ตอนที่ 2
“คุณท่านหลับแล้วเหรอครับคุณเพลง” โป่งนั่งอยู่เก้าอี้ที่สนามหญ้า ที่มีหญ้าขึ้นเต็มโดยไม่มีใครได้ดูแล
“ค่ะ ลุงโป่งคิดอะไรอยู่คะ” ระพีพรรณถามขณะนั่งลงกับเก้าอี้อีกตัวที่อยู่ตรงข้ามโป่ง
“คุณเพลงครับ ลุงมีอะไรจะบอกครับ แต่คุณเพลงต้องสัญญากับลุงก่อนนะครับ ว่าจะเก็บเรื่องนี้เอาไว้ ไม่บอกให้คุณท่านรู้” โป่งมีสีหน้าที่เคร่งขรึม
“ลุงมีอะไรคะ” “เรื่องเจ้าหนี้ครับคุณเพลง ลุงรู้ว่าเขาเป็นใคร ทำไมเขาถึงชื่อเจนจบ และกลายมาเป็นชื่อดนุพรครับ” โป่งตัดสินใจเปิดปาก
“ใครคะ! แล้วเพลงรู้จักไหมคะ แล้วทำไมเขามีสองชื่อคะ” “คุณเพลงพอจะจำแม่ลูกที่พักอยู่ห้องแถวคนงานก่อสร้างที่ไซด์งานได้ไหมครับ ที่คุณเพลงเคยแอบเอาข้าวของที่บ้านไปให้เขาตอนคุณเพลงเล็กๆ น่ะครับ”
“พอจำได้ค่ะ ที่แกมีลูกชายหนึ่งหญิงหนึ่งใช่ไหมคะ”
เพราะจำได้คลับคล้ายคลับคลา ว่าเมื่อสมัยเด็กๆ เคยเอาขนมกับอาหารกระป๋องซุกใส่กระเป๋าเอาไปให้คนงาน เวลาที่ตามพ่อไปเล่นตามไซด์งาน และก็พอนึกหน้าผู้ชายที่หน้าตาเศร้าคนหนึ่ง ที่ชอบแอบไปร้องไห้เพราะสงสารแม่ ไม่มีเงินซื้อข้าวสาร จนเธอต้องคอยยื่นเงินค่าขนมให้ และก็แอบเอาข้าวสารจากบ้านซุกใส่กระโปรงรถมาให้ โดยมีโป่งกับแพงแม่บ้านเป็นคนรู้เห็น
“นั่นล่ะครับคุณเพลง แต่จริงๆ แล้ว ผู้หญิงคนนั้น ชื่อลัดดา แกมีลูกชายอีกคนครับ แต่ไม่ค่อยได้มาที่ไซด์งานเท่าไหร่ เพราะมัวแต่เรียนหนังสือ”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกันคะ”
“ก็นายดำ หรือนายดนุพร นี่ล่ะครับเป็นลูกคนกลางของผู้หญิงคนนั้นครับ”
“เหรอคะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเพลงคะ”
“เกี่ยวโดยตรงครับคุณเพลง คือเมื่อก่อนครอบครัวนี้ไม่ได้ยากจนอย่างที่คุณเพลงเห็นในตอนนั้นหรอกครับ จัดว่าร่ำรวยด้วยซ้ำ แต่ก็โชคร้ายที่สามีแก คือคุณณรงค์เดช เกิดป่วยเป็นโรคมะเร็ง แล้วก็ปิดลูกเมียเอาไว้ ไม่อยากให้เป็นห่วง รักษาหมดเงินไปเกือบจะหมดบ้าน แล้วก็เอาหุ้นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง กับบ้านมาจำนองไว้กับคุณท่านครับ แต่ไม่นานคุณณรงค์เดชก็เสีย คุณท่านก็เลยเข้าไปยึดเอาสมบัติทั้งหมดที่จำนองเอาไว้
ตั้งแต่หลุดจำนองไปแค่อาทิตย์เดียว คุณลัดดาแกขอร้องคุณท่านยังไงๆ คุณท่านก็ไม่ยอม จะยึดท่าเดียว และก็ให้ออกจากบ้านภายในสามวัน แต่คุณท่านก็ยังสงสารอยู่ เลยให้พาลูกๆ มาพักอยู่กับคนงานที่ไซด์งานครับ แล้วให้ลูกชายคนโตที่ชื่อ ‘เด่น หรือ เด่นณรงค์’ ที่เรียนจบแค่ ม.ปลายไปทำงานก่อสร้างด้วย แต่พออยู่ไปสักพักคุณท่านเห็นว่ามีความรู้ก็เลยให้มาช่วยงานบัญชีกับคุณท่านครับ
ส่วนแม่กับน้องก็ต้องย้ายโรงเรียนมาเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน แล้วคุณลัดดาก็ทำกับข้าวขายให้คนงานบ้าง หรือรับจ้างซักผ้ารีดผ้าบ้าง ทำความสะอาดบ้าง แล้วแต่จะมีคนจ้าง บางครั้งก็ต้องทำงานก่อสร้างด้วยครับ ลูกคนกลางกำลังเรียนก็ต้องไปอาศัยเพื่อนๆ อยู่ เพื่อเรียนให้จบ ถึงไม่ค่อยได้มาบ่อยไงครับ คุณเพลงเลยไม่ค่อยได้เห็น แต่ถึงเห็นก็คงจะจำกันไม่ได้หรอกครับ”
“ทำไมคุณพ่อทำอย่างนั้นคะ” เพราะความไม่รู้จักอีกมุมของพ่อ
“คุณเพลงไม่รู้อะไร เมื่อก่อนคุณท่านรีบสร้างเนื้อสร้างตัว พอมีลู่ทางอะไรก็รีบคว้าเอาไว้หมดครับ จะได้มายังไงไม่ค่อยจะสนใจหรอกครับ เอ่อ! คุณเพลงอย่าโกรธลุงนะครับ ที่ลุงพูดตรงๆ” โป่งอดที่จะห่วงความรู้สึกเจ้านายสาวไม่ได้
“ไม่เป็นอะไรค่ะลุงโป่ง เพลงพอจะเข้าใจค่ะ” เพราะก็พอรู้จักพ่อตัวเองบ้าง ที่อดห่วงเรื่องฐานะการเงินของครอบครัวไม่ได้ จนต้องทำแทบทุกวิธีเพื่อไม่ให้ลูกลำบาก
“ตอนนั้นคุณเพลงน่าจะอายุได้แค่สิบขวบหรือสิบเอ็ดนี่ล่ะครับ พอเรียนจบ ป.หกท่านก็ส่งไปเมืองนอกเลย! แต่เหตุผลที่ส่งไปก็คือว่า คุณท่านไม่อยากให้เห็นคุณพีที่ช่วงนั้นเกเร ไม่ยอมเรียนหนังสือครับ คบเพื่อนไม่ดี ติดยาด้วย พอคุณเพลงไปเมืองนอกได้ไม่นาน คุณพีกับเพื่อนๆ ก็ถูกตำรวจจับข้อหาฆ่าคนตาย
คุณท่านก็วิ่งเต้นเส้นสายข้างในหมดเงินไปเยอะเหมือนกัน แต่ก็แทบจะช่วยไม่ได้เพราะหลักฐานแน่นหนามาก แต่จู่ๆ พ่อเด่นก็มาหาผมในคืนหนึ่งบอกว่าอยากให้ผมพาไปพบคุณท่านหน่อย ผมก็ไม่รู้เรื่องอะไร พ่อเด่นบอกว่าเรื่องสำคัญจะต้องคุยกับคุณท่านให้ได้ แล้วบอกว่าเป็นเรื่องคุณพี ลุงก็เลยพาไป
พอไปแล้วพ่อเด่นก็บอกกับคุณท่านว่าจะขอรับโทษแทนคุณพี แต่มีข้อแม้ว่าคุณท่านจะต้องคืนสมบัติที่ยึดมาให้แม่กับน้องเป็นเครื่องตอบแทน ด้วยความดีใจคุณท่านก็เลยรีบรับปากทันที แล้วก็ให้ลุงเป็นพยานให้คุณท่าน ส่วนพ่อเด่นก็ให้น้องชายที่อายุแค่สิบเจ็ดสิบแปดมาเป็นพยานให้พี่” โป่งหยุดเล่าไว้ชั่วครู่
“แล้วเขาก็ยอมให้พี่เขาทำอย่างนั้นเหรอคะ”
“แกไม่อยากให้ทำหรอกครับ แต่พ่อเด่นอยากจะให้น้องสบาย และคิดว่าติดคุกไม่กี่ปี เพื่อแลกให้ทุกคนสบายเขาก็ยอม แต่เหตุการณ์มันกลับไม่เป็นไปตามที่พ่อเด่นหวังเอาไว้สิครับ พอพ่อเด่นติดคุกแทนคุณพีแล้ว พ่อดำหรือคุณดำทุกวันนี้กลับมาทวงสัญญาที่คุณท่านให้ไว้กับพี่ชาย แต่คุณท่านกลับไม่ยอมคืนสมบัติให้
เพราะช่วงนั้นกิจการกำลังแย่ ถ้าไม่ได้งานรับเหมาที่ยึดมาก็แทบจะเอาตัวไม่รอด โรงงานก็ไปได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คุณท่านก็เลยกลับคำไม่ยอมคืนเอาดื้อๆ ท่านบอกว่าไม่มีหลักฐานอะไร ทำอะไรแกไม่ได้ คุณลัดดาพอรู้เรื่องจากพ่อดำ ก็มาพบคุณท่านอีก แต่ก็ได้รับคำตอบเดิม คุณลัดดาโกรธมาก สาบแช่งคุณท่านไว้แทบจะไม่มีชิ้นดี พ่อดำเองก็โกรธๆ มากกว่าคุณลัดดาอีก เพราะแกเป็นคนยอมตกลงกับพ่อเด่นให้ทำเรื่องนี้