“คุณพลอยขา ตื่นเถอะค่ะคุณพลอย คุณพายุมารออยู่ข้างล่างแล้วนะคะ” เสียงของจันทร์พี่เลี้ยงของพลอยใสดังขึ้นพร้อมกับเขย่าตัวคนที่ยังนอนอยู่ใต้ผ้าห่มให้ตื่น
“อื้อ ไม่เอา” พลอยใสปล่อยเสียงในลำคอเบา ๆ แล้วก็พลิกตัวกลับไปอีกฝั่งของเตียง
“ตื่นเดี๋ยวนี้ค่ะคุณหนู ลืมไปแล้วเหรอคะว่าวันนี้จะต้องไปลองชุดแต่งงาน” จันทร์ยังไม่ลดละ ดึงผ้าห่มที่คลุมร่างบางออก แล้วดันตัวพลอยใสให้ลุกขึ้นนั่งทั้งที่ยังหลับตาอยู่
“โอ้ย! น้าจันทร์ จะปลุกหนูทำไมนักหนา ใครอยากจะไปลองก็ให้ไปลองเองสิ หนูไม่ได้อยากไปสักหน่อย”
พลอยใสดีดตัวลุกขึ้นโวยวายด้วยความไม่พอใจ ใบหน้าสวยบูดบึ้งจนคิ้วขมวดเข้าหากัน
“ไม่เอา ไม่ดื้อนะคะคุณหนูเดี๋ยวโดนนายท่านดุอีก”
“หนูไม่ไป น้าจันทร์ลงไปบอกเฮียพายุข้างล่างด้วย ว่าหนูไม่ไป” พูดเสร็จพลอยใสก็ทิ้งตัวลงนอนอย่างเดิม ทำเอาพี่เลี้ยงได้แต่ถอนหายใจออกมายาว ๆ
“ตื่นเถอะค่ะ หรือว่าจะต้องให้เฮียปลุกเอง” เสียงทุ้มของใครบางคนดังมาจากทางประตู ทำให้พลอยใสต้องดีดตัวลุกขึ้นมาอีกครั้ง
“เฮียเข้ามาในห้องพลอยได้ยังไง ไม่มีมารยาท” ใบหน้าหันไปค้อนขวับให้กับพายุที่ยืนพิงประตูห้องนอนของเธออยู่
“แล้วที่น้องพลอยปล่อยให้เฮียต้องรอ แล้วตัวเองยังนอนไม่ยอมตื่นแบบนี้ เรียกว่ามีมารยาทแล้วเหรอคะ”
เขาตอบกลับเธอด้วยใบหน้าเรียบเฉย แล้วก็ก้มมองดูนาฬิกาข้อมือ
พลอยใสอ้าปากหวอใบหน้าตลกจนชวนขำ เมื่อได้ยินคำที่ชายหนุ่มตอบกลับมา
“ว่ายังไงคะ น้องพลอยจะยอมไปอาบน้ำแต่งตัวดี ๆ หรือจะนอนต่อแล้วให้เฮียปลุก แต่บอกไว้ก่อนนะว่าถ้าเลือกอย่างหลัง มันอาจจะต้องใช้เวลานานหน่อย”
ไม่รู้ที่เขาพูดนั้นอยากจะสื่อความหมายว่ายังไง แต่นัยน์ตาสีเทาที่มองผ่านแว่นทำเอาคนที่ยังอยู่บนเตียงใจเต้นตึกตัก พลอยใสไม่เคยเห็นพายุในมุมแบบนี้มาก่อน เมื่อก่อนเขาคือเฮียพายุที่แสนใจดีและอ่อนโยนเสมอ แต่ก็อย่างว่าแหละ เวลาเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยน
ในเมื่อไม่มีทางเลือก เธอเลยจำเป็นต้องลุกจากที่นอนเข้าไปในห้องอาบน้ำด้วยความไม่เต็มใจ พร้อม ๆ กับเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกของจันทร์
ชั่วโมงต่อมา พลอยใสลงมาจากชั้นสองของบ้าน ด้วยชุดเสื้อสายเดี่ยวลูกไม้สีขาวที่มีสปอร์ตบราสีเดียวกันอยู่ด้านใน จับคู่มากับกางเกงขายีนส์ขาสั้น และรองเท้าผ้าใบสบาย ๆ
พายุเงยหน้าจากหนังสือที่กำลังอ่านขึ้นมามองหญิงสาวที่ทำหน้าตาไม่ตอนรับแขกที่ยืนอยู่ด้านหน้า แล้วก็ก้มมองนาฬิกาข้อมือตัวเองอีกครั้ง
“เร็วกว่าที่คิด ถ้างั้นก็ไปกันเถอะค่ะ เดี๋ยวรถจะติด” เขาลุกขึ้นเดินนำหน้าเธอไปยังรถที่จอดอยู่
พลอยใสมองตามแผ่นหลังกว้าง สิบสี่ปีที่เธอไม่ได้เจอเขา พายุตัวโตขึ้นมาก เขาทั้งสูง ทั้งดูโดดเด่น รูปร่างก็ไม่มีที่ติ ทุกส่วนของใบหน้าก็รับกันอย่างลงตัว เธอขึ้นมานั่งข้างคนขับ แล้วก็แอบมองพายุเป็นระยะตลอดทางที่รถแล่น
“น้องพลอยมองเฮียทำไมคะ หรือว่ามีอะไรอยากจะถามหรือเปล่า” เมื่อเห็นว่าเขารู้ตัว พลอยใสจึงรีบเบือนสายตาไปทางอื่น
“ทำไมเฮียไม่ปฏิเสธเรื่องงานแต่งของเรา” เสียงหวานถามขึ้นด้วยความอยากรู้
“เพราะมันเป็นหน้าที่” พายุตอบเพียงแค่นั้นแล้วก็เงียบไป
พลอยใสเม้มปากเข้าหากันแน่น ความรู้สึกบางอย่างมันจุกขึ้นมาในอก เพราะหน้าที่ เขาทำทุกอย่างก็เพียงเพราะหน้าที่ เขาไม่ใช่เฮียพายุที่เธอเคยรู้จักเมื่อตอนยังเด็กอีกแล้ว
//////
ใช้เวลาชั่วโมงกว่า ๆ ก็มาถึงร้านเวดดิ้งครบวงจร พายุพาพลอยใสเดินเข้าไปข้างใน เจ้าของร้านที่นัดเอาไว้ล่วงหน้าก็รีบเข้ามาให้การต้อนรับทันที
“คุณพายุ มาแล้วเหรอคะ อุ้ย ว่าที่เจ้าสาวสวยจังเลยค่ะ มิน่าล่ะ คุณพายุถึงได้สั่งนักสั่งหนาว่าทุกอย่างต้องดีที่สุด” เจ้าของร้านพูดเสียงอ่อนเสียงหวานเอาใจ แล้วก็เดินไปจับตัวของพลอยใสหมุนไปหมุนมาเพื่อสำรวจ
“จะหมุนอีกนานไหมคะ เวียนหัวหมดแล้วเนี่ย” คนตัวเล็กบ่นให้ โดยที่ไม่แคร์ความรู้สึกอะไรทั้งนั้น
“ถ้าอย่างนั้นตามเจ้มาทางนี้เลยนะคะ เจ้เลือกชุดเจ้าสาวที่สวยที่สุดไว้ให้ลองแล้วค่ะ” เจ้เจ้าของร้านผายมือไปยังห้องหนึ่งเพื่อให้พลอยใสเดินตามไป
เข้ามาถึงข้างใน พลอยใสก็เอานิ้วเรียวยกขึ้นมาจับที่ปลายคางของตัวเอง มองพิจารณาชุดเจ้าสาวสีขาวที่แขวนอยู่ตรงหน้าเกือบสิบชุด พร้อมกำลังขบคิดอะไรบางอย่าง
“ชุดพวกนี้ไม่ถูกใจฉันสักชุด ฉันต้องการตัดชุดใหม่ ไม่ทราบว่าเจ้สามารถทำให้ทันวันงานหรือเปล่าคะ” เธอพูดขึ้นพร้อมกับหันไปถามคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
“ได้สิคะ จะตัดใหม่กี่ชุด เจ้ก็ทำให้ทันค่ะ” ถึงแม้ว่ามันจะยากเพราะมีเวลาแค่สองอาทิตย์ แต่ค่าตอบแทนที่สูงลิบขนาดที่สามารถปิดร้านไปท่องเที่ยวได้เป็นเดือนมันล่อตาล่อใจ ต่อให้ไม่ทัน ก็ต้องทัน
“ถ้าอย่างนั้น ขอกระดาษกับดินสอด้วยค่ะ ฉันจะออกแบบชุดให้เจ้ตัดให้ใหม่” เจ้เจ้าของร้านได้แต่พยักหน้ารับคำสั่ง แล้วรีบไปหยิบของที่พลอยใสต้องการให้ทันที
พายุนั่งมองว่าที่เจ้าสาวจรดดินสอลงบนกระดาษแล้วเริ่มออกแบบชุดแต่งงานอยู่เงียบ ๆ เขารู้ดีว่าอย่างพลอยใสไม่มีทางที่จะออกแบบชุดธรรมดาแน่
“เสร็จแล้วค่ะ เจ้ตัดตามแบบนี้เลยนะคะ ห้ามแก้แบบเด็ดขาด อ้อ แล้วก็หาเครื่องประดับตามที่วาดลงไปในนี้มาให้ครบนะคะ” พลอยใสพูดขึ้นพร้อมกับยื่นกระดาษที่มีรูปออกแบบชุดให้กับเจ้เจ้าของร้าน
“ตายแล้ว” เจ้ได้แต่เอามือทาบอก หันไปมองหน้าพายุแล้วก็โชว์รูปชุดที่พลอยใสออกแบบให้ดู
ชุดเกาะอกสีดำล้วน กระโปรงระบายเป็นชั้น มีผ้าลูกไม้สีดำแซมอยู่ระหว่างชั้นกระโปรง ความยาวลากพื้น เข้าคู่มากับถุงน่องสีดำ และถุงมือแบบเดียวกัน ผ้าคลุมผมก็เป็นลูกไม้สีดำล้วนประดับด้วยมุกเพื่อความสวยงาม
“สั่งตัดตามที่เธอต้องการเลยครับ”
พายุพูดพร้อมกับพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้เจ้เจ้าของร้านทำตามสิ่งที่พลอยใสต้องการ
“จะดีเหรอคะคุณพายุ”
“ดีครับ เจ้ทำตามแบบนี้ได้เลยครับ”
เมื่อได้รับการยืนยันเป็นครั้งที่สอง เจ้เจ้าของร้านก็ถือกระดาษแผ่นนั้นเดินหายเข้าไปข้างใน
“ระหว่างที่ยังไม่ได้เข้าพิธีแต่งงาน น้องพลอยอยากจะทำอะไรก็ทำให้เต็มที่เลยนะคะ เพราะหลังจากที่เราแต่งงานกันเรียบร้อยแล้ว น้องพลอยจะต้องอยู่ในกฎของเฮียเท่านั้น”
พายุเดินไปกระซิบลงข้างหูของคนตัวเล็ก ที่กำลังยิ้มหน้าบานดูจะภูมิใจกับแบบชุดแต่งงานที่ตัวเองวาด ทำให้รอยยิ้มนั้นหุบลงทันที
“ไม่มีทาง พลอยจะไม่ยอมอยู่ภายใต้กฎของใครเด็ดขาด เฮียไม่มีทางบังคับพลอยได้หรอก”
“ถ้าอย่างนั้นก็ลองดูได้นะคะ ว่าพลอยจะดื้อกับเฮียได้หรือเปล่า”
/////////////////////
เฮียก็ขยันขู่น้อง