Chapter.3 หมั้นหมาย

991 Words
สโรชา เพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวของเธอแอบฟังเธอคุยโทรศัพท์กับแฟนหนุ่มรูปหล่ออยู่ข้างหลังได้ครู่หนึ่งแล้ว เธอใช้นิ้วจิ้มเอวคอดกิ่วของรดาจนเจ้าหล่อนสะดุ้งร้องเสียงหลง “รดา?” จากที่กำลังขมวดคิ้วขึ้นอย่างตึงเครียดด้วยความเป็นห่วง พอได้ยินเสียงคุยหยอกล้อกันคิกคักของสองสาวเขาจึงค่อยคลี่ยิ้มออก “ออ เปล่าค่ะไม่มีอะไร ยัยชาเล่นมาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงรดาเลยตกใจค่ะ” “แหม คุยกันหวานเชียวนะคะเห็นใจคนโสดบ้างค่ะอาจารย์ขา” สโรชายื่นหน้าเข้าใกล้มือถือและเอ่ยทักทายเขาด้วยความสนิทสนม รดาจึงช่วยอำนวยความสะดวกให้ด้วยการเปิดเสียงลำโพง ‘อรุณสวัสดิ์สโรชา’ “ว้า เมื่อไหร่ชาจะได้นั่งรถสปอร์ตของอาจารย์คะเนี่ย” ‘ทำเป็นพูดไป ช่วยกล่อมเพื่อนเธอให้พี่หน่อยสิกล่อมได้วันไหนก็วันนั้นแหละ’ “แหม ได้ถอยรถคันใหม่แล้วอย่ามีแฟนใหม่เชียวนะคะ เห็นลงภาพหล่อๆคู่กับรถแล้วสาวๆคอมเม้นต์กันเกรียวกราวเชียว” เธอเปรยออกมาซึ่งแน่นอนมันช่างตรงใจรดาเหลือเกิน แต่ติดที่เธอไม่กล้าพูดตรงๆแบบนั้น ‘เกี่ยวอะไรกัน? รถก็ส่วนรถ ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับเรื่องหัวใจเลย เนาะอรุณรดาที่รัก’ “ว้าย ช็อตนี้นังชาตายจ้า” รดายืนยิ้มเขินอาย ปล่อยให้การเจรจาเป็นหน้าที่ของเพื่อนรักไปก่อน เธอค่อนข้างเป็นคนหัวโบราณในสายตาเพื่อนๆเพราะไม่เล่นโซเชียลใดๆเลย ทั้งที่อดีตแทบจะใช้เป็นที่ระบายความในใจทุกอย่าง และลงภาพทุกช็อต “อ่ะนี่ มือถือเศษเหล็กแก” “วางแล้วหรือ?” “ใช่ วางแล้ว” “เห้อ ยัยรดาเมื่อไหร่แกจะเล่นโซเซียลเปิดเผยตัวตนในสื่อออนไลน์บ้างวะ” “เพื่ออะไร แค่มีไลน์แจ้งข่าวส่งงานในคลาสก็น่าจะโอเคแล้วนี่” “มันก็ต้องมีการแสดงความเป็นเจ้าของบ้างสิ ของสวยๆงามๆทำไมไม่ชอบโชว์ หน้าสวยๆ หุ่นเซ็กซี่ อกโตๆเนี่ย” เธอไม่พูดเปล่าแต่จิ้มนิ้วด้วยทำเอาอรุณรดารีบปัดป่ายพัลวัน “หัดถ่ายรูปลงบ้างแล้วก็อวดไปเลยว่าอาจารย์ภุชงค์เนี่ยแฟนแก ไม่ใช่ปล่อยให้ชะนีนักศึกษามโนไปเรื่อย” “ก็ลูกศิษย์เค้า เราไม่ควรไปยุ่งเรื่องแบบนั้นสิ” “โอ๊ยลูกศิษย์น่ะตัวดีเลย ไม่เคยได้ยินเหรอที่โบราณเค้าว่าสมภารกินไก่วัด” เมื่อรู้สึกว่าสโรชาเริ่มพล่ามไปเรื่อยเปื่อยร่างเพรียวบางสมส่วนเดินนำเข้าไปในตึกคณะบัญชี เหตุผลที่เธอเลือกเรียนสายนี้เพราะรู้สึกว่าตนเองยังอ่อนเรื่องตัวเลขซึ่งมันจำเป็นต่อการสืบทอดธุรกิจร้านอาหารจากน้าริน เพราะสามีของน้าเริ่มป่วยกระเสาะกระแสะสวนทางกับธุรกิจที่กำลังไปได้สวยและตอนนี้ขยับขยายไปได้ถึงสามสาขาแล้ว “ชิ ไม่ได้ดั่งใจเพื่อนเล้ย” สโรชาย่นจมูกอย่างไม่พอพึงใจในความใจเย็นของรดา แต่เมื่อเห็นเพื่อนเดินนำไปไกลเธอจึงรีบสับเท้าวิ่งตาม “นี่ รอด้วย! ...ลงฝึกงานที่ไหนไปด้วยดิ” “ไม่ไป!” เสียงห้าวปนแหบพร่าเนื่องจากถูกเรฟเข้ามาปลุกเขาถึงในห้อง มันทำให้เขาหงุดหงิดไม่น้อย “โธ่ ไปเถอะครับ นายใหญ่สั่งว่าต้องไป” “เฮอะ จะหาเมียให้กูล่ะสิ” เขาแทรกขึ้นอย่างรู้ทัน “ก็ ไปเชยชมของสวยๆงามๆไม่ดีหรอกหรือครับ” “นายก็รู้ว่าฉันเกลียดงานฉีกยิ้มใส่หน้ากากเข้าหากันมากแค่ไหน ฉันเหมาะกับเอกสาร ปืน และเตียงนอนมากกว่า เอาล่ะ เรฟนายออกไปซะฉันจะนอนต่อ” “เถอะครับ” บอดี้การ์ดหุ่นล่ำยังคงยืนยันที่จะไม่ไปไหน เจ้านายเขามักจะนอนซมอยู่บนเตียงแทบทั้งวันเลยก็ยังได้หากวันไหนไม่มีงานด่วน นั่นหมายความว่ามาร์ตินกำลังมีความเศร้าอยู่ภายในใจลึกๆ “เวลาพักคือพัก เวลางานก็ทำจนอดหลับอดนอน แกก็รู้” “เอาที่พอดีสิครับ บ้างานมากเกินไปเดี๋ยวจะไม่ได้เมียกับเค้าหรอก แถมยังมีคนแอบเม้าท์ว่าไม่ชอบผู้หญิงอีก” “หืม?” “เอ่อ อันนี้ผมไม่ได้พูดเองนะครับ นายใหญ่บ่นมาว่าอย่างนั้น” เขารีบออกตัว “ไร้สาระชะมัด ใครมันจะลากมากินโจ่งแจ้งล่ะ เห้อ” ร่างสูงใหญ่ยอมลุกจากเตียงในที่สุด “โอเค บอกมาตรงๆว่าต้องไปเจอใคร?” สองแขนล่ำเต็มไปด้วยรอยสักยกขึ้นเท้าสะเอวถามเรฟ “ก็ลูกสาวท่านอเล็กซานเดอร์ เชอวาโรฟ คนที่เจ้านายชี้นิ้วจิ้มเลือกสุ่มมั่วๆไปเมื่อเดือนก่อนไงล่ะครับ ขอบอกว่านายใหญ่ท่านดูจะพอใจในสายตาอันเฉียบแหลมของเจ้านายมากนะครับ” “เหรอ” เขาแค่นขำออกมา “ผมรู้ว่านายน่ะเดาสุ่มไปงั้นๆน่ะ” “ใครบอกล่ะ” เขาหันกลับมาอธิบายด้วยท่าทางที่ยกนิ้วชี้ขึ้นตั้งฉากกับนิ้วโป้ง หลับตาขวาหรี่ตาซ้ายขณะเพ่งมองสาวผมบลอนสั้นคนนั้นอยู่ไกลๆ “อุตส่าห์เพ่งมองอย่างตั้งใจเลยล่ะ” เขาใช้เพียงนิ้วชี้เป็นตัววัดความสูงของหล่อนคนนั้นที่.. ‘เทียบเท่าแสงรุ่งเลยแฮะ’ เขาพึมพำในใจ แล้วจึงเป็นอันตกลงกับตัวเองว่า “เอาคนนี้ก็ได้” เอาล่ะ คราวนี้จะเอาเมียตามใจท่านโลอาห์นก็ได้เอ้า “วันนี้แหละกูจะต้องได้คุยกันเรื่องหมั้นเอาให้สาแก่ใจท่านเคอริอาห์นเชียว” เขาขยิบหางตาหนึ่งทีก่อนเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ “หา? ไวไปมั้ยครับเนี่ย?”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD