ตอนที่ 1 คุณเป็นใคร?
หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้นมอง แสงสว่างจ้าจากหลอดไฟนีออนทำให้เธอต้องกระพริบตาติดๆ กัน เพื่อปรับโฟกัสภาพใหม่ ก่อนจะตกใจที่เห็นชายหนุ่มลูกครึ่งรูปร่างสูงใหญ่คล้ายกับนายแบบทางฝั่งยุโรป กำลังจ้องมองมายังเธอ ‘ให้ตายสิ! เขาช่างดูหล่อเหลาราวกับ มิเคเล มอร์โรเน พระเอกหนังรักอีโรติกเรื่อง 365 DAYS’
มักซิมิเลียน หรือ เมสซี่ หนุ่มหล่อวัย 31 ปี หนุ่มเลือดผสม ไทย-อังกฤษ-รัสเซีย-อิตาลี สูง 198 เซนติเมตร กำลังนั่งหน้าสลดอยู่ข้างๆ เตียงคนไข้ พอเห็นคนที่หมดสติไปนาน ขยับตัวและลืมตาขึ้น จึงเอ่ยเรียกอย่างดีใจ “ม่าน!”
“คะ...คุณเป็นใครคะ” เธอถามพลางจ้องมองชายหนุ่มที่ทำราวกับว่ารู้จักกันมาก่อนอย่างมึนงง
“...” มักซิมิเลียนได้ฟัง ก็ถึงกับสตั๊นไปทันใด ที่หญิงสาวตรงหน้ามองและพูดจากับตนแปลกไปจากเดิม
ด้าน ธาดา นายแพทย์หนุ่มหล่อวัย 29 ปี สูง 185 ซม. กำลังจะเดินออกจากห้องไปตรวจคนไข้คนอื่นต่อ แต่พอได้ยินน้ำเสียงเมื่อครู่ ก็รีบหันกลับไปถามทันใด “คนไข้ฟื้นแล้วเหรอครับ?”
“ครับ” มักซิมิเลียนพยักหน้ารับก่อนจะขยับลุกให้อีกฝ่ายเข้ามาดูภรรยาของตนอย่างรู้สึกแกนๆ
“รบกวนคุณเมสซี่ช่วยออกไปรอที่ข้างนอกก่อนนะครับ” ธาดาบอกพร้อมกับสังเกตท่าทีของคนไข้สาวที่กำลังขยับลุกขึ้นนั่ง
“แต่...” เขาหันไปมองคนที่อยู่บนเตียงด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“เขาเป็นใครเหรอคะ แล้วม่านมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะพี่หมอ?” ม่านรดาเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย
“คุณเมสซี่เป็น เอ่อ...สามีของน้องม่านครับ” ธาดากัดฟันบอกอย่างรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจนิดๆ ที่ต้องเอ่ยย้ำสถานะของผู้ชายอีกคน
“สามี!” คนที่ตื่นมาก็มีผัว เอ๊ย! มีสามีหล่อระดับพระเอก ฮอลลีวูด ถามย้ำอย่างไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง
“ครับ” ธาดาพยักหน้ารับเบาๆ
“ไม่จริง! ม่านเพิ่งจะเรียนอยู่ปีสาม จะ...จะมีสามีได้ยังไง” เธอส่ายหน้าปฏิเสธอย่างรู้สึกช็อกและอับอายเป็นอย่างมาก
“เราแต่งงานกันได้สามเดือนแล้วครับ” มักซิมิเลียนบอกอย่างรู้สึกสั่นไปทั้งตัว จะว่าสาวเจ้าแสดงละครก็ไม่น่าใช่ เพราะผู้หญิงตรงหน้า ไม่ได้มีจริตจะก้านเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเขา
คนที่ร้อยก็ไม่เชื่อ พันก็ไม่เชื่อว่าผู้ชายตรงหน้าจะเป็นสามีของตัวเอง กำลังจะเถียงกลับ แต่อยู่ๆ เธอก็รู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง “โอ๊ย!”
“ผมรบกวนพ่อเลี้ยงออกไปก่อนครับ” ธาดารีบหันไปบอกคนที่กำลังตรงเข้ามาจะประชิดตัวของคนไข้
“บอสครับ” อีธานที่เพิ่งจะเดินเข้ามาในห้องพักวีไอพี รีบเข้าไปดึงแขนของผู้เป็นนายเอาไว้มั่น กลัวว่าอีกฝ่ายจะเหวี่ยงหมัดต่อยกับนายแพทย์หนุ่มสุดหล่อขวัญใจของสาวๆ ในอำเภอเหมือนครั้งก่อน เพราะหึงหวงภรรยาคนสวย ซึ่งเคยมีปัญหาคาราคาซังกันมาสักพักหนึ่ง แล้ว เนื่องจากนายแพทย์ธาดาคนนี้เคยชอบพอกับม่านรดา แต่ถูกเจ้านายของตนชิงตัดหน้า พาเธอเข้าพิธีวิวาห์ไปซะก่อน
“ทำไมน้องม่านจำผมไม่ได้” มักซิมิเลียนถึงกับเลือดขึ้นหน้า
“สมองคนไข้อาจจะได้รับความกระทบกระเทือน เดี๋ยวผมจะตรวจใหม่อีกครั้งครับ” ธาดาตอบอย่างใจเย็น
“ออกไปรอที่ข้างนอกเถอะครับบอส” อีธานบอกพร้อมกับดึงแขนของผู้เป็นนายให้ออกเดิน
มักซิมิเลียนข่มใจก่อนจะยอมเดินออกไปกับลูกน้องคนสนิทด้วย สีหน้าบึ้งตึง หลังภรรยาคนสวยฟื้นขึ้นมา แต่กลับจำผัวของตัวเองไม่ได้ แถมยังจ้องมองตนด้วยสายตาที่แปลกไปจากทุกๆ ครั้ง
หญิงสาวหันไปเอ่ยกับนายแพทย์สุดหล่อที่รู้จักกันมาได้หนึ่งปีกว่าๆ อย่างรู้สึกช็อก “ไม่อยากจะเชื่อว่าหนูจะแต่งงานกับผู้ชายที่มีอายุเยอะกว่ามากขนาดนั้น”
ด้านคนที่ถูกเรียกว่า..ผู้ชายที่อายุเยอะกว่ามาก...ขนาดนั้น กำลังจะเดินออกประตูห้องพัก ก็รีบหันกลับไปถลึงตาใส่ภรรยาสาวและเอ่ยเรียกอีกฝ่ายเสียงดังอย่างโมโห “ม่าน!”
อีธานรีบดึงผู้เป็นนายออกมาจากไปห้องพักอย่างรวดเร็ว พร้อมกับปิดประตูห้องและยืนขวางเอาไว้
“ให้ตายสิ! นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ” มักซิมิเลียนสบถออกมาอย่างหัวเสีย เขาเตรียมคำพูดเป็นร้อยเป็นพันมาแก้ตัว เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่พอมาเจอม่านรดาในเวอร์ชั่นนี้ก็ทำให้เครียดหนักกว่าเดิม
“เอ่อ...ผมว่าการที่คุณม่านจำไม่ได้ ถือเป็นเรื่องดีนะครับบอส” อีธานออกความเห็น
“ดียังไงวะ?” มักซิมิเลียนถามกลับยังไม่ทันขาดคำก็นึกไปถึงสิ่งที่จะตามมาออกในทันที
“ผมว่าถ้าจะให้ดี...บอสควรจะพาคุณม่านไปอยู่ที่บ้านพักในไร่ชาครับ”
“ถ้าน้องม่านออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ ฉันจะพาไปพักที่นั่น สั่งห้ามใครเข้าไปรบกวนเด็ดขาด” มักซิมิเลียนเอ่ยเสียงเข้ม
“ครับบอส” อีธานพยักหน้ารับคำสั่งเบาๆ ขณะเดียวกันก็แอบแปลกใจและดีใจที่ภรรยาคนสวยของเจ้านายอยู่ในสภาวะความจำเสื่อม ไม่อย่างงั้นละก็...ป่านนี้คงจะโทร. หาทนายเตรียมจะฟ้องหย่าแน่ๆ
2 ชั่วโมงต่อมา...หลังจากที่นายแพทย์ธาดาตรวจคนไข้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ก็เรียกทายาทคนเดียวของไร่ชา ไร่กาแฟ รีสอร์ตดังในเครือของดารันกรุ๊ปเข้าพบทันที
“น้องม่านเป็นยังไงบ้างครับ” มักซิมิเลียนถามอย่างร้อนใจ หลังเห็นทั้งแพทย์และพยาบาลพากันเดินเข้า-ออกจากห้องพักฟื้นของภรรยาเป็นว่าเล่น
“น้องม่าน...เอ่อ...คนไข้ความจำเสื่อมครับ จำได้แค่ว่าตัวเองยังเรียนอยู่ปีสาม” ธาดารู้สึกสงสารม่านรดาที่เลือกแต่งงานกับปีศาจร้าย จอมเจ้าเล่ห์ ซึ่งมีใบหน้าหล่อเหลาราวกับเจ้าชายกรีก แถมฐานะก็ร่ำรวยระดับมหาเศรษฐี ใช่! เขาสู้ผู้ชายตรงหน้าไม่ได้แม้แต่น้อย แต่สิ่งหนึ่งที่เขาจะไม่มีวันทำคือขยี้หัวใจของเธอ เฉกเช่นที่อีกฝ่ายกำลังทำอย่างเด็ดขาด
คนที่ยังก้ำกึ่งสองจิตสองใจว่าอยากให้ภรรยาความจำเสื่อมไปเลย หรือว่ากลับมาจำทุกอย่างได้ปกติ เอ่ยถามเสียงอ่อน “จะเป็นแบบนี้ไปอีกนานไหมครับคุณหมอ หรือว่า...จะเป็นตลอดไป”
“อันนี้ก็ตอบยากครับ บางรายก็หลายปี บางรายก็หลายเดือน แต่บางรายก็จำไม่ได้อีกเลย” ธาดาเอ่ยเสียงเบาหวิว ใช่! เขาแอบหวังให้เธอจำผู้ชายตรงหน้าไม่ได้อีกเลยตลอดชีวิต
มักซิมิเลียนได้ฟังก็ถึงกับอึ้งไปทันใด รู้สึกเหมือนม่านรดาคนใหม่จะไม่ปลื้มตนเท่าไหร่ ผิดกับคนเก่าที่บูชาความรักเหนือสิ่งอื่นใด
“มีเรื่องสำคัญกว่าที่คุณต้องรู้ครับ ตอนนี้คนไข้กำลังตั้งท้องได้ห้าสัปดาห์แล้ว”
“พระเจ้า! ผมกำลังจะเป็นพ่อคนเหรอครับหมอ” มักซิมิเลียนเอ่ยถามย้ำเสียงสั่น
“ใช่ครับ ผมขอแสดงความยินดีด้วย” ธาดากัดฟันบอกอย่างรู้สึกเจ็บหนึบไปทั้งใจ และก็ได้แต่ภาวนาให้ผู้ชายคนนี้เปลี่ยนแปลงสันดานชั่วๆ ของตัวเองซะใหม่
“ขอบคุณครับ” มักซิมิเลียนฉีกยิ้มกว้างขึ้นมาทันใด
“คนไข้ความจำเสื่อมและกำลังตั้งท้องอ่อนๆ สิ่งที่คุณควรปฏิบัติคือ ดูแลเธอเป็นอย่างดี อย่าให้มีเรื่องที่ต้องกระทบกระเทือนจิตใจ อย่าทำให้คนไข้เครียดหรืออยู่ในภาวะกดดัน เพราะมันจะส่งผลกระทบต่อเด็กในท้องครับ” ธาดาบอกข้อควรระวัง
“ได้ครับหมอ ผมจะดูแลภรรยาเป็นอย่างดี” มักซิมิเลียนรีบรับปากอย่างดีใจ
“เอ่อ...ผมอ่านข่าวของคุณบ่อยๆ นะครับ ขนาดไม่ใช่ภรรยาของคุณ ผมยังรู้สึกเครียดแทนเลยที่สามีขยันเป็นข่าวกับผู้หญิงอื่น” ธาดาเอ่ยตำหนิอย่างอดไม่ได้ เพราะไม่อยากให้ม่านรดาต้องช้ำใจเหมือนที่ผ่านมา
“ผม...” มักซิมิเลียน ได้ฟังก็ถึงกับสะอึกไปทันใด เหตุผลมากมายที่อัดแน่นอยู่ในใจ แต่เขาไม่สามารถเอื้อนเอ่ยออกไปให้ใครฟังได้ จึงทำได้แค่ก้มหน้ายอมรับในสิ่งที่ตัวเองก่อ
“ผมเดาว่านี่คงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คนไข้จำสามีของตัวเองไม่ได้ เธอคงอยากจะลบช่วงเวลาที่เจ็บปวดออกไป ตอนนี้...คุณต้องทำความรู้จักกับเธอใหม่แล้วครับ”
“ครับ แล้วน้องม่านพูดถึงผมว่ายังไงบ้าง” คนที่ผิดเต็มประตูถามด้วยสีหน้าเจื่อนๆ
“เธอไม่เชื่อว่าตัวเองแต่งงานแล้ว และไม่เชื่อว่าตัวเองจะชอบพอกับผู้ชายที่มีอายุมากกว่าครับ” ธาดาบอกอย่างรู้สึกสะใจนิดๆ ที่ได้ตอกย้ำความคิดของสาวเจ้าให้อีกฝ่ายฟัง
“พระเจ้า! คุณเองก็อายุน้อยกว่าผมแค่สองปีนะหมอ” เขาตอกกลับอย่างไม่พอใจ
“อ้อ! อีกอย่างเธอกลัวคุณครับ เธอถามผมว่าพอจะแนะนำทนายให้เธอได้หรือเปล่า เพราะเธออยากจะหย่า” ธาดาปล่อยหมัดเด็ดทันใด ใช่! ประโยคหลังนี่ม่านรดาไม่ได้พูดหรอก เขาเสริมเอง!
“ไม่มีทาง! ผมไม่มีวันหย่ากับภรรยาอย่างเด็ดขาด” มักซิมิเลียนบอกก่อนจะลุกเดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าตึงๆ เพราะไม่พอใจคำพูดของนายแพทย์หนุ่มที่เป็นดั่งหนามยอกอก ซึ่งหากขืนอยู่นานกว่านี้ตนคงจะอดใจไม่ไหว เผลอไปต่อยปากของอีกฝ่ายเข้าแน่ๆ
มักซิมิเลียนปรับสีหน้าก่อนจะเปิดประตูห้องพักวีไอพีออก แล้วเดินเข้าไปหาภรรยา ทันทีที่เห็นใบหน้าซีดเซียวของสาวเจ้า ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนมาใส่ชุดลำรองเตรียมพร้อมจะกลับบ้าน เขาจึงรีบเข้าไปถามอย่างเป็นห่วง “เป็นยังไงบ้างครับ”
“ม่านขอดูรูปงานแต่งของเราได้ไหมคะ แล้วคุณก็ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่าเราเจอกันได้ยังไง” ม่านรดายิงคำถามใส่ชายผู้มีสถานะเป็น สามีอย่างรู้สึกหวาดระแวง แม้ว่าทั้งพยาบาลและหมอจะบอกว่าเธอกับเขาแต่งงานกันแล้ว แต่ในหัวของเธอไม่มีความทรงจำใดๆ ของเขาหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่นิดเดียว
“ได้ครับ” มักซิมิเลียนเอ่ยก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นมาถือ แล้วจูงมือของสาวเจ้าให้ออกเดินจากห้องพักไปด้วยกัน
“คุณต้องให้หนูดูรูปแต่งงานก่อนค่ะ” ม่านรดารีบสะบัดข้อมือออกจากอีกฝ่ายอย่างตกใจ
มักซิมิเลียนกลอกตาก่อนจะล้วงมือถือออกมา แล้วเปิดรูปตอนงานแต่งที่เซฟเอาไว้ให้สาวตรงหน้าดู “นี่ครับ”
“รูปตัดต่อหรือเปล่าคะ?” ม่านรดารู้สึกเหมือนเข้านอน แล้วตื่นขึ้นมาอีกที มีผัว เอ๊ย! มีสามี แถมอีกฝ่ายยังดู...โซฮอตสุดๆ
“พี่มีรูปพวกนี้อีกเป็นร้อยๆ ใบครับ อยู่ในอัลบั้มรูปที่บ้าน อ้อ! มีคลิปวิดีโอตอนที่พี่ขอน้องม่านแต่งงานด้วยนะ”
“...” ม่านรดาเห็นรูปถ่ายของตัวเอง ที่สวมชุดเจ้าสาวแสนสวยยืนเคียงคู่อยู่กับผู้ชายตรงหน้าก็อึ้งจนพูดไม่ออก รู้สึกเหมือนเธอได้เดินทางข้ามเวลามายังอนาคตยังไงอย่างงั้น
“ไปหาอะไรกินกันเถอะครับ เดี๋ยวเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในนี้จะหิวเอานะ” มักซิมิเลียนเอ่ยเย้าพร้อมกับส่งยิ้มไปให้แม่ของลูก
“เจ้าตัวเล็ก?”คนที่ยังไม่หายช็อกเรื่องมีสามี ถึงกับสตั๊นไปทันใด
“ใช่ครับ! ลูกของเรา อ้าว! นี่คุณหมอยังไม่ได้บอกเหรอครับ” มักซิมิเลียนถามกลับอย่างแปลกใจ
“...” ม่านรดาส่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนจะยกมือขึ้นลูบที่บริเวณหน้าท้องของตัวเองเบาๆ ขณะเดียวกันก็รู้สึกเหมือนพื้นห้องที่ยืนอยู่เริ่มจะเอียงมากขึ้นเรื่อยๆ
“โอเค! งั้นพี่บอกหนูเลยแล้วกันว่าเรากำลังจะมีลูกครับ” เขาเอ่ยยังไม่ทันขาดคำ ก็รีบเข้าไปประครองภรรยาคนสวยที่ทำท่าจะเป็นลม
“คนไข้เป็นอะไรครับ” ธาดาที่เดินตามมาเพื่อจะห้ามไม่ให้ หนุ่มหล่อคนดัง พูด เรื่องตั้งครรภ์ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทันซะแล้ว
“ภรรยาผมเป็นลมครับ” มักซิมิเลียนอุ้มภรรยาคนสวยเดินกลับไปยังเตียงนอนคนไข้ และค่อยๆ วางเธอลงอย่างเบามือ
“ผมว่าให้คนไข้นอนพักดูอาการที่นี่อีกสักคืนดีไหมครับ” ธาดาเอ่ยแนะนำด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“ก็ได้ครับหมอ” มักซิมิเลียนพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย เพราะบ้านพักในไร่ชาอยู่ไกลจากโรงพยาบาลในตัวเมืองพอสมควร หากเกิดอะไรขึ้นตนก็เกรงว่าจะมาไม่ทันการ
“คุณต้องค่อยๆ บอกและทำความเข้าใจกับคนไข้ใหม่นะครับ ตอนนี้เธอคิดว่าตัวเองยังเรียนอยู่ปีสาม อาจจะรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ ยังไม่ได้ รวมไปถึงเรื่องความสัมพันธ์บนเตียง”
“หมายความว่ายังไงครับ?” มักซิมิเลียนหน้าตึงขึ้นมาอีกครั้ง
“เมื่อวานคุณอาจจะเป็นสามีของคนไข้ แต่วันนี้ตอนนี้คุณคือชายแปลกหน้า ถ้าคุณก้าวกระโดดและพยายามจะมีความสัมพันธ์แบบสามีภรรยา เธอจะคิดว่าตัวเองกำลังถูกชายแปลกหน้าข่มขืนครับ” ธาดาขยายภาพให้อีกฝ่ายเห็นชัดขึ้น
“โอ้พระเจ้า!” มักซิมิเลียนอุทานอย่างตกใจกับคำพูดที่ค่อนข้างทำร้ายความรู้สึกของตนเป็นอย่างมาก
“หมอถึงบอกไงครับ..คุณต้องทำความรู้จักกับภรรยาใหม่” ธาดายกยิ้มมุมปากขึ้นนิดๆ ก่อนจะขอตัวเดินออกไปข้างนอก เพื่อแจ้งว่าคนไข้จะแอดมิดที่โรงพยาบาลต่ออีกคืน
มักซิมิเลียนดึงผ้าห่มผืนบางๆ ขึ้นมาคลุมตัวให้ภรรยา และนั่งมองใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นอย่างรู้สึกผิด กับหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นจากความแค้นของตน ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งตกมาอยู่ในขุมนรก ที่เขาเป็นคนโยนเชื้อเพลิงใส่ เพื่อแผดเผาหัวใจของเธอให้มอดไหม้อย่างไร้ความปราณี