ตอนที่ 4 อิจฉา

1338 Words
เช้าวันต่อมาที่บริษัทรับเหมาก่อสร้างครบวงจร ณัฐฐามาถึงในตอนเช้ากว่าปกติด้วยความมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้งานทุกอย่างจากเลขานุการที่เป็นคนโปรดของบิดา หญิงสาวหมุนตัวจากเบาะแล้วก้าวลงมาจากรถพร้อมกันกับวิชญะที่จอดรถอยู่ข้างๆ แล้วทั้งคู่ก็เดินเข้าไปในประตูด้านหลังของบริษัทพร้อมกันโดยมีวิชญะเปิดประตูให้ เลขานุการหนุ่มเดินไปกดลิฟต์ให้เธอแล้วยืนรอลิฟต์อยู่ข้างกัน เมื่อประตูลิฟต์เปิดวิชญะผายมือให้เธอเข้าไปก่อนแต่เธอยักไหล่เล็กน้อยทำให้วิชญะต้องเข้าไปยืนในลิฟต์ก่อน ในจังหวะนั้นเองณัฐฐาที่ไม่ชินกับรองเท้าคู่ใหม่สะดุดประตูลิฟต์ขณะที่กำลังจะก้าวเข้าไปจนเกือบจะล้มหน้าคว่ำ ฝ่ามือหนายื่นไปรับที่ด้านหลังแล้วดึงตัวเธอให้ถอยออกมาจากประตูลิฟต์ที่กำลังจะปิด แล้วกอดรั้งอีกฝ่ายให้อยู่ในอ้อมกอด กลิ่นลมหายใจของเลขานุการหนุ่มและกลิ่นน้ำหอมผู้ชายของเขาทำให้ณัฐฐารู้สึกใจเต้นแรง ภาพความทรงจำสมัยเด็กที่วิ่งไล่จับกันอย่างสนุกสนานก็ผุดขึ้นมาในห้วงความคิด วิชญะเป็นพี่ชายที่แสนดี เขาดูแลเธอกับพี่สาวเป็นอย่างดีและติดจะตามใจเธอมากกว่าเพราะว่าเป็นน้องคนเล็กสุด ตอนเล่นด้วยกันเขาก็จะรับบทพี่ชายที่แสนดีปกป้องและดูแลเธอสองพี่น้อง เวลามีขนมก็จะเอาส่วนของตนเองยกให้เธออยู่เสมอ “พี่วิชญ์...” เธอเผลอเรียกชื่อเขาเสียงเบา “อะไรนะครับคุณฐา เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เขามองใบหน้างงงวยที่กำลังเงยหน้ามองตนเองอยู่แล้วยิ้มกว้างให้ราวกับพอใจที่ได้ยินหญิงสาวเผลอเรียกตนเช่นนั้น ณัฐฐาที่ได้สติดันตัวออก จากเขาแล้วไปยื่นอีกมุมหนึ่งของลิฟต์พยายามทำหน้าตาเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “รองเท้าคู่ใหม่เหรอครับผมว่าส้นมันสูงและแหลมไปเดี๋ยวผมจะหาคู่ใหม่มาให้นะครับ” “ไม่เป็นไรค่ะฉันชอบคู่นี้ใส่ไปเดี๋ยวก็ชินเอง” หญิงสาวปฏิเสธเสียงเรียบ ข่มความเขินอายที่สะดุดล้มไปในอ้อมกอดเขาแบบนั้น วิชญะยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากดูใบหน้าที่ทำเหมือนหยิ่งผยองนั้นทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วเขารู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นคนร่าเริงสดใสแค่ไหน แม้ในเวลางานจะวางมาดจริงจังเพื่อให้พนักงานเกรงกลัว แต่บางทีก็ยังหลุดทำตัวน่ารักทะเล้นออกมาจนไม่มีใครเกรงกลัวเธอแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะไม่เชื่อมั่นในตัวเธอ เพราะณัฐฐาเป็นเจ้านายที่ใจดี พนักงานเก่าแก่จึงรักและเอ็นดูตั้งแต่ที่เห็นความตั้งใจตอนที่มาเรียนรู้งานแล้ว และเพราะเขาเป็นที่ชื่นชม ส่วนเธอนั้นน่าเอ็นดูเพราะความยังเยาว์จึงเป็นเหตุให้รองประธานสาวเข้าใจผิดว่าพนักงานชื่นชอบตนมากกว่าเจ้าหล่อนจึงเกิดความน้อยใจ “วันนี้คุณฐามาทำงานเช้าจังเลยนะครับ” เขาชวนเธอคุยเพื่อเปลี่ยนเรื่อง “ค่ะ พอดีว่าอยากมาทำงานแต่เช้าดูบ้าง” เธอพูดเสียงเรียบแล้วมองดูลิฟต์ที่กำลังเลื่อนขึ้นไปชั้นที่ต้องการ รู้สึกว่าครั้งนี้เวลาในลิฟต์มันนานกว่าปกติ เธออยากหลบหน้าเขาจากเรื่องน่าอายเมื่อครู่เต็มทีแล้วแต่อีกฝ่ายก็ยังชวนคุยอยู่ได้ “แล้วคุณฐารับอาหารเช้ามาหรือยังครับ ถ้ายังก็ไปกินด้วยกันก่อนก็ได้นะผมทำแซนด์วิชมาเยอะเลยแบบที่คุณฐาเคยชอบตอนเด็กๆ” เขาพูดเสียงนุ่มในตอนท้ายแล้วมองใบหน้าสวยหวานที่หันกลับมาสบตากับเขา “แซนด์วิชฝีมือพี่วิชญ์อร่อยที่สุดในโลกเลยค่ะ” เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กหญิงตัวน้อยพูดชื่นชมขึ้นมาในขณะที่กัดแซนด์วิชคำโตผุดขึ้นมาในความทรงจำของรองประธานสาว “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ” เธอบอกเขามองดูประตูลิฟต์ที่เปิดออกแล้วรีบเดินออกไปอย่างระมัดระวังไม่ให้ตัวเองล้มอีกครั้ง วิชญะมองตามด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ดีแล้วก็ถอนหายใจออกมา เตือนตัวเองว่าไม่เหมาะสมที่จะคิดอะไรกับเธอเกินเลย เขาเดินตามเธอออกมาแล้วตรงเข้าไปที่ครัว ชงกาแฟสองแก้วเผื่อให้เธออีกหนึ่งแล้วจัดแซนด์วิชใส่จานพร้อมกับกาแฟเข้าไปวางให้เธอที่โต๊ะภายในห้อง หญิงสาวได้แต่มองตามไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจที่เขาให้ พอเลขานุการหนุ่มเดินออกไปเธอก็มองแซนด์วิชตรงหน้าแล้วอมยิ้มออกมาเล็กน้อย เลือกชิ้นที่ฉ่ำด้วยน้ำสลัดโบราณสีเหลืองอ่อนขึ้นมากัดเข้าไปในปากด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข ณัฐฐาย้อนคิดถึงความหลังสมัยก่อน ริมฝีปากขยับเคี้ยวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขแล้วรอยยิ้มนั้นก็ค่อยๆ ลดลงเมื่อนึกได้ว่าตนเองหมั่นไส้อีกฝ่ายอยู่ แม้จะเข้าใจความหวังดีจากเขา แต่เธอรู้ตัวดีว่ายังคงทำใจไม่ได้ที่การทำงานยังมีเขาชักใยจากเบื้องหลังให้ทำนู่นทำนี่ไม่ให้เธอได้ตัดสินใจเองในฐานะรองประธานที่เป็นเจ้านายของเขา “คอยดูเถอะฐาจะเก่งให้มากกว่าพี่วิชญ์แล้วจะเปลี่ยนเลขาคนใหม่ที่ไม่ห้ามฐา แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการดื่มกาแฟมากกว่าวันละสองถ้วย” หญิงสาวความโมโหเมื่อนึกถึงสิ่งเหล่านี้ แล้วกัดแซนด์วิชคำโตด้วยความโมโห “ใช่แล้ว อย่างที่คุณพ่อบอกพี่วิชญ์เขาเก่งและตัดสินใจทุกอย่างได้เฉียบขาด เราจะต้องเรียนรู้งานจากเขาให้มากๆ พอถึงวันที่คุณพ่อวางใจแล้วเราก็จะเปลี่ยนเลขาคนใหม่ ตอนนั้นก็ไม่ต้องมาอยู่ในเงาของพี่วิชญ์อีกต่อไปแล้ว” หญิงสาวรู้ตัวดีว่าตนกำลังอิจฉาความเก่งที่เขามี ตั้งแต่เธอมาเรียนรู้งาน มาฝึกงาน จนกระทั่งเรียนจบออกมาเป็นพนักงานแล้วรับตำแหน่งรองประธานในตอนนี้เสียงชื่นชมของวิชญะก็ไม่เคยหยุด ทุกคนชื่นชมการทำงานของเขามาก มากจนมองข้ามความสามารถที่แท้จริงของเธอไป ในห้องประชุมของบริษัท ในขณะที่มีการพูดคุยและประชุมงานเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างที่มีปัญหา ณัฐฐานั่งฟังปัญหาของผู้รับเหมาอย่างเงียบๆ ทิ้งอคติที่มีต่อเลขานุการหนุ่มแล้ววิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกับพนักงาน หญิงสาววิเคราะห์ปัญหาแล้วคิดแก้ปัญหานี้ในใจแต่ยังไม่ได้ออกความเห็นออกไป รอฟังว่าวิชญะจะออกความเห็นเป็นไปในแนวเดียวกันกับเธอหรือไม่ “คุณฐาเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ” ฝ่ายจัดซื้อถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล หญิงสาวหันไปมองวิชญะที่คราวนี้เขาเงียบผิดปกติจึงออกความเห็นออกไปก่อน “ราคาวัสดุที่เพิ่มขึ้นแบบนี้ งั้นก็ลองขอใบเสนอราคาจากเจ้าอื่นมาเปรียบเทียบดูก่อนดีไหมคะ” “ผมเห็นด้วยกับคุณฐานะครับ แต่ปัญหาคือราคาขึ้นแทบทุกเจ้า แล้วสัญญาที่เราทำเอาไว้ในราคาเดิมก็จะหมดในสิ้นเดือนนี้แล้วด้วย ผมว่าเราสั่งวัสดุมากักตุนเอาไว้ที่โกดังก่อนจะดีกว่าไหมครับ” ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเสนอขึ้นมา “ฐาว่าก็ดีนะคะ งั้น...” “งั้นคุณฐาจะเอาไปคิดก่อนนะครับ แล้วยังไงพรุ่งนี้จะเรียกประชุมอีกที” วิชญะพูดแทรกขึ้นมา ทำให้ฝ่ายจัดซื้อสามคนที่เข้ามานั่งร่วมประชุมมองหน้ากันด้วยความกังวลใจ ณัฐฐารู้ดีว่าเขาต้องมีความคิดแตกต่างกับตนแน่แต่ก็เงียบเอาไว้รอฟังความคิดของเขาในภายหลังด้วยความหมั่นไส้เล็กน้อย ************************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD