ภาวันหน้ามืดจนเห็นว่าอาชว์เดินออกจากห้องดาวเรือง ทั้งที่อาชว์เดินออกจากห้องของเฟื่องฟ้าซึ่งอยู่ใกล้กว่า เพราะบ้านหลังเล็กตั้งอยู่ระดับเดียวกันเมื่อเดินออกมาจากบ้านแล้วมองจากประตูบ้านหลังแรกซึ่งอยู่ห่างมาเล็กน้อยเมื่อไม่ได้สังเกตจึงไม่ระบุได้ว่าเดินออกจากบ้านหลังใดกันแน่ ดังนั้นเหตุการณ์ต่างๆ รวมทั้งการอ่านแชตของดาวเรืองทำให้ภาวันปะติดปะต่อเรื่องราวได้ ภาวันจึงตัดสินใจด้วยสิ่งที่ประมวลผลจากสมองที่เต็มไปด้วยแรงหึงว่าอาชว์ต้องเดินออกมาจากห้องของดาวเรืองทีหลังเจ้าของห้อง
“ไอ้พวกชอบลักลอบกินของคนอื่น วันนี้มึงตายแน่” ไฟโกรธาทำให้ภาวันเลิกสนใจดาวเรือง แต่หันไปสนใจคนที่เขาคิดว่าเป็นมารแห่งความรักของเขาแทน
“จะไปไหนกันพี่ภาวัน มานี่ก่อนมาคุยกัน นั่นเอาปืนมาทำไม” เมื่อเห็นว่าภาวันมองตามใครและถลาเข้าไปหาใครดาวเรืองเดินตามภาวันไปหาอาชว์อย่างว่องไวพอกัน
คนที่เดินอารมณ์ดี ใบหน้ามีรอยยิ้มน้อยๆ ออกมาจากบ้านหลังเล็กของสาวในยามเช้าตรู่หยุดชะงักเมื่อเห็นคนสองคนตรงหน้า
ระหว่างคิ้วของหนุ่มเจ้าเสน่ห์ย่นเข้า ก่อนดวงตาของเขาจะเบิกกว้างเมื่อเห็นหน้าดาวเรือง เขาสนใจหน้าเธอมากกว่าปืนในมือของภาวันด้วยซ้ำ
ดาวเรืองอยู่ที่นี่ แล้วคนที่เขาเพิ่งผละออกมาล่ะเป็นใคร ตกลงเมื่อคืนเขานอนกับใครกันล่ะวะเนี่ย
“มึงนัดแนะกับดาวเรืองกันเมื่อคืนแล้วมีอะไรกันใช่ไหม มึงไม่รู้หรือไงว่าดาวเรืองกำลังจะแต่งงานกับกู มึงอยากตายใช่ไหม” ภาวันจ่อปืนใส่คนที่ยืนย่นคิ้วอยู่ตรงหน้า สาวสวยผู้เข้าใจความใจร้อนของภาวันเป็นอย่างดีรีบไปยืนขวางหน้าอาชว์ทันใด และนั่นทำให้ภาวันยิ่งโกรธมากขึ้นกว่าเก่า
“ดาวเรือง ถอยไป พี่จะคุยกับมัน”
“ไปคุยกับเขาทำไม คุยกับดาวเรืองนี่ก่อนพี่กำลังเข้าใจผิดนะ มันไม่ได้มีอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นอย่างที่พี่เข้าใจ ดาวเรืองอธิบายได้” ดาวเรืองพยายามอธิบายไปสลับกับกรี๊ดไปเพราะปืนในมือภาวันกวัดแกว่งจนกลัวว่าจะยิงตนหรือไม่ก็ยิงอาชว์ตายไปเสียก่อน
เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมทำไมอาชว์ถึงมาอยู่แถวนี้ แต่ที่รู้ตอนนี้คือเธอจะต้องปกป้องเขาไม่ให้ตายเพราะน้ำมือของคู่หมั้น แม้ว่าเขาจะบอกให้เธอถอยออกจากเขาไปก่อนเพราะเขาจะคุยกับภาวันเอง เธอก็ไม่ยอมถอยไปไหนทั้งนั้น
“นั่นเกิดอะไรขึ้นกันน่ะ พ่อภาวัน แล้วทำไมถึงถือปืนผาหน้าไม้จ่อกันอย่างนั้น” เสียงของเข้มดังขึ้นทุกคนหันไปมองเห็นเขากับภรรยายืนทำหน้าตกอกตกใจอยู่ แต่กระนั้นปืนในมือภาวันก็ยังไม่วางลง แม้ว่าใครจะพยายามเจรจาอะไรสักเท่าใดก็ตาม ภาวันไม่ได้ใจเย็นลง รวมทั้งดาวเรืองก็ไม่ได้หนีจากการป้องกันอาชว์แม้ว่าเขาจะขอให้เธอหลบออกจากวิถีกระสุนก็ตามที
เสียงเอะอะมะเทิ่งนอกห้องนอนทำให้เฟื่องฟ้าที่อยู่ในห้วงนิทรารู้สึกตัวและปิดตาลงอีกครั้งเพราะยังต้องการพักผ่อนต่อ เธอดึงผ้าห่มหนามาปิดหูแล้วเสียงก็ยังดังเข้าโสตประสาทอยู่ เสียงครวญครางดังขึ้นจากลำคอเธอเมื่อเธอค้นพบว่าการขยับตัวแต่ละครั้งนั้นทิ้งความเจ็บปวดไว้ให้ โดยเฉพาะช่วงกลางลำตัว
เธอมีแผลตรงไหนหรือเปล่านะ เอ แต่จะมีได้อย่างไรกันล่ะ ในเมื่อเธอนอนหลับฝันอยู่ แม้จะฝันร้ายว่าโดนข่มขืนก็ตามที เฟื่องฟ้าคิดสะระตะแข่งกับความง่วงของตนเอง แล้วเธอก็เบิกตาโพลงเหมือนโดนกระชากวิญญาณออกจากห้วงนิทราเมื่อนึกได้ว่าเมื่อคืนเธอฝันว่าโดนข่มขืน และตื่นเช้ามาแล้วรู้สึกเจ็บที่ตรงนั้น ตรงกลางของร่างกาย
“หรือว่าจะไม่ใช่ฝัน” เสียงหวานพึมพำแล้วลุกขึ้นนั่ง ไม่สนเสียงเอะอะข้างนอกเพราะเธอเบิกตากว้างกับสภาพเปล่าเปลือยมีเสื้อผ้าปิดคลุมแค่ไม่กี่ชิ้นของตน เสื้อผ้าของเธอโดนฉีกทึ้งจากร่าง การที่รู้จักร่างกายมนุษย์ได้ดีเพราะว่าวิชาชีพที่เรียนทำให้เธอใจหายวาบเมื่อรู้สึกได้ว่าสิ่งที่เกิดในฝันเมื่อคืน มันเกิดขึ้นจริงกับเธอ
หญิงสาวชาวาบไปทั้งตัว.. ยิ่งดวงตาปรายไปมองเห็นรอยเปื้อนเลือดหย่อมเล็กๆ บนเตียงแล้วยิ่งสะท้อนสะท้านใจ พรหมจารีของเธอมันพินาศไปเพราะเขาจริงๆ หรือไงกัน..
สายตากวาดมองไปเห็นกระเป๋าสตางค์หนังสัตว์แบรนด์เนมสีดำสนิทตกอยู่ข้างเตียง เฟื่องฟ้าพยายามขยับไปจับมันมาเปิดดู แน่ใจได้ว่ามันคือของผู้ร้ายที่ข่มขืนเธอไปเมือคืนแน่ๆ
เมื่อกระเป๋าถูกเปิดออก นามบัตรสีขาวกระดาษเนื้อดีก็ร่วงหล่นจากกระเป๋า สายตามัวๆ ของเฟื่องฟ้าเหลือบมอง มือสั่นระริกถึงกับชื้นเหงื่อเมื่อปรายตาไปมองชื่อบนนามบัตรนั้น
อาชว์ อาชวสกุล
รองประธานกรรมการและวิศวกรที่ปรึกษา บริษัทตรีภูวัน คอนสตรัคชัน
ชื่อและตำแหน่งบนนามบัตรทำให้เธอหนาววาบ มือขาวซีดเปิดกระเป๋าสตางค์ออกมาดูเพื่อความแน่ใจ แล้วเธอก็ต้องผงะกับสิ่งที่เห็น
ตรงช่องใส่รูปภาพมีภาพใบหน้าหล่อเหลาแต่เรียบนิ่งดุจน้ำแข็งดวงตาคมวับในรูปนั้นทำให้กระเป๋าสตางค์แทบหล่นจากมือของเธอ มันเป็นเขาจริงๆ ไม่ใช่แค่ฝัน เขาข่มขืนเธอจริงๆ
ริมฝีปากบางเม้มแน่น เสียงกรีดร้องจากนอกห้องนอนกระชากเธอให้ตื่นจากภวังค์ ข้างนอกเกิดเรื่องอะไรกันแน่ เฟื่องฟ้าตั้งสติ รีบสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วพยายามลืมความรู้สึกเจ็บปวดในส่วนที่ล้ำลึกของร่างกายวิ่งออกไปดูสถานการณ์ข้างนอกเพราะคลับคล้ายคลับคลาว่าเสียงกรีดร้องนั้นคือเสียงของดาวเรืองน้องสาวเธอ
เฟื่องฟ้าวิ่งออกมายังต้นเสียงที่เสียงร้องหายไปแต่เสียงคนพูดกันยังได้ยินชัดเจนอยู่จากต้นทางของการทุ่มเถียงนั้น เมื่อเธอโผล่หน้าเข้าไปทุกคนต่างก็หยุดชะงัก
“ฟ้า ทำไมโทรมเหมือนถูกหมาฟัดมาอย่างนั้น แต่ช่างเถอะ มาช่วยกันห้ามพี่ภาวันที”
นายเข้มกับนางมะลิอ้าปากค้างเมื่อเห็นลูกสาวมีสภาพสะบักสะบอมแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเพราะเจ้าตัวนั้นเป็นคนดูแลตัวเองเป็นอย่างดี แต่ก็นั่นล่ะ ไม่มีใครสนใจเฟื่องฟ้านักเพราะทุกคนมีเรื่องใหญ่กว่าให้สนใจ แล้วเฟื่องฟ้าก็สนใจเหมือนที่ทุกคนสนใจเช่นกัน
วัตถุที่มีกระสุนสำหรับปลิดชีพสีเงินวาวในมือของภาวันคู่หมั้นของดาวเรืองถูกลงชี้ตรงไปที่อาชว์ โดยมีดาวเรืองคอยยืนอยู่ไม่ห่างจากอาชว์เหมือนจะห้ามปรามแฟนหนุ่มไม่ให้ยิง