EP.03 เราจะต้องกลับหิมพานต์

807 Words
ตอนที่ ๓ เขานอนระแวงทั้งคืน กว่าจะได้หลับก็เกือบเช้าแล้ว พอหลับสนิทปุ๊บ ความรู้สึกก็หลามไหลไปตามครรลองของมัน ในยามนั้นเขากำลังฝัน... ฝันว่าตนกำลังเดินอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยหรู อันเป็นความฝันของเขามาตั้งแต่ไหนแต่ไร จึงได้สอบเข้ารับการบรรจุในตำแหน่งที่ชื่นชอบ ย้ายการทำงานอยู่หลายที่ ปรับตำแหน่งอยู่หลายหนจนกระทั่งเข้ามาเป็นหัวหน้าหน่วยแห่งนี้ ยามเหงามักใช้ธรรมชาติบำบัด ไร้คู่เคียงเรียงนอน อยู่แต่ในป่าในเขา ชีวิตคิดแต่จะดูแลธรรมชาติและสัตว์ป่า จะมีใครที่ไหนมาสนใจ ปิดกั้นทุกสิ่งอย่าง ปลีกตัวอยู่แต่ในป่า จนพ่อและแม่ห่วงว่าในอนาคต บุตรชายจะขึ้นคานค้างฟ้าไร้คนดูแล น้อยคนนักจะเข้าใจในความรู้สึกของเขา เข้าใจว่าเขาต้องการความเป็นส่วนตัว ต้องการธรรมชาติ แม้ว่าจะเปลี่ยวเหงาในบางครั้ง แต่พอมีสายลมพัดผ่าน ความรู้สึกทั้งปวงจึงมลายหาย ในฝันตุลย์เดินอยู่กลางป่าแห่งหนึ่ง ไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย กระทั่งได้พบกับบางสิ่งบางอย่างสีดำเลื่อมลายเลื้อยปราดมาตรงหน้า งู!! เจ้างูชั่วร้ายเลื้อยมานอนขวาง ขณะตุลย์ตกใจยืนนิ่งราวถูกสาป กระทั่งสองหูตื่นเพริด เมื่อเกิดเสียงกึกก้องกัมปนาทขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกลนัก เปรี้ยง ง ง เสียงราวฟ้าผ่า ทำให้ตุลย์สะดุ้งโหยง ตื่นจากนิทรา ผุดตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนว่าจะลุกได้แค่กึ่งหนึ่ง เมื่อมีอีกร่างประกบอยู่ใกล้ๆ แถมเวลานี้ปากของเขาดันไปประทับตรงแก้มของใครบางคนเข้าให้แล้ว ตกใจยิ่งกว่าเก่า เมื่อเห็นว่าเป็นชายแปลกหน้า “นาย...” ชายแปลกหน้าขยับออก ดวงตาอันชวนหลงใหลมองไปยังตุลย์อย่างสงสัยแกมระแวง กลิ่นกายของเขาคนนั้นหอมละมุนจมูก “เจ้าเป็นใคร” ถ้อยคำแปร่งแปลก ตุลย์สะบัดหน้าขับไล่ความรู้สึกทั้งปวงทิ้ง ทว่าหัวใจกลับยังเต้นแรงไม่เป็นส่ำ “นายฟื้นแล้วหรือ...” “เรามิเป็นอันใด” ชายปริศนาบอก ดูสิ แม้แต่เสียงยังนุ่มน่าฟัง “อือ...ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” “เจ้าเป็นใครกัน...” อีกฝ่ายยังคงถามอย่างสงสัย “แล้วที่นี่ที่ไหนกัน” “บ้านพักของฉัน” ตุลย์ลุกขึ้นนั่ง มองอีกฝ่ายที่นั่งอยู่อีกฝั่ง แล้วมองมายังเขาไม่วางตา “บ้านพักรึ ที่ไหนกัน” “ตอนนี้นายอย่าเพิ่งถามอะไรทั้งนั้น ให้ฉันได้สอบถามนายก่อนก็แล้วกัน” “เจ้ามีนามกรอันใด” “ตุลย์...วุ้ย ถามอย่างกับลิเก” ตุลย์เกาหัว หัวใจยังเต้นแรงไม่เลิก “นายล่ะ มาจากไหนกัน แล้วชื่ออะไร” “เรานะรึ” หนุ่มปริศนา หุ่นทรงระดับนายแบบชี้ตรงอกของตนเอง แล้วบอก “เรามีนามว่าคีรีธร เป็นกินนรจากเมืองนอกฟ้าแห่งป่าหิมพานต์” “หึ...” ตุลย์สะอึก พลางหลุดขำออกมา “ตลกแล้วล่ะ เมืองอะไรนะ เมืองนอกฟ้า ฉันว่านายพอก่อนเถอะ เลิกเล่นลิเกได้แล้ว” “เราหาได้พูดปด” “นายกำลังจะบอกฉันว่านายเป็นกินนร เทพกึ่งนกนะหรือ” “ถูกต้อง...” “แล้วนายมาที่นี่ได้ยังไงกัน” “เราไม่ทราบที่มา จำได้ว่ากำลังต่อสู้กับวิทยาธร เราเพลี่ยงพล้ำ แล้วจู่ๆ ทุกอย่างก็วูบดับไป จนกระทั่ง...” คีรีธรทำท่านึก แต่สายตายังไม่ละจากหน้าของตุลย์ “...เจ้าได้ให้การช่วยเหลือเรา” “ถูกต้อง...” “ขอบในน้ำใจของเจ้านัก” “นายบอกว่านายมาจากหิมพานต์” “ถูกต้อง” อยากจะหลุดขำเป็นคำรบสอง แต่ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นไป ทั้งเสื้อผ้า และรวมไปถึงปีกที่เขาเก็บมาได้ มันพอจะทำให้ตุลย์คิดว่า บุคคลตรงหน้าอาจจะเป็นกินนรพลัดถิ่น หรือไม่ก็เป็นคนบ้าที่ความจำเสื่อมขณะกำลังแสดงลิเกอยู่ก็เป็นได้ คีรีธรไม่ลดละที่จะบอกกล่าวที่มาของตน แม้ว่าจะดูออกว่าอีกฝ่ายไม่ค่อยเชื่อก็ตาม “เราจะต้องกลับบ้านกลับเมือง” กินนรหนุ่มบอกในตอนท้าย “นายจะกลับได้ยังไง ก็ในเมื่อที่นี่กับบ้านเมืองของนายมันอยู่กันคนละที่” ตุลย์ถอนหายใจแล้วลองว่าไปตามน้ำและความคิดของตน “ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยรู้ว่าบนโลกใบนี้จะมีป่าหิมพานต์จริงๆ นอกเสียจากในนิทานปรัมปราเท่านั้น” “เราจะต้องกลับหิมพานต์” “นายยังกลับในตอนนี้ไม่ได้ เพราะนายกำลังบาดเจ็บ และที่สำคัญ ฉันไม่รู้ว่าป่าหิมพานต์ของนายอยู่ที่ไหนโว้ย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD