นี่สมพงศ์คนขับรถคุณดำ นี่สมพรเป็นคนสวนและทำหน้าที่ขับรถไปทำธุระให้คุณท่านและพาฉันไปทำโน่นนี่แล้วแต่จะสั่งงาน สมพรเป็นน้องชายสมพงศ์ เป็นแฟนของรำพึง ทุกคนอยู่ที่นี่มานานแล้ว!อ้าว! แล้วแม่ครัวหายไปไหนแล้วล่ะนี่ ฉันอุตส่าห์สั่งเอาไว้ว่าไม่ให้ไปไหน ทำไมไม่ฟังฉันบ้างเลยนะ เดี๋ยวจะให้คุณดำไล่ออกให้เข็ดเลย”
นิตยาทำเสียงเกรี้ยวกราด และมันก็เป็นอาการที่ทุกคนชินตามานานแล้ว กับแม่บ้านสาวโสดที่อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ คนนี้
“มาแล้วค่ะ” แม่บ้านที่ถูกกล่าวหารีบส่งเสียงบอก เพราะมาทันได้ยินเสียงนิตยาบ่นถึงตัวเองพอดี
“แม่แพงไปไหนมา ฉันบอกให้รอฉันก่อนอย่าไปไหน ไม่คิดจะเชื่อฟังกันบ้างเลยรึไงนะ ทำไมจะต้องให้คอยบอกซ้ำซากเหมือนเด็กๆ อยู่เรื่อยเลย” นิตยาขึ้นเสียงใส่หญิงวัยกลางคน ที่มีร่างค่อนข้างท้วม ผิวขาวและเตี้ย แต่แววตาดูเป็นคนมีเมตตา
“คุณท่านเรียกอีฉันไปพบค่ะ” แพงรีบบอกด้วยความขุ่นเคืองใจ กับคำบริภาษของคุณแม่บ้าน
“เหรอ เอ่อ! นี่เธอ แม่ครัวที่นี่ชื่อแพง คนที่นี่จะเรียกว่าป้าแพง เธอจะเรียกตามก็ได้นะ เธอเองก็ต้องมาช่วยแม่แพงเตรียมอาหารด้วย ทุกคนนี่แม่คนนี้ เอ่อ! แล้วเธอชื่ออะไรล่ะ” นิตยาจำได้ว่ายังไม่รู้จักชื่อผู้ที่จะมาอยู่ร่วมเลย
“ชื่อระพีพรรณค่ะ ทุกคนจะเรียกฉันว่าเพลงก็ได้ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ”
“เอาล่ะแม่เพลงนี่จะมาช่วยงานทุกคน ตามแต่ฉันจะสั่งให้ทำอะไร รู้จักกันหมดแล้วก็แยกย้ายกันไปทำงานได้แล้ว ฉันจะไปหาคุณป้าก่อน ส่วนเธอก็ช่วยแม่แพงเตรียมอาหารเย็นก็แล้วกัน เอาไว้วันหลังฉันจะบอกว่าจะต้องมีหน้าที่ทำอะไรบ้าง”
นิตยาบอกแล้วก็ผละจากไป โดยไม่ได้สนใจกับใครทั้งสิ้น เพราะนี่ก็คือบุคลิกของนิตยา ที่ไม่ใคร่จะสนใจใครเท่าใดนัก นอกจากวันๆ เอาแต่สั่งโน่นสั่งนี่และวางอำนาจแม่บ้านไปวันๆ และถือว่าตัวเองก็เป็นญาติของเจ้าของบ้านนั่นเอง จนทุกคนในบ้านก็แทบจะไม่อยากจะทำตัวเป็นอริด้วยสักเท่าไหร่
เพราะไม่เช่นนั้นก็จะเดือดร้อน จนถึงขั้นต้องออกจากงานด้วยซ้ำไป อย่างเช่นแม่ครัวคนก่อน ที่ทำตัวมีปัญหากับนิตยา จนต้องออกจากงาน และก็ได้รับแพงเข้ามาทำแทน
“คุณเพลงๆ จริงๆ ด้วยค่ะ ป้าแพงไงคะ จำป้าได้ไหมคะ”
แพงแม่ครัวรีบทักเธอ ทันทีที่นิตยาพ้นจากครัวไป พร้อมๆ กับทุกคนที่ก็ต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง
“จำได้ค่ะป้าแพง ทำไมเพลงจะจำคนที่ทำกับข้าวให้เพลงกินมาตั้งแต่เกิดไม่ได้คะ ป้าแพงสบายดีไหมคะ” เธอรีบตอบทันที
“ก็งั้นๆ ล่ะค่ะคุณเพลง ชีวิตลูกจ้างนี่คะ แต่ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ป้าชินแล้ว เกิดอะไรขึ้นคะคุณเพลง ทำไมคุณเพลงถึงต้องมาทำงานที่นี่ แล้วคุณท่านเป็นยังไงบ้างคะ”แพงถามด้วยความสงสัย เพราะไม่นึกว่าจะได้เจอลูกเจ้านายอยู่ที่นี่ และในสภาพที่ไม่ได้คาดคิดไว้แบบนี้
“เรื่องมันยาวค่ะ เอาไว้เพลงจะเล่าให้ป้าแพงฟังทีหลังนะคะ แต่ตอนนี้เพลงว่าป้าแพงทำกับข้าวก่อนดีกว่าค่ะ มีอะไรที่เพลงพอจะช่วยได้บ้างคะ แต่ป้าแพงต้องสอนเพลงนะคะ เพราะเพลงไม่เคยทำเลย”
เธอรีบบอกเพราะไม่อยากให้ใครเข้ามาได้ยินบทสนทนาของเธอและแพงเข้า เพราะแพงเองอาจจะเดือดร้อนก็เป็นได้
“โธ่!คุณเพลง งานพวกนี้คุณเพลงเคยทำที่ไหนกันคะ ดูสิคะมือไม้ขาวๆ บางๆ นุ่มๆ เคยจับแต่ดินสอปากกา แล้วจะทำงานพวกนี้ไหวเหรอคะ” แพงไม่วายจะแย้ง
“เพลงทำได้ค่ะ แต่ป้าแพงต้องสอนเพลงนะคะ ต่อไปเพลงจะได้ทำกับข้าวกินเองเป็นไงคะ ป้าแพงรู้ไหมคะ ว่าเพลงดีใจมากๆ ค่ะ ที่เพลงเจอกับป้าวันนี้” เธออดที่จะดีใจไม่ได้
“ป้าก็ดีใจค่ะ เอาไว้คืนนี้เราค่อยคุยกันนะคะ ! งั้นคุณเพลงช่วยป้าหั่นผักพวกนี้ก็แล้วกันค่ะ วันนี้ป้าจะทำแกงเขียวหวานไก่ ยำยอดมะพร้าว ผัดผักรวมกุ้งสด แล้วก็ทอดมันปูค่ะ นี่มะเขือหั่นสี่ซีกแบบนี้นะคะ เหมือนที่ป้าเคยทำให้คุณเพลงกินตอนเด็กๆ ไงคะ” แพงบอกเธอและก็ทำให้เป็นตัวอย่างเอาไว้
“เพลงจำได้ค่ะ” ร่างสูงเดินตรงไปยังตะแกรงผักที่แพงเพิ่งจะวางไว้ แล้วก็จัดแจงทำตามโดยไม่มีคำพูดใดๆ เล็ดลอดออกมาจากปากอีก
“มาแล้วจ๊ะป้า” รำพึงเพิ่งจะเดินมาถึงครัวอีกครั้งหลังจากไปทำงานที่ทำค้างไว้ให้เสร็จ
“มาก็ดีแล้ว รำพึง มาโขลกพริกแกงให้ป้าด้วย เร็วเข้า มัวไปทำอะไรก็ไม่รู้” แพงรีบให้งานรำพึง
“ป้าแกก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะพี่ ชอบเอ็ดหนูอยู่เรื่อยเลย” รำพึงพูดท่าทางอารมณ์ดี แล้วก็จัดแจงถือครกเดินไปนั่งใกล้ๆ กับระพีพรรณ และเธอก็ยิ้มให้รำพึงด้วยสีหน้าที่เป็นมิตร
“หนูขอเรียกพี่ก็แล้วกันนะ ดูอายุพี่แล้วน่าจะมากกว่าหนู ว่าแต่พี่อายุเท่าไหร่แล้วจ๊ะ” รำพึงถาม
“ยี่สิบห้าจ๊ะ แล้วรำพึงล่ะจ๊ะ”
“หนูน่ะเหรอสิบแปดจ๊ะ” รำพึงบอกพร้อมๆ กับยิ้ม
“จริงหรือจ๊ะ แล้วทำไม รำพึงมีแฟนเร็วจัง” เธออดถามไม่ได้
“เร็วที่ไหนกันคะพี่ บางคนเขามีแฟนตั้งแต่อายุสิบห้าปีด้วยซ้ำ” รำพึงบอกอีก
“เด็กสมัยนี้ก็ยังงี้ทั้งนั้นล่ะค่ะคุณเพลง เป็นสาวหน่อยก็มีแฟนแล้ว คุณเพลงอยู่แต่เมือง เอ่อ! อยู่แต่ในกรุงเทพฯ จะไปรู้อะไรคะ” แพงเกือบเผลอหลุดปากออกไปแล้ว แต่ก็โชคดีที่ยังตั้งสติได้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้รำพึงสงสัยอะไรนัก เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับการจัดแจงกับพริกแกงที่จะโขลกนั่นเอง
“มีอะไรแตน” รำพึงทักแตนที่เดินมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยจะเป็นมิตรนัก
“วันนี้คุณท่านให้มาบอกว่าคุณพิสิทธิ์จะกินข้าวที่นี่ ให้ทำกับข้าวเผื่อด้วย เมื่อกี้ท่านลืมบอกป้าแพง”