EP. 07

1212 Words
ตอนที่ ๗ รับรู้ว่ามีใครบางคนขยับมานั่งข้างๆ พร้อมกับมือของอีกฝ่ายที่จับตรงหัวไหล่ เขย่าเบาๆ “เจ้าหลับรึยัง...” กลิ่นกายจากกินนรหนุ่มหอมรุนแรงยิ่งกว่าเดิม ตุลย์ลืมตาขึ้น สติกลับมาอย่างเร็วไว เขาหันมาจึงพบกับคีรีธรที่นั่งอยู่ข้างเตียง “มีอะไรหรือ คนกำลังจะหลับจะนอนมาเรียกอยู่ได้” “ช่วยเราด้วย...” “ช่วยอะไร เกิดอะไรขึ้น...” ตุลย์ดีดตัวขึ้นนั่ง มองคนที่นั่งทำหน้าซื่อ อยู่ตรงหน้า “มีอะไร...” “ช่วยเราด้วย...” ตุลย์สังเกตว่าบัดนี้คีรีธรเริ่มหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับกลิ่นหอมละมุนเริ่มทวีความหอมแรงกว่าเดิมอีก ข้าราชการหนุ่มมองหน้าอีกฝ่ายอย่างสงสัย รอให้อีกฝ่ายบอกกล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้น “มาสนี้เราเข้าสู่เดือนแพร่พันธุ์ของเหล่ากินนรกินรี พอจะนั่งสมาธิ เรากลับไม่อาจมีใจสงบลงได้” “อ้าว...แล้วมาเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ” “นทีในกายของเราจะต้องเคลื่อนออก มิเช่นนั้นกายของเราจะร้อนรุ่ม ทำสมาธิไม่ได้” “หมายความว่ายังไง ฉันไม่เข้าใจ” “เรากำลังอยู่ในฤดูแพร่เผ่าพันธุ์ กายาจะร้อนรุ่มดั่งไฟลน จะต้องระบายนทีออกมา หากฝืนเข้าสมาธิ ปราณเราจะแตกซ่าน เจ้าช่วยเราด้วยเถิดนะ” “ช่วยยังไง” ขณะถาม ตุลย์ยิ่งหน้าแดงซ่าน กลิ่นกายของคีรีธร ยามนี้รู้สึกหอมรุนแรงเป็นยิ่งนัก ยิ่งได้กลิ่นหอม เลือดในกายยิ่งเดือดพล่าน เขามองหน้าคีรีธรอย่างชั่งใจ ก่อนจะกระเถิบหนีมานั่งตรงปลายเตียง “ที่เมืองของเรา เมื่อยามกินนรเข้าสู่ช่วงวัยหนุ่มสาว ในทุกหนึ่งปีจะมีเดือนที่ต้องผสมพันธุ์ ในเดือนนี้พวกเราจะร้อนรุ่ม หากไม่เคลื่อนนทีในกายออกมา จะใช้ชีวิตเป็นปรกติไม่ได้ บางตนจับคู่กับกินรี เสพสังวาสจนให้กำเนิดบุตรธิดา ในบางตนที่ยังมิมีคู่กินรี มักจะให้นางโอษฐ์ช่วยเหลือ ให้นทีเคลื่อนเข้าสู่โอษฐ์ของนางเหล่านั้น” “บ้า...” ตุลย์นึกถึงหนังอิโรติกขึ้นมาอย่างทันที แตกในปาก...บ้าไปแล้ว “ทำไมนายไม่ว่าวเองล่ะ มาให้ฉันช่วยทำไม” “อะไรคือการว่าว...ในบ้านเมืองของเรา มิได้มีวิธีการแบบนั้น เจ้าช่วยเราด้วยเถิด เราไม่ไหวแล้ว” ไม่พูดเปล่า คีรีธรได้โผเข้าฉุดตุลย์เอาไว้ ผลักให้นอนลงไปบนเตียง ท่ามกลางการขัดขืนของข้าราชการหนุ่ม กระทั่งได้สบสายตาอันชวนหลงใหลของคีรีธร ตุลย์จึงถูกตรึงนิ่งราวกับต้องมนต์สะกด “มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมฉันถึงกระดิกตัวไม่ได้” เขาพยายามดิ้นรนเท่าไร กลับยิ่งรู้สึกว่าร่างกายแข็งทื่อราวกับถูกสาป ทอดนอนนิ่งให้คีรีธรโน้มหน้าลงมาประทับจูบตรงริมฝีปาก แปลกที่จู่ๆ เขาก็เผลออ้าปากรองรับกับปากได้รูปของพ่อนกรูปหล่อ “ช่วยเราด้วยเถิด เราขอร้อง” เสียงละมุนของคีรีธรประหนึ่งเสียงอันหวามหวาน ยิ่งกลิ่นหอมของเขายิ่งรุนแรง หอมประหลาด หอมถึงขนาดทำให้เลือดลมในกายของตุลย์เดือดพล่าน ทุกความรู้สึกตุลย์รับรู้ เพียงแต่ว่ายามนี้เขาไม่อาจกระดิกตัวดิ้นรนขัดขืน แม้ปัดฟ้องเพียงนิดก็ไม่อาจจะทำได้อย่างความประสงค์ นอนราบนิ่งงันให้คีรีธรกระทำอย่างสมปรารถนา ปากค่อยๆ อ้าออก ถูกค้นหาด้วยชิวหาของคีรีธร ชั่วประเดี๋ยวพ่อนกต่างภพก็หยัดกายขึ้นตรง ถอดอาภรณ์ส่วนล่างออก ไร้ชุดชั้นในอย่างที่ตุลย์สันนิษฐาน ขณะส่วนกลางลำตัวพองตระหง่าน ตุลย์เบิกตากว้าง อยากขัดขืนกลับไร้เรี่ยวแรงที่จะกระทำ “เราทนไม่ไหวแล้ว ขอเจ้าช่วยเราเถิดนะ” ส่วนกลางลำตัวของคีรีธรตระหง่านใหญ่โต มันไหวหวามซาบซ่านเข้าไปถึงหัวจิต ทุกการเคลื่อนไหวที่ใกล้เข้ามาของกินนรหนุ่ม อยู่ในสายตาที่เบิกโตของตุลย์อย่างเสียไม่ได้ คีรีธรค่อยๆ ประคองส่งสัญลักษณ์ทางเพศเข้าสู่ปากของตุลย์อย่างเชื่องช้าหากมั่นคง เมื่อปากสัมผัส ทุกสัดส่วนจึงยิ่งตื่นเพริด สะท้านไปทั่วทุกสรรพางค์ โอษฐ์รับรองส่วนนั้นได้อย่างเหมาะเจาะ ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์แห่งความรู้สึกทั้งมวล กินนรหนุ่มแหงนหน้าขึ้นสูดลมหายใจยาวลึก ขณะขับเคลื่อนส่วนกลางลำตัวอย่างเชื่องช้า ขับเข้าเคลื่อนออก เนิ่นนานกว่าความรู้สึกทั้งมวลจะสิ้นสุด คลื่นกลิ่นความหอมยิ่งรุนแรง ก่อนนทีในกายจะเคลื่อนผ่านสู่ปากของตุลย์ที่รองรับเอาไว้อย่างพอดิบพอดี คีรีธรนิ่วหน้าอย่างสุดความรู้สึก จุดสูงสุดแห่งอารมณ์ดำฤษณาสิ้นสุดลง ทว่าทุกการสัมผัสยังมิหมดสิ้น เขาขับเคลื่อนเครื่องหมายแห่งตนเนิบช้า ครั้งพอเห็นหน้าของตุลย์แสดงซึ่งอารมณ์กระอักกระอวน จึงถอดกายออก ทอดนอนลงเคียงข้าง ประโลมบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุน “กลืนมันลงไป อย่าได้คายมันออกมา” ตุลย์ทำตามอย่างว่าง่าย กลืนสิ่งแปลกปลอมที่ถูกส่งเข้าไปในปากโดยคีรีธรอย่างเสียไม่ได้ แปลกประหลาดนัก... เขานิ่วหน้า คิดว่ามันจะมีกลิ่นฉุนรุนแรง ทว่าสิ่งที่ได้สัมผัสกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง หอมหวาน...รสชาติละมุนนุ่มลิ้นเป็นนักหนา ใบหน้าอัศจรรย์ใจของตุลย์แสดงออกมาอย่างชัดเจน ขณะรู้สึกผ่อนคลายในกายตน ค่อยๆ ขยับกายได้ทีละน้อย ทว่ากลับต้องสะท้านเสียว เมื่อคีรีธรเคลื่อนกายลงไปยังส่วนกลางลำตัวของเขา “นายจะทำอะไร” “เราจะตอบแทนค่าที่เจ้าช่วยเหลือเรา” กางเกงขาสั้นของตุลย์ถูกถอดออกพร้อมกับชั้นใน ขณะส่วนกลางของตุลย์ดีดผึงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทักทายพ่อนกประหลาดอย่างน่าอายที่สุด “อย่านะ ฉัน...ไม่...” ช้าไปเสียแล้ว คีรีธรประคองส่วนอันน่ารักน่าใคร่นั้นเข้าปาก ใช้วิธีที่เขาคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เทียมเท่ากับที่ตุลย์ได้ช่วยเหลือ ขับเคลื่อนไปตามความรู้สึกที่สั่งการจากหัวใจ เพียงไม่นานทุกอย่างก็สิ้นสุด สมซึ่งความรู้สึกทั้งมวล เมื่อกายได้ผ่อนคลาย เสมือนมนต์สะกดถูกคลายออก ตุลย์มองหน้าคีรีธรนิ่งนานด้วยความรู้สึกก้ำกึ่งสับสน ส่วนหนึ่งโกรธแค้นที่ถูกกระทำอย่างไม่อาจขัดขืน ทว่าอีกส่วนหนึ่งในหัวใจ กลับชุ่มชื้นอย่างประหลาด มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ เหตุใดถึงได้รู้สึกดีต่อสิ่งที่เพิ่งผ่านพ้นไปหยกๆ แต่แล้วอารมณ์ความโกรธกลับมีมากกว่า ตุลย์ไม่อาจยับยั้งอารมณ์ที่มันคุกรุ่นรุนแรงได้ เขาโผเข้าหาคีรีธรแล้วฝากหมัดใส่หน้าของอีกฝ่ายไปหนึ่งหมัด “ค่าควรแก่การที่นายข่มเหงฉัน” พ่อนกรูปหล่อเซถลาออกจากเตียง ไปยืนอึ้งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ตุลย์หน้าแดงซ่าน ขบเขี้ยวอย่างโกรธแค้นเป็นที่สุด “ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ ฉันจะคิดบัญชีกับนายแน่” ดึงกางเกงขึ้นสวม แล้วคว้าผ้าขนหนูเดินออกจากห้องไปอาบน้ำ หมายชำระความรู้สึกทั้งปวงทิ้ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD