วันต่อมา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!
แกร๊ก แอ๊ด!!
“เอ้า พี่ฝ้าย เข้ามาทำอะไรคะ” เสียงใสเอ่ยถามพยาบาลรุ่นพี่ที่เปิดประตูห้องพักฟื้นของน่านฟ้าออกมาพอดี
“เอ่อ...อ้อ...พี่มาวัดความดันให้คนไข้น่ะ” ฝ้ายยิ้มหวานให้ปันปัน ก่อนจะเดินสวนออกไป ส่วนปันปันก็ไม่ได้เอะใจอะไรส่งยิ้มตอบก่อนจะผลักประตูเข้าไปด้านใน
“คนไข้คะ เมื่อกี้วัดความดันไปแล้วนะคะ งั้นฉันจะได้ผ่านขั้นตอนนี้ไปเลย แต่ขอทราบความดันเมื่อครู่หน่อยนะคะว่าความดันเท่าไหร่ พอดีต้องบันทึกไว้ในประวัติค่ะ” น่านฟ้าเลิ่กลั่ก ความดันเท่าไหร่วะเนี้ย เมื่อกี้ก็ดันขึ้นดันลงอย่างเดียวเลย เอาไงทีนี้?
“เอ่อ...จำไม่ได้เลยครับ คนเมื่อกี้ไม่ได้บอก” อะโยน ปาขี้ไปให้นางพยาบาลเสียอย่างนั้น
“อ่า...งั้นฉันขอวัดให้ใหม่แล้วกันค่ะ”
“ครับ...”
“โอ๊ะ คนไข้มีรอยช้ำที่คอด้วยนี่คะ เมื่อวานก็มีหรอคะทำไมฉันไม่เห็นเลย” ปันปันถามด้วยความสงสัย ด้วยความไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่กลับทำเอาน่านฟ้ารู้สึกประหม่า แต่คนเจ้าเล่ห์แบบเขาเอาตัวรอดเก่งอยู่แล้ว
“อ้อ...มันมีอยู่แล้วครับ สงสัยเมื่อวานตอนเกิดอุบัติเหตุ มีของแข็งกระแทกมั้งครับ เมื่อวานหมอก็เป็นลมไปด้วยคงไม่ได้สังเกต” น่านฟ้าแถ
“แล้วรู้สึกเจ็บไหมคะ” มือเล็กที่สวมถุงมือเอื้อมไปแตะๆ กดๆ เบาๆ ก่อนจะถามอาการ ทำเอาร่างสูงรู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้า หมอเขาอ่อนโยนแบบนี้เองหรอ
“ไม่ครับ”
“ค่ะ ค่าความดันปกตินะคะ ส่วนผลเอกซเรย์ออกมาแล้วร่างกายปกติดีทุกอย่างค่ะ พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้วนะคะ ส่วนคนไข้ที่เป็นเพื่อนของคุณ ตอนนี้รู้สึกตัวแล้ว แต่อาจจะต้องพักฟื้นและดูอาการยาวหน่อย อยากไปเยี่ยมไหมคะ”
“อ้อ ผมไปมาแล้วครับ”
“งั้นไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวนะคะ” ปันปันส่งยิ้มให้จากนั้นก็เดินออกจากห้องไป
“ฟู่ว เกือบชิบหายแล้วน่านเอ้ย” เขาเอ่ยบอกตัวเอง แอบโล่งอกหน่อยที่ปันปันไม่ได้สงสัยรอยที่คอของเขา
“ทำรอยทำไมวะเนี่ย เวรเอ้ย!!” น่านฟ้ายืนสบถอยู่หน้ากระจก มองรอยที่คอของตัวเองที่ค่อนข้างใหญ่ ดีนะที่แถแล้วปันปันเชื่อ
ตกเย็น...
“หมอครับ”
“คะ?”
“คืนนี้...” น่านฟ้าอึกอัก ทำทีกังวล และอยากที่จะให้ปันปันมานอนเฝ้าไข้เขาอีก
“วันนี้คงไม่ได้นะคะ เอ่อ...เดี๋ยวฉันให้พยาบาลท่านอื่นมาดูแลแทนได้ไหมคะ...”
“...ครับ” น่านฟ้าตอบด้วยใบหน้าเศร้าๆ ตั้งใจปั้นหน้าให้ปันปันรู้สึกเห็นใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ผล
แกร๊ก แอ๊ด!
“พี่น่าน~” เสียงหวานใสของใครบางคนดังถึงจากด้านหลัง “พี่ปัน สวัสดีค่า” จากนั้นก็หันไปทักทายปันปันด้วยรอยยิ้มสดใส
“สวัสดีจ่ะ ตามสบายนะ แล้ว...ปลื้มล่ะ?” ปันปันถาม เพราะช่วงนี้เห็นปลาบปลื้มตามอัญชันแจเลย และเธอรู้ดีว่าเป็นเพราะอะไร
“เดี๋ยวมาค่ะ เห็นบอกไปเข้าห้องน้ำ” อัญชันตอบ ก่อนจะเอากระเช้าผลไม้ไปวางไว้ “เจ็บมากไหมคะ ทำไมไม่บอกอัญ อัญจะได้มาดูแล”
“ไม่เป็นไรหรอก อยู่นี่พี่มีคนดูแลแล้ว หมอพยาบาลที่นี่ก็น่ารักดูแลดีด้วย” ว่าแล้วก็ปรายตาไปมองปันปันที่เก็บอุปกรณ์ทำแผล
“งั้นฉันขอตัวนะคะ” แล้วปันปันก็เดินออกจากห้องไปทันทีปล่อยให้ทั้งคู่ได้มีเวลาส่วนตัว
“ปลื้ม!!”
“เอ้าปัน อัญชันล่ะ?” ปันปันเบะปากมองบน
“เจอหน้ากันก็ถามหาคนอื่นเลยนะ ปันน้อยใจแล้ว”
“ทำเป็นนอย เย็นนี้ไปนอนบ้านด้วยนะคุณแม่คิดถึง”
“รู้แล้ว งั้นปันไปทำงานก่อนนะ เดี๋ยวโดนพี่หมออาร์ตบ่นอีก”
“ฟ้องคุณพ่อเลย”
“ไม่เอาอ่า เดี๋ยวจะหาว่าใช้เส้นสายอีก วุ่นวาย ปันไปนะ” มือเล็กตบที่บ่าน้องชายที่เกิดหัวปีท้ายปี ก่อนจะเดินออกไปทำหน้าที่ของตัวเองที่ยังคลั่งค้างอยู่ในวันนี้
ภายในห้องพักฟื้น102
แกร๊ก แอ๊ด!!
“อัญชัน เสร็จยังเนี้ย” ปลาบปลื้มเอ่ยถามอัญชันที่เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ปอกผลไม้ให้น่านฟ้า ทำเอาปลาบปลื้มกลอกตาด้วยความหมั่นไส้
“...” น่านฟ้ามองตามเสียงทักก็หันไปมอง พร้อมกับเลิกคิ้วมองด้วยความแปลกใจ มันเข้ามาทำอะไร? ถ้าจำไม่ผิด มันเป็นแฟนหมอปันปันนี่ แล้วทำไมสนิทสนมกับอัญชัน หรือมันคิดที่จะจับปลาสองมือ? โคตรไม่ชอบหน้ามันเลย เห็นแล้วไม่ถูกชะตา แล้วยิ่งตอนนี้มันมองเขาเหมือนกับจะกินหัว
“ไหนบอกจะรอข้างนอก” อัญชันเอ่ยถามแล้วชักสีหน้านิดๆ “พี่น่านขา อัญป้อนค่ะ” มือเล็กหยิบแอปเปิลที่ปอกแล้วจ่อไปที่ปากน่านฟ้า
หมับ!!
“หืม อร่อย หวานอ่ะ ซื้อที่ไหน” ปลาบปลื้มคว้าแอปเปิลชิ้นนั้นมาเคี้ยวอย่างไร้มารยาท ทำให้น่านฟ้ารับรู้ได้ทันทีว่าไอ้หมอนี่มันประกาศศึกกับเขา หึ! รู้จักคนอย่างน่านฟ้าน้อยไป ไอ้ไก่อ่อน
“ไอ้ปลื้ม มาแย่งของคนป่วยกินได้ไง”
“ก็อยากกิน กลับได้แล้วไป จะหายแล้วไม่ใช่หรอ? กินเองได้มั้งไม่ต้องป้อนหรอก แค่แผลถลอกไม่ได้พิการ” ปลาบปลื้มเอ่ยเสียงกระแทก
“ปลื้ม!! ขอโทษด้วยนะคะพี่น่าน พอดีเพื่อนปากเสียไปหน่อย”
“อ้อ...เพื่อน!!” น่านฟ้าย้ำแล้วกระตุกคิ้วกวนๆ ใส่ปลาบปลื้ม
“ค่ะเพื่อน ไม่รู้จะมาด้วยทำไม มาค่ะอัญป้อน” แล้วอัญชันก็หยิบแอปเปิลชิ้นใหม่มาป้อนน่านฟ้า ร่างสูงรีบงับแอปเปิลเข้าปากไปเคี้ยวทันที หึ ดูสิว่าถ้าผู้หญิงเขาไม่เล่นด้วยจะหน้าด้านอยู่ไหม
“เดี๋ยวอัญจะกลับแล้ว พรุ่งนี้อัญจะมาเยี่ยมใหม่นะคะ” ร่างเล็กเอ่ยบอกเสียงใส
“พรุ่งนี้พี่ออกจากโรงพยาบาลแล้วครับ ไว้ไปดูหนังกันนะ” น่านฟ้าออกปากชวน และไม่วายที่จะไปยกยิ้มกวนๆ ใส่ปลาบปลื้มที่นั่งจ้องเขาตาเขม็งอยู่ที่โซฟา
“งั้น...พรุ่งนี้อัญมารับนะคะ”
“ไม่รู้จะมารับทำไม” ปลาบปลื้มเอ่ยลอยๆ แต่กลับได้สายตาค้อนๆ ของอัญชันกลับไปแทน
“ครับ แล้วเจอกันครับ แต่งตัวน่ารักๆ เลยนะ” น่านฟ้าเอ่ยเสียงหวาน ไม่วายยักคิ้วกวนประสาทให้ปลาบปลื้มอีกครั้ง จากนั้นอัญชันก็ขอตัวกลับ ตามด้วยปลาบปลื้มที่ตามออกไปติดๆ
“แม่งกวนส้นตีนชิบ!!” น่านฟ้ากล่าว
“กะจะควบ2เลยไงไอ้เวร ฝันไปเถอะ กูจะขัดมึงทุกคนเลยคอยดูสิ!!”