----04----
ตกกลางคืนฉันงอแงกับอีป่านแทบตายเพราะไม่อยากแยกจากกัน ก็ภาษาจีนฉันมันห่วยแตกระดับเอาไปสื่อสารไม่ได้เลยน่ะสิ ไหนจะปัญหาพูดผิดๆ ถูกๆ ทั้งไทย อังกฤษ จีน เอาง่ายๆ คือทุกวันนี้คุยกับใครค่อยจะรู้เรื่องที่ไหน เช้านี้อาจารย์จางจัดให้ไปเที่ยวกันก่อนจะแยกไปตามจุดที่จับฉลากได้เมื่อคืนนี้ เราเดินไปทางไปมหาลัย National Taichung University of Education เป็นมหาลัยในไทจง แรกๆ ก็รู้สึกเบื่อถึงเบื่อมากเพราะเค้าก็พามาฟังประวัติต่างๆ นานาของที่นี่ (ประวัติศาสตร์นะโว้ย วัฒนธรรมโว้ยไหนว่ามาเรียนไงสนใจหน่อย) ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องค่ะ ภาษาจีนไง แบบงงถึงงงมาก แต่ก็เดินฟังจนจบ
"มึงแปลแบบสรุปให้กูหน่อย"
ฉันเอียงตัวไปกระซิบบอกอีป่าน มันถอนหายใจแล้วหันมาหาฉัน
"มึงเออ ออกับเค้าทุกอย่างกูนึกว่ามึงจะรู้เรื่อง"
"เอ้า ไม่เออเค้าก็ถามอีก มีใครสงสัยมั้ย? เงียบแบบนี้ไม่เข้าใจใช่มั้ย? "
"ก็เล่าประวัตินั่นแหละจะฟังมั้ยยาวหน่อยย่อไม่ได้"
"ไม่ต้องเล่าละ อ๊ะ!! ¥ขอโทษค่ะ"
นี่มัวแต่คุยกับอีป่านไม่ได้ดูทางชนใครเข้าก็ไม่รู้
"¥ไม่เป็นไรครับ"
สิ่งที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าคือชายหนุ่มรุ่นใหญ่วัยน่าจะเหยียบ 40 ที่ยังหล่อออร่าเหมือนอปป้ากงยู บวกกับพี่ก้องสหรัฐ พี่ติ๊ก เจษฎา โอ้ยอกเด็กใจแตกจะพัง
"¥มีอะไรรึป่าวครับ"
เสียงที่ดังแทรกขึ้นมาดับแสงมโนกาลของฉันจนดับสนิท ไม่หันไปมองก็รู้ว่าใคร เสียงโทนเดียวฟังห้วนๆ แบบนี้อีพี่เฉินอีกละ ลำไย!!!
"¥ไม่มีอะไรครับ"
หนุ่มหล่อมีอายุตอบอย่างรวดเร็วนี่ก็ฟังไม่ทันว่าพูดอะไรอีก
"¥นี่ใช่เด็กๆ ที่มาดูงานกับอาจารย์จางหรือป่าวครับ"
"¥ใช่ครับ ผมเป็นหลานของอาจารย์จาง รับหน้าที่ดูแลน้องๆ ครับ...."
แล้วทั้งคู่ก็พากันเดินพูดคุยอย่างถูกคอประหนึ่งว่าจะได้เสียกัน (ความคิดนะความคิด) ทั้งคู่พาพวกเรามานั่งในห้องที่เป็นเหมือนห้องประชุมดูจากโต๊ะเก้าอี้และโปรเจ็กเตอร์แล้วอะนะ ชอบตรงขนมกับน้ำชาที่เค้าเตรียมไว้ให้นี่แหละคือดีย์ ดีมากอร่อยแบบอร่อยมากกก
การบรรยายเริ่มขึ้นได้อย่างสนุกดีฟังเข้าใจง่าย คนบรรยายเป็นพี่คนไทยที่มาเรียนอยู่ที่นี่ หูฟังพี่เค้าแต่ตามองอาจารย์สุดหล่อที่เดินชนกันเมื่อสักพักเนี่ย คือหล่อแบบหล่อมาก หล่อจริงจัง หล่อเหลือเกิน ยิ่งมองยิ่งเพลิน
"มึงว่าอาจารย์หล่อๆ คนนั้นเค้าเหมือนใคร"
ฉันหันไปกระซิบถามอีป่าน
"ไม่รู้ว่ะ รู้แต่ว่าเขาหล่อและควรเป็นพ่อของลูกกู"
"เกินไปแล้วค่ะ"
"กูให้เป็นเดอะเบสท์ออฟไถวายเลยจ้า"
อีป่านท่าจะหนักเพ้อเหลือเกิน
"อีพี่เฉินมึงล่ะ เมื่อวานมึงยังบอกเค้าอีสเดอะเบสท์ของไต้หวันอยู่เลย (เป็นที่สุดของไต้หวัน) "
"นิ่งไปหน่อยโดนหักคะแนนมาให้ท่านอธิการ ยิ้มละลายใจฟาดงวงฟาดงาเหลือเกิน"
จังหวะที่ยกกล้องขึ้นมาจะแอบถ่ายท่านอธิการ บังเอิญไปป้ะเข้ากับสายตาของอีพี่เฉิน โว้ยมันเหมือนทำน่านิ่งแต่ตาดุดุ มันเหมือนมีความน่ากลัวซ่อนอยู่ใต้ใบหน้าเบื่อโลก ไม่ถ่ายก็ไม่ถ่ายวะ
เออ!! อีกข้อหนึ่งฉันกับอีป่านมีแคมเปนร่วมกันว่ามาที่นี่ 3 เดือนจะแข่งกันถ่ายรูปผู้ชายหล่อแล้วคัดให้เหลือ 3 คนแบ่งเป็นของฉัน 3 อีป่าน 3 แล้วเอาไปให้เพื่อนในห้องโหวตใครชนะคนแพ้ต้องเลี้ยงหมูกระทะคนชนะ 1 อาทิตย์!!!
การบรรยายสิ้นสุดลงก็มีเกมเล็กๆ น้องๆ ให้เล่นพอได้ใกล้ชิ้นท่านอธิการในระยะหายใจรดต้นคอ จากนั้นเราก็ย้ายตัวเองออกจากมหาลัยกลับมาที่บ้าน
และแล้วการย้ายบ้านก็มาถึงทุกคนต่างเก็บข้าวของใส่กระเป๋าเตรียมย้ายออกไปอยู่บ้านนักศึกษา ของฉันไม่เยอะเก็บแปบเดียวก็เสร็จแล้ว
"¥เสร็จหรือยัง"
"แหกกกก!!! "
มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงตกใจนะโว้ย!!!
"¥อะไรนะ"
ฉันทวนอีกรอบ
"¥เตรียม ตัว เสร็จ รึ ยัง"
นางพูดอีกรอบพร้อมย้ำทีละประโยค
"¥เสร็จแล้ว"
"¥เสร็จแล้วก็ขึ้นรถ ฉันมีธุระต้องไปต่อ"
พูดไรวะ แปลแปบนะ เสร็จขึ้นรถ ธุระต้องไป อืม....
"อ๋อเสร็จแล้วขึ้นรถ มีธุระต้องไป"
"¥อะไร"
"¥ป่าว แค่ทวนที่พี่พูดเมื่อกี้"
"¥เข้าใจแล้วก็ขึ้นรถ"
ฉันขึ้นรถมาแบบโล่งๆ ลืมกระเป๋าค่ะ เอ้าเห้ย!! เปิดไงอะ เปิดโว้ยยย ฉันพยายามจะเปิดประตูรถลงไปเอากระเป๋าแต่หึ้ยยย เปิดไงก็เปิดไม่ออก
ห้ะ เห้ยๆ ๆ ๆ ๆ จังหวะที่เงยหน้ามองออกไปนอกรถเห็นอีพี่เฉินทำท่าจะเปิด กระเป๋าใบเล็กที่อัดแน่นไปด้วย กกน. ของฉัน อย่านะเว้ย
"¥อย่าาาาาา!!! "
ผ่างงง!!! ทันทีที่ซิบรูดออก เหล่ากางเกงในสีสดหลากลายก็ดีดตัวออกมานอนแผหราโชว์อยู่บนกระเป๋าบ้าง บนพื้นบ้างขยี้ความอัปยศของเจ้าของอย่างไม่มีชิ้นดี
"¥นี่มันบ้าอะไรเนี่ย"
ฉันไม่รู้ว่านางพูดอะไรแต่เห็นปากพึมพัม ทำหน้าทำตาโมโหหน่อยๆ ด่ากูแน่เลย
"¥ลงมาเก็บแล้วยกขึ้นรถเดี๋ยวนี้เลยนะ"
นางตรงเข้ามาเปิดประตูรถแล้วชี้ไปที่จุดเกิดเหตุ จะลงตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดกระเป๋าแล้วค่า ใครสั่งใครสอนให้เปิดกระเป๋าคนอื่นสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้ล่ะ
พอฉันเคลียร์เหล่ากางเกงในเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็ได้ฤกษ์ได้ยามขับรถออกมาสักที
"¥รัดเข็มขัดด้วย"
"ห้ะ?! "
ทำไมชอบพูดเร็ววะ มันฟังไม่ทัน
"¥เอ่อ...พูดช้าๆ หน่อยค่ะ"
"¥รัดเข็มขัดด้วย"
อ๋อ ฉันเอี้ยวตัวไปคว้าเข็มขัดนิรภัยแต่หึ้ย!! มันตะ...ติด อื้ออออ ฮึบบ!!
ฉันพยายามจะดึงเข็มขัดมาคาดให้ได้ แต่มันดึงยังไงก็ดึงไม่ออก โว้ยประตูก็ทีนึงแล้วนะ รถไต้หวันนี่ใช้ยากใช้เย็น
"¥ถึงแล้วเหรอคะ"
ขี่มาได้แปบนึงรถก็จอด อีนี่ยังไม่ทันได้รัดเข็มขัดเลย แต่ก็ดีดึงไม่ออกพอดี อีกแย่างใกล้แค่นี้จะรัดทำไม
เอ้า เห้ยๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
อยู่ๆ อีพี่เฉินก็ขยับตัวเข้ามาพร้อมกับเอื้อมแขนมาโอบตัวฉันจากด้านหน้า คงไม่ได้นึกพิศวาสฉันขึ้นมาหรอกนะ
"¥ ทะ... ทำอะไรน่ะ!! "
"¥รัดเข็มขัดไง เห็นแล้วมันอึดอัดลูกตา รถจะพังเอาเปล่าๆ ด้วย"
อะไรวะฟังไม่มันแต่ฟังน้ำเสียงแล้วบ่นกูแน่ๆ แต่พอนางเอื้อมไปดึงเข็มขัดมารัดตัวฉัน ฉันก็พอเดาได้ว่าอ๋อ คิดไปเอง เร้าแค่จะรัดเข็มขัดให้ สวยมากมั้งอิอัญอิผี พอจัดการรัดเข็มขัดเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางกันต่อจ้า เห้อ...กูจะคุยกับใครรู้เรื่องมั้ยว้า.....