มโนภฤศเม้มปากแน่นตลอดการขับรถมายังอำเภอเพื่อจดทะเบียนสมรสตามคำสั่งของพ่อและคุณย่า เขาไม่แม้แต่จะปริปากพูดกับคนที่นั่งมาด้วย และเธอเองก็เงียบไม่พูดไม่จาเช่นกัน จนตอนนี้มานั่งอยู่หน้าเจ้าหน้าที่ที่จะทำการจดทะเบียนสมรสให้เขาและเธอ
“สวัสดีครับคุณมาร์ค” เจ้าหน้าที่หนุ่มเอ่ยทักทายเพราะรู้จักชายหนุ่มดี
“อือ...หวัดดี” เขาตอบห้วนแล้วมองไปยังคนที่นั่งหน้านิ่งข้างๆ ตนก็ยิ่งหงุดหงิดอารมณ์
“มาทำอะไรวันนี้”
“จดทะเบียนสมรส” เขาตอบสั้นๆ ห้วนๆ และคำตอบก็เล่นเอาคนฟังตกใจ เพราะคนที่มาด้วยไม่ใช่แพรไหม แฟนสาวที่คบไปไหนมาไหนด้วยกัน
“ครับ” เจ้าหน้าที่หนุ่มตอบรับรู้สั้นๆ พร้อมเตรียมเอกสารทุกอย่างมาให้ทั้งสองได้เซ็นและไม่ลืมบอกชายหนุ่มให้ยิ้ม
“ยิ้มหน่อยสิคุณมาร์ค ทำหน้าเหมือนโดนบังคับงั้นแหละ”
“ก็โดนบังคับ” เขาตอบสั้นๆ
“แต่ภรรยาคุณมาร์คสวยขนาดนี้ไม่น่าโดนบังคับนะครับ” มองยังไงก็สวยกว่าแพรไหมคนที่อีกฝ่ายคบ
“สวยอาบยาพิษน่ะรู้จักไหม เอาปากกามาจะได้เซ็นแล้วไปที่อื่นต่อ” เขารีบแย่งปากกาจากเจ้าหน้าที่อำเภอมาเซ็นเอกสารที่วางตรงหน้าตนแล้วส่งไปให้คนที่นั่งข้างๆ ตนพร้อมกับปากกาในมือ
“รีบเซ็นจะได้รีบไป เสียเวลา”
เงียบ!
ไม่มีเสียงตอบกลับมา เธอรับปากกามาเซ็นซื่อตัวเองยังกระดาษสองแผ่นตรงหน้าเหมือนที่เขาเซ็น แล้วเจ้าหน้าที่นายอำเภอหนุ่มก็รับไปดูพร้อมกับเอ่ยแสดงความยินดีและอวยพรเขาทั้งสอง
“ยินดีด้วยนะครับ ขอให้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข รักกันดูแลกันตะ...” ยังพูดไม่สุดความ เสียงห้วนห้าวก็แทรกขึ้น
“ไม่นานก็เลิก อวยพรให้ได้อะไรกัน” มโนภฤศเอ่ยแทรกขึ้นเมื่อรู้สึกขัดหูกับคำอวยพรของเจ้าหน้าที่
“ขอบคุณนะคะ”
เป็นวรนิษฐ์เองที่เอ่ยขอบคุณคำอวยพรของเจ้าหน้าที่ และนั่นทำให้เจ้าหน้าที่หนุ่มถึงกับใจเต้นแรง ไม่ใช่แค่หน้าที่สวย น้ำเสียงยังหวานไพเราะอีกด้วย
“ครับ ตอนนี้คุณทั้งสองก็เป็นสามีภรรยากันเรียบร้อยแล้วนะครับ” เขาจัดทำเอกสารให้ทั้งสองแล้วใส่ซองให้ทั้งคู่เก็บไว้คนละแผ่น
“ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวขอบคุณอีกครั้งพร้อมรับซองเอกสารมาถือไว้ ส่วนอีกคนก็กระชากมาถือไว้อย่างไม่พอใจ
“เสร็จแล้ว ไปได้แล้ว ฉันไม่ได้ว่างพาเธอไปไหนมาไหนทั้งวันหรอกนะไวน์”
พูดแล้วเขาก็ลุกขึ้นเดินนำหน้าออกไปจากห้อง และเธอก็หันมายิ้มแห้งๆ อายๆ เจ้าหน้าที่ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินตามเขาออกไปเร็วๆ ด้วยความเร่งรีบเดินให้ทันคนตัวโตเลยทำให้ข้อเท้าเล็กพลิกเสียหลักเซจะล้ม แต่โชคดีที่เขาหันมามองเธอด้านหลังพอดีจึงคว้าเอวเล็กรั้งไว้ได้ทัน
ว้าย!
“ระวังหน่อยสิ เธอไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วนะ ไอ้ส้นสูงเนี่ยจะใส่มาทำกระบืออะไร”
เมื่อกี้เขาแทบใจหล่นวูบเมื่อเห็นเธอจะล้ม เขานึกห่วงเธอแบบไม่รู้ตัวและการเคลื่อนไหวของเขาก็เป็นไปแบบอัตโนมัติ กลิ่นกายอ่อนๆ หอมๆ ของวรนิษฐ์ก็ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายจนหวนคิดถึงค่ำคืนนั้นที่สวีเดน แต่แค่เพียงชั่วครู่เท่านั้น เขาก็กลับมาเป็นคนเดิมผลักดันเธอออกจากวงแขนให้เธอยืนเอง
“อ่ะ...ไวน์เจ็บข้อเท้าค่ะพี่มาร์ค” เธอบอกเขาพร้อมกับย่อตัวนั่งลงเมื่อรู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อเท้าจนเดินต่อไม่ได้
หืม!
เขาหายใจเข้าปอดแรงๆ กัดฟันแน่นพร้อมกับย่อตัวยกอุ้มเธอขึ้นแนบอกตัวเองแล้วเดินลงบันไดของตึกไปยังลานจอดรถ วรนิษฐ์ตวัดมือเล็กทั้งสองโอบลำคอหนาและซุกหน้าไปกับหน้าอกแข็งแรงที่อัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของบุรุษพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก ‘ไวน์ไม่เชื่อหรอกว่าพี่มาร์คจะใจร้ายกับไวน์ จะไม่หวั่นไหวกับไวน์’ เธอพึมพำในใจ