”
อลิสาได้แต่เอ่ยขอโทษพร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างไม่อยากเชื่อว่าการกลับมาที่นี่ของเธอจะไม่เสียเปล่า อย่างน้อยก็มีเพื่อนของเธอที่ยังรอและคิดถึงการกลับมาของเธออยู่
สองสาวยืนกอดกันอยู่นานสองนาน จนแท็กซี่ทนไม่ไหวเดินลงมาบอกให้ขนของลงเขาจะไปขับแท็กซี่ต่อ สองสาวเลยช่วยกันขนลง
“มันเกิดอะไรขึ้น...แกรู้ไหมว่าฉันคิดว่าแกไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้วซะอีก”
ฟ้าใสถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ เมื่อพากันเข้ามาในบ้านแล้ว
“เดี๋ยวเอาไว้ถ้ามีเวลาว่างเยอะๆฉันจะเล่าให้แกฟังนะ ฉันกลับมาเพื่อจัดการบ้านหลังนี้แล้วก็ของพวกนี้น่ะ ว่าแต่แกไม่ย้ายออกเหรอ?”
“ย้ายสิ วันนี้ฉันกลับมาเอาของเลยได้เจอแกเนี่ย ยัยบ้า ฉันอยากโกรธแกจริงๆนะ”
“ฉันขอโทษ”
นอกจากคำว่าขอโทษอลิสาก็ไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดได้ดีกว่าคำนี้อีกแล้ว เมื่อตอนนี้ชีวิตเธอก็อยู่ในจุดพลิกผันเหมือนกัน
“แกรู้ไหมว่าหมอนั่นมาที่นี่ทุกวันเลยนะ...ทีแรกฉันคิกว่าแกไปอยู่กับหมอนั่นถึงไม่กลับมาที่นี่ แต่พอเห็นหมอนั่นมาที่นี่บ่อยๆฉันเลยรู้ว่าแกไม่ได้อยู่กับเขา...”
ฟ้าใสพูดขึ้น เมื่อเธอเองก็รู้ถึงการคบกันระหว่างอลิสากับคริสเตียน เมื่อทั้งสองรักและดูเหมาะสมกันมากด้วย
“อย่าไปพูดถึงเขาเลยนะ มันจบไปนานแล้วล่ะ”
อลิสาบอกออกมา ทำเอาฟ้าใสไม่คิดซักไซ้อะไรอีก เธอเริ่มช่วยอลิสาเก็บของพร้อมกับเริ่มเล่าเรื่องราวสารทุกข์สุขดิบที่ได้เจอมาให้กันและกันฟัง ความทรงจำวัยเด็กหวนกลับมาอีกครั้งทำให้อลิสาเลิกคิดฟุ้งซ่านไปกับเรื่องของคริสเตียนอีก
“ว๊าย!! นะ...นี่มัน...เกิดสงครามรึไงเนี่ยยยย!”
เสียง ป้าแขไข ดังขึ้นทันทีที่เปิดประตูคอนโดของเจ้านายหนุ่มออกมา เมื่อห้องอันเคยสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยตลอดเวลากลับพังยับเยินแทบหาทางเดินเข้าไปไม่ได้ เธอมองไปรอบๆห้องและพบว่าคริสเตียนนอนแผ่หลาอยู่บนโซฟาใหญ่กลางห้อง
“มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย”
ป้าแขไขเอาเท้าเขี่ยๆเปิดทางแล้วเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของเจ้านายหนุ่ม ที่นอนหมดสภาพจนแทบดูไม่ได้
“โธ่ มันเกิดอะไรขึ้นคะคุณหนูของป้า ทำไมถึงเละเทะอย่างนี้”
ป้าแขไขพูดขึ้น เมื่อวันนี้เธอคงต้องเจองานหนักอีกแล้วเป็นแน่ เธอค่อยๆจับแขนจับขาของคริสเตียนให้นอนบนโซฟาได้อย่างสบายแล้วเดินไปเอาผ้าห่มมาห่มให้ ก่อนจะโทรไปเรียกแม่บ้านที่บ้านหลังใหญ่มาเพิ่มเพื่อช่วยทำความสะอาด เพราะเธอคนเดียวน่าจะทำไม่เสร็จแน่วันนี้
“อะไรนะ คริสน่ะเหรอยังไม่เข้าบริษัท?”
“ค่ะ ท่านประธานยังไม่เข้ามา ติดต่อก็ยังไม่ได้เลยค่ะ”
“เกิดอะไรขึ้น...ปกติหมอนั่นไม่เคยมาทำงานสายเลยนี่...”
“นั่นสิคะ อิงอรก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกันค่ะ”
อิงอร เลขาหน้าห้องของคริสเตียนบอกขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล เมื่อพยายามติดต่อเจ้านายหนุ่มไปหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ
ส่วน ภีรพล หรือ ภี เพื่อนสนิทของคริสเตียนที่ทำงานอยู่ด้วยกันถึงกับทำหน้าแปลกใจกับการหายเงียบไปของคริสเตียน เขายกโทรศัพท์ออกมากดโทรออกไปหาแต่ก็ไร้การตอบรับอีกตามเคย
“งั้นถ้ามันมาช่วยบอกผมทีนะ”
“ได้ค่ะ”
“อ้อ ส่วนถ้ามีงานด่วนหรือประชุมด่วนก็แจ้งผมมาได้เลย”
“ค่ะ...”
สั่งเสร็จภีรพลก็เดินกลับออกไป เพราะปกติแล้วเขาจะรับผิดชอบงานทุกอย่างแทนคริสเตียนอยู่แล้วในเวลาที่คริสเตียนไม่อยู่
ทางด้านคริสเตียน หลังจากนอนพักอยู่นานถึงบ่ายสามโมงเขาก็ค่อยๆตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดร้าวไปทั้งหัว เขาปรือตามองไปรอบๆและพบว่าห้องที่เคยรถจนแทบหาทางเดินไม่ได้นั้นตอนนี้สะอาดสะอ้านต่างจากเมื่อคืนอย่างสิ้นเชิง
“ตื่นแล้วเหรอคะ?”
“อื้ออออ ป้าแขไข...กี่โมงแล้ว...”
“บ่ายสามแล้วค่ะ นี่เป็นซุปแก้เมา กินซะจะได้สร่างเมาค่ะ”
ป้าแขไขบอกขึ้นพร้อมกับดันถ้วยซุปไปวางไว้ตรงหน้าคริสเตียน เขาพยุงตัวลุกนั่งแล้วเริ่มตักซุปเข้าปาก เมื่อทุกครั้งที่เขาเมาหนักมักจะได้กินซุปนี้เป็นประจำอยู่แล้ว
“มันเกิดอะไรขึ้นคะ คุณหนูถึงพังห้องซะเละขนาดนั้น”
ป้าแขไขถามขึ้นแต่กลับไม่ได้รับคำตอบเมื่อคริสเตียนเอาแต่ตักซุปเข้าปาก ก่อนจะวางช้อนลงเมื่อรู้สึกอิ่มแล้ว
“ทำความสะอาดเสร็จแล้วป้าก็กลับไปเถอะ ผมต้องเข้าบริษัทอีก”
เขาบอกขึ้นพร้อมพยุงร่างลุกเดินเข้าไปในห้องนอน จากนั้นไม่นานเสียงเปิดฝักบัวในห้องน้ำก็ดังขึ้น ป้าแขไขได้แต่ส่ายหัวให้กับเจ้านายหนุ่มที่เธอเฝ้าเลี้ยงดูไม่ต่างจากลูกชายมาตั้งแต่เล็กๆ ตอนนี้โตเป็นหนุ่มแล้วแท้ๆแต่กลับไม่ต่างจากตอนเล็กๆเลยเมื่อคริสเตียนมักเก็บเรื่องราวต่างๆเอาไว้ในใจไม่ยอมบอกหรือเล่าให้ใครได้ฟังหรือรับรู้เลย