6

1534 Words
“ผมขอแนะนำอีกอย่างครับ คุณไทควรจะกินยาแล้วก็นอนพักนะครับ จะได้หายเร็วๆ” “ไสหัวไปซะ” อธิปกรอกตาไปมา ไอ้หมอนี่หน้านิ่ง แต่กวนส้นตีนเป็นบ้า ร่างสูงเพรียวทิ้งตัวลงนอน เขานึกถึงแต่ใบหน้าของชัชญา ให้ตายเถอะ! ยัยแม่มดเอ๊ย! เขาสบถอย่างหัวเสีย ถ้าเขาไม่ได้เธอเป็นเมียอย่ามาเรียกเขาว่าอธิปก็แล้วกัน “นั่นเป็นภรรยาของคุณกวีครับคุณไท” นพฤทธิ์กระซิบบอกเสียงเบา ในขณะที่อธิปเพ่งมองผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้าออกที่นี่เหมือนบ้านตัวเอง ผู้หญิงคนนี้ภายนอกดูออกจะเรียบร้อย แต่ข้างในคงเน่าเฟอะและน่ากลัว “เพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงของลุงเกรียงนะเหรอ” เขาพอจะรับรู้คร่าวๆ ก่อนมาทำงานช่วยเหลือพี่ชายเพื่อหาหลักฐานจัดการเสี่ยใหญ่ที่พยายามก่อกวนบุกรุกไร่ธารธาราและอยากจะฮุบเอาไปเป็นสมบัติของตัวเอง “ใช่ครับ คุณกัญญามาศเป็นภรรยาของคุณกวี ไร่ติดกับนายใหญ่ครับ” “ยัยนี่มีชู้ แต่ลุงกวีไม่รู้เหรอวะ” อธิปลูบคางไปมา “ไม่รู้ครับ” นพฤทธิ์ตอบกลับ มองกัญญามาศด้วยสายตานิ่งๆ “ฉันจะเข้าไปฟังพวกมันว่าพูดอะไรกันใกล้ๆ” อธิปกวาดสายตามองรอบๆ คิดหาทางแทรกตัวเข้าไป “ผมไปเองดีกว่าไหมครับ” นพฤทธิ์รีบอาสา “ฉันไม่ใช่ไก่อ่อนไอ้ไข่ แกดูต้นทางเอาไว้” อธิปหันมาพูดเสียงกร้าว เขาเบื่อเหลือเกินกับการที่ถูกมองด้วยสายตาไม่เชื่อถือ ทำยังกับว่าเขาเหมือนเด็กเล็กๆ ไม่เอาไหน “ผมเปล่าว่าอะไรคุณไทนะครับ แค่เป็นห่วง” นพฤทธิ์เสียงอ่อยเล็กน้อย รู้สึกอ่อนใจกับความขี้โมโหและขี้รำคาญของเจ้านายหนุ่มเหลือเกิน “น่ารำคาญฉิบ ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันเอาตัวรอดได้ แกดูลาดเลาให้ฉันก็พอ” อธิปค่อยๆ ลัดเลาะเข้าไปใกล้ๆ เขาแอบฟังว่าไอ้เสี่ยชาญมันพูดอะไรกับกัญญามาศ นพฤทธิ์ทำท่าจะคัดค้านแต่ไม่ทัน อธิปเหมือนเด็กใจร้อนที่ชอบความท้าทายและความหวาดเสียวอยู่ตลอดเวลา แต่เขาก็ถึงกับนึกชื่นชมความสามารถของอธิปอยู่ในใจ เจ้านายคนนี้สามารถพาตัวเองเข้าไปใกล้ๆ ได้อย่างไม่มีใครสงสัย ฝีเท้าก็เบายังกับนักย่องเบา อธิปพาตัวเองออกมาจากบริเวณที่แอบฟังเสี่ยชาญกำลังคุยเรื่องสำคัญได้อย่างหวุดหวิดเมื่อคิมหันต์ก็เดินเข้ามาทางนั้นเหมือนกัน ชายหนุ่มเป่าลมออกจากปาก โล่งใจและชอบความท้าทายตื่นเต้นแบบนี้เป็นบ้า “ถ้าโดนจับได้” “ปากเสียฉิบ หุบปากซะ” อธิปกระซิบเสียงดุ ก่อนจะมุ่งหน้ากลับบ้านพักของตัวเองอย่างเงียบเชียบและไร้พิรุธอันใด “ตอนนี้มันกำลังจะขนของล๊อตใหญ่ออกไปจากไร่” “ของเถื่อนเหรอว่ายาเสพติด” นพฤทธิ์ถามเสียงเครียดอย่างสนใจ “น่าจะทั้งสองอย่าง ยัดไส้ไปกับสินค้าทางการเกษตรของมัน แต่มันคงยัดเงินให้ด่านตรวจแล้วล่ะ เลยผ่านไปได้หลายรอบ มันเงินหนาจะตายไป” “คุณไทจะบอกเรื่องนี้กับนายกฤษฏ์เลยหรือเปล่าครับ” “เดี๋ยวก่อน ขอสืบให้ละเอียดกว่านี้อีก ฉันถึงจะวาดแผนที่คร่าวๆ ให้พี่กฤษฏ์ ตอนนี้ฉันมีอะไรทำที่น่าสนใจมากกว่านี้ ตอนนี้อย่าเพิ่งวู่วามทำอะไร ทำตัวให้เงียบที่สุด เดี๋ยวจะกลายเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น” อธิปดึงบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ในสมองครุ่นคิดอย่างเฉียบแหลม “เรื่องที่น่าสนใจคือคุณหนูชัชญาเหรอครับ” “ยุ่งน่า หน้าที่นายคือทำยังไงก็ได้ให้พวกมันไว้ใจ แทรกตัวเข้าไปแบบเนียนๆ ทำตามที่มันบอก แล้วทุกอย่างจะดีเอง” “ครับคุณไท” “ฉันรู้ว่านายทำได้ นายออกจะฉลาด” “ขอบคุณที่ชมครับ” “กวนโอ๊ย! ชะมัดยาด” ท่าทีก้มศีรษะเหมือนล้อเลียนของอีกฝ่ายทำให้อธิปคันเท้าอยากกระทืบคน ถ้าไม่ติดว่าหมอนี่เป็นลูกน้องของพี่ชายเขาอัดมันน่วมไปแล้ว โทษฐานที่ชอบทำหน้านิ่งจนหน้าหมั่นไส้แล้วก็พูดจากวนอารมณ์เขาตลอด อธิปตามติดคอยดูแลรับใช้และคุ้มครองชัชญาไปตลอด ในระหว่างนั้นนพฤทธิ์ก็ทำตัวกลมกลืนกับลูกน้องของชาญ เขามีวิธีซื้อใจพวกนั้นได้ไม่ยาก และความที่เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยใส่ใจอะไรหรือกวนบาทาเหมือนอธิป ทำให้นพฤทธิ์เข้ากับคนอื่นๆ ได้ไม่ยาก แต่สำหรับอธิปเขามีชัชญาคอยหนุนหลัง จึงไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยว ยกเว้นคิมหันต์ที่มองอธิปอย่างโกรธแค้น และหาทางเอาคืนอยู่ตลอดเวลา “คู่นี้สวยหรือเปล่า” ชัชญาถามอย่างสุดเซ็ง ตั้งแต่กลับมาจากเมืองนอก เธอก็เบื่อหน่ายกับแฟชั่นที่นี่สุดๆ ทั้งเชยทั้งเฉิ่ม และไม่มีอะไรเจริญหูเจริญตาเลย แต่เพราะมันก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรให้ช็อป “คุณหนูใส่คู่ไหนก็สวยครับ” “นายตอบโดนใจชะมัด” ชัชญาเลยจัดการกวาดรองเท้าหลายคู่เสียเกือบหมดร้าน อธิปหน้าเมื่อยเมื่อต้องแบกถุงรองเท้าตามหญิงสาวไป หรือพูดง่ายๆ ก็คือเขาแทบจะคาบมันไปด้วยเพราะไม่มีมือถืออีก “นายช่วยเลือกเสื้อผ้าพวกนี้หน่อยสิ” ถึงแม้จะเชยๆ ไม่มีอะไรช็อป แต่มีหลายชุดที่เธอคิดว่าพอจะใส่ได้ และพอจะถูกใจอยู่บ้าง คราวนี้อธิปกวาดสายตามองเสื้อผ้าในราวและในตู้โชว์ที่แขวนอยู่ ชัชญาหัวเราะเสียงใส กอดอกมองบอดี้การ์ดของตัวเองเหมือนเขาเป็นตัวประหลาด “หัวเราะผมทำไมครับคุณหนู” อธิปทำตัวเป็นลูกแมวตัวเชื่องของชัชญาได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ เขาเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะบริการผู้หญิงคนไหนได้มากเท่านี้มาก่อน “หัวเราะนายน่ะสิ ทำไมเหรอ กลัวฉันเหมาหมดทั้งร้านอีกหรือไง” “คงอย่างนั้นล่ะครับ” อธิปตอบกลับมองสบตากับหญิงสาว ถ้าเขาบอกว่าเธอใส่ชุดไหนก็สวย เธอคงจะเหมาหมดร้าน และเขาก็รู้ดีว่าเธอมีความสามารถที่จะเหมาหมดร้าน และหมดห้างนี้ยังไหว “ต่างจังหวัดแบบนี้เสื้อผ้าเชยชะมัด ฉันแค่มาหาซื้ออะไรคลายเครียด ไม่ได้คิดจะซื้อไปใส่หรอก” เธอมีเสื้อผ้าให้เลือกสรรจากตู้ที่เยอะแยะมากมาย บางตัวซื้อมาแทบไม่ได้ใส่สักครั้ง และถ้าเธอจะซื้อก็คงสั่งตัดจากช่างที่กรุงเทพฯ ที่เธอเป็นลูกค้าประจำอยู่ ด้วยเม็ดเงินมหาศาลของบิดาสามารถบันดาลได้ทุกสิ่งทุกอย่าง ช่างจากห้องเสื้อชื่อดังยินยอมเดินทางมาตัดชุดสวยๆ ให้เธอถึงไร่สายธารอย่างไม่เกี่ยงงอนเพราะค่าตอบแทนที่สูงลิ่ว “ถ้าไม่ใส่ ผมว่าคุณหนูอย่าซื้อจะดีกว่าครับ มันสิ้นเปลืองเปล่าๆ อีกอย่างลองคิดดูสิครับ คนที่ไม่มีเสื้อผ้าใส่ กว่าเค้าจะหาซื้อเสื้อผ้าได้แต่ละชุดต้องคิดแล้วคิดอีก บางคนแทบไม่ต้องคิด เอาเสื้อผ้าเก่าๆ มาปะแปะเต็มไปหมดทั้งตัว เพื่อให้มีเสื้อผ้าใช้ปกปิดร่างกาย” คำพูดของอธิปทำให้หญิงสาวมองนิ่ง จนเขาขยับตัวอย่างอึดอัด “มองผมทำไมครับคุณหนู” “นายดูมีสาระเหมือนกันนะ ที่สำคัญโต้ตอบกับฉันเป็นด้วย” “ผมพูดได้ก็ต้องโต้ตองได้สิครับ ไม่ได้เป็นใบ้เสียหน่อย” “แต่บอดี้การ์ดคนก่อนๆ ของฉัน พูดอยู่คำเดียว ครับๆๆๆ น่าเบื่อหน่ายและน่ารำคาญที่สุด” เธอกรอกตาไปมาขณะบ่นอย่างไม่ใส่ใจมากนัก “พวกเขาอาจจะกลัวคุณหนู” “กลัวฉันเหรอ ผู้ชายอกสามศอกกลัวผู้หญิงได้ด้วย” เธอยกน้ำส้มปั่นขึ้นดูด แม้อากาศที่นี่จะร้อน ทุกอย่างดูไม่ค่อยเจริญหูเจริญตาเท่าไหร่ สู้อยู่ในบ้านยังสบายกว่าออกมาเดินแบบนี้ แต่มันก็ทำให้เธอได้รู้ว่าเธอจะไม่ออกจากบ้านอีกนาน “กลัวคุณหนูจับปล้ำ” “แค่กๆๆๆ” ชัชญาสำลักน้ำที่ดื่มเข้าไป หมอนี่กล้ามากที่พูดกับเธอแบบนี้ “รู้ได้ยังไง หรือว่านายอยากถูกฉันจับปล้ำ” “ถ้าคุณหนูทำจริงผมจะอ้าแขนอ้าแขนยินยอมเลยครับ” “หึ! นึกว่าฉันจะสนน้ำหน้าอย่างนายหรือไง” “ท่า... ยากผมเยอะนะครับ” “ไอ้!!!” “ผมหมายถึงท่ายากครับ ท่ายาก มีหลายท่า” “เหรอ งั้นท่าคาบถุงเสื้อผ้าของนายคงไม่ยากใช่ไหม” อธิปสบถอย่างหัวเสียเมื่อโดนเธอแกล้งเข้าให้ เขาแทบจะคาบถุงเสื้อผ้าของเธอจริงๆ ผู้คนก็หันมามองกันใหญ่ มีสาวๆ หลายคนอยากจะเข้ามาช่วย แต่เพราะสายตาร้ายกาจของชัชญาจึงไม่มีใครกล้าสักคนเดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD