คิดซะว่าน้ำแดง

1404 Words
“ไปแล้วนะ ทีหลังโทรบอกไอ้ป้องบ้าง ทำไมชอบใช้ปลื้มอยู่เรื่อยเลย” “โอ๋ๆ ไว้ปันจะพาไปเลี้ยงหนังนะ โอเคไหม?” ปันปันกล่าวเสียงอ่อน เสียงหวาน พร้อมกับซบใบหน้าไปที่ไหล่ของปลาบปลื้มเบาๆ เชิงอ้อน “พรุ่งนี้เช้าถ้าออกเวรเดี๋ยวมารับนะ คุณแม่อยากเจอ” “โอเค ขับรถดีๆ ล่ะ” น่านฟ้ามองสองหนุ่มสาวที่พูดจาสนิทสนมกัน แถมไอ้หมอนั่นก็หน้าตาดีเสียด้วยสิ คุณหมอชอบแบบนี้หรอวะ ดูกวนตีนชิบหาย! น่านฟ้าคิด ปึ้ง!! เสียงประตูห้องปิดลงตามด้วยปันปันที่ถือกระเป๋าเข้าไปในห้องน้ำ “คนไข้อยู่ได้ใช่ไหมคะ” “เอ่อ...ครับ อย่านานนะครับ” น่านฟ้ากล่าวด้วยท่าทีหวาดหวั่นนิดๆ แต่ทันทีที่ห้องน้ำถูกปิดลง น่านฟ้าก็ยกยิ้มร้ายทันที แผนกลัวผีใช้ได้ผล!! และใช่เขาไม่ได้กลัวผีจริงๆ คนแบบเขานะหรอจะกลัวอะไรไร้สาระแบบนั้น ตั้งแต่เล็กจนโต เขาแทบจะต้องอยู่คนเดียวมาตลอด เรื่องแค่นี้ทำอะไรคนอย่างน่านฟ้าไม่ได้หรอก มันก็เป็นแค่แผนหลอกล่อทำให้สาวๆ เห็นใจและสงสารเขาแค่นั้นเอง แกร๊ก แอ๊ด! ผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงปันปันก็ออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนเสื้อแขนยาวกางเกงขายาว ผมเป็นลอนยาวถูกปล่อยสยายสวยงาม ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้ม ที่ตอนนี้เปลือยใบหน้าจนไม่เหลือเครื่องสำอางบนใบหน้า ถึงอย่างนั้นกลับทำให้เธอดูยิ่งน่ารักหน้าทะนุถนอมเข้าไปอีก กลิ่นกายหอมๆ โชยเข้ามาในโสตประสาทของร่างสูงที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง ทำเอาต้องละสายตาจากหน้าจอไปมองอย่างกับถูกมนต์สะกด” “ยังไม่นอนอีกหรอคะ” เสียงหวานเอ่ยถาม “กำลังจะนอนแล้วครับ” ปันปันพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะเอนตัวลงไปนอนที่โซฟา “ฝันดีนะคะ” ปันปันกล่าวพร้อมกับยิ้มสดใสให้น่านฟ้า ทำเอาน่านฟ้าเคลิ้มไปเลย เช้าวันต่อมา... น่านฟ้าลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าปันปันอยู่ในชุดนักศึกษาพร้อมกับทับด้วยเสื้อกราวด์ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ จากกายสาวโชยเข้ามาในโสตประสาทของเขาจนทำให้ตื่น “อรุณสวัสดิ์ค่ะ” “ดีจังเลย มีคนทักทายตอนเช้าด้วย” น่านฟ้ากล่าว “ทำแผลกันนะคะ” ปันปัน เดินไปเข็ญอุปกรณ์ทำแผลมาหยุดอยู่ที่ข้างเตียง ก่อนจะค่อยๆ พยุงร่างของน่านฟ้าให้นั่งในท่าที่เหมาะสม ร่างเล็กเริ่มเหงื่อซึมเล็กๆ รู้สึกประหม่าที่จะต้องเปิดแผลของน่านฟ้าที่ข้อศอก และน่านฟ้าก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติ “ยังกลัวอยู่หรอ?” “...ขอโทษค่ะ...คือ...” “คิดซะว่าเป็นน้ำแดงสิครับ” น่านฟ้าพยายามหาวิธีทำให้เธอคลายกังวล “น้ำแดง?” “แค่น้ำแดงเลอะแขน อย่าคิดมากสิครับ” ปันปันคิดตาม ก่อนจะค่อยๆ แกะผ้าพันแผลของเขาออกด้วยมือที่สั่นเทา ตั้งแต่เริ่มมาทำงานที่นี่ เธอไม่เคยที่จะได้สัมผัสกับแผลคนไข้เลยแม้แต่คนเดียว ส่วนใหญ่จะทำแค่ ตรวจร่างกายตามอาการ จัดยา วัดความดัน เป็นงานทั่วๆ ไปของพยาบาล นี่นับเป็นครั้งแรกเลยที่ต้องมาทำแผล พอเปิดแผลออก ปันปันก็รู้สึกหายใจติดขัด มองแผลที่มีเลือดแห้งๆ ที่ข้อศอกของน่านฟ้า ร่างเล็กพยายามข่มใจตัวเองเอาไว้ไม่ให้กลัว ไม่ให้ภาพวันวานที่ติดตาเธอเข้ามาทำลายสมาธิของเธอได้ น่านฟ้ามองปันปันนิ่ง พยายามสังเกตท่าทีของเธอ และพยายามเก็บทุกรายละเอียด “น้ำแดง มันคือน้ำแดง แค่คิดว่ามันคือน้ำแดง แล้วความกลัวจะหายไป” น้ำเสียงโทนอุ่นเอ่ยขึ้นเบาๆ มันทำให้เธอใจชื้นขึ้นมา “...ขอบคุณนะคะ” ปันปันกล่าว เมื่อเธอมองว่ามันคือน้ำแดงสุดท้าย เธอก็ทำความสะอาดแผลให้น่านฟ้าจนเสร็จ โชคดีที่เลือดไม่ได้ซึมออกมาเยอะ มีแค่ซิบๆ บนปากแผลตอนเช็ดแล้วทายาฆ่าเชื้อ แล้วแผลแต่ละจุดมันก็เป็นแค่แผลถลอกเท่านั้นเลยทำให้เธอผ่านมันไปได้ แต่ก็ยังคงรู้สึกกลัวและประหม่าอยู่เล็กๆ “เก่งมากครับ คุณหมอ” น่านฟ้ากล่าวชมพร้อมกับระบายยิ้มละมุนให้ปันปัน ก๊อก ก๊อก ก๊อก!! “ไงมึง สภาพ!!” เสียงทุ้มของใครบางคน ทำให้ทั้งคู่ที่เผลอสบตากันเมื่อครู่ หันไปมองที่ต้นเสียงของแขกที่มาใหม่ “ถ้าจะมาด่าก็กลับออกไปเลย” น่านฟ้าบอกเพื่อน “เอ้าพี่อชิ!! สวัสดีค่ะ” ปันปันเอ่ยทักเสียงสดใส พร้อมกับยิ้มตอบ “ทำไมได้มาดูคนแบบมันได้ล่ะปัน” อชิถาม “อ้อ นี่เพื่อนพี่อชิหรอคะ” “ใช่ มันพูดมากหรือเปล่า ถ้ารำคาญก็โปะยาสลบมันเลยนะ” “แหะๆ งั้นเชิญตามสบายนะคะปันขอตัวก่อน” ปันปันโค้งตัวให้อชิก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ซึ่งแน่นอนว่าน่านฟ้ามองปันปันจนลับสายตา โดยไม่รู้เลยว่าอชินั้นแอบลอบมองสังเกตการณ์อยู่ “แฮ่ม!! มองขนาดนั้นไม่ตามเขาไปเลยล่ะ” “ได้หรอ?” “กูประชด!!” “มึงรู้จักน้องเขาได้ไง ทำไมไม่เคยบอก?” “ลูกสาวเพื่อนพ่อน่ะ อย่าบอกว่าสนใจ?” อชิเลิกคิ้วมอง “ก็ น่ารักดี แต่เหมือนน้องจะมีแฟนแล้ว กูไม่นิยมเอามั่วด้วยดิ” “ปันเนี้ยนะมีแฟน? คนคุยเฉยๆ เปล่า?” อชิกล่าว “ไม่รู้ว่ะ เมื่อคืนตอนน้องเฝ้ากู แฟนน้องเขาเอาเสื้อผ้ามาให้กลางดึก” “หรอ?” “มึง ช่วยกูหน่อยดิ กูชอบน้องเขา” “ชอบ? แล้วน้องจินนี่ล่ะ มึงคั่วอยู่ไม่ใช่หรอ พยาบาลฝ้ายอีก” “ก็ถ้าได้คนนี้ ก็จะเลิก มึงก็รู้ สองคนนี้กูเอาแก้เ****น” “กูขอไม่ยุ่งแล้วกัน แต่อยากให้คิดดีๆ ก่อนที่จะทำอะไร ถ้าแค่เล่นๆ กูไม่แนะนำ” “กูไม่ได้เอามั่วเหมือนมึง ไม่ต้องมาสอน” “เอามั่วอะไร นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้กูแต่งงานแล้ว รอแค่กังหันเรียนจบปีหน้ากูก็จะมีลูกเลย” “แล้วมึงไม่คิดว่ากูก็อยากมีครอบครัวบ้างล่ะ” “คนแบบมึงเนี่ยนะอยากมีครอบครัว?” อชิจ้องมองเพื่อนนิ่ง แววตาของน่านฟ้าเปลี่ยนไป ไม่ได้ดูเจ้าเล่ห์อย่างเช่นทุกครั้ง แต่กลับดูเหมือนมีอะไรในใจที่อธิบายไม่ได้ และแน่นอนเขาเป็นเพื่อนเขาย่อมรู้ แต่แค่ไม่ไปพูดจี้จุดเท่านั้นเอง “คนทุกคนย่อมอยากตามหาส่วนที่ขาดหาย มึงไม่เข้าใจหรอก เพราะมึงไม่เคยขาด” น่านฟ้ากล่าว น่านฟ้าเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย พ่อเปิดบริษัทส่งออกรถยนต์ มีหลายสาขา เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังบูมระดับต้นๆ ของประเทศ แล้วยิ่งช่วงนี้ต้องขยายสาขาไปที่ภาคเหนือของประเทศยิ่งแล้วใหญ่ ยุ่งชนิดที่ลูกเข้าโรงพยาบาลก็ไม่มาเยี่ยม ส่งแค่กระเช้ามาให้แค่นั้น ตั้งแต่เล็กจนโตน่านฟ้าถูกเลี้ยงด้วยเงินมาตลอด มีทุกอย่างแต่ดันเป็นเด็กที่ขาดความรักและการดูแล เอาง่ายๆ ก็ขาดความอบอุ่นนั่นแหละ เขาเลยโหยหาความรักจากครอบครัวมากๆ หลายคนที่เข้าหาเขาก็เพื่อเงินของเขา แล้วคนแบบเขาสนไหม ก็ไม่!! เงินมันเหลือๆ อยู่แล้ว ขอแค่ได้จิ้ม ไม่มีประวัติเน่าๆ หรือมีเจ้าของเขาก็โอเค “กูเข้าใจมึงนะน่าน แต่กูก็ไม่ได้อยากให้มึงไปทำร้ายคนดีๆ แบบปันปัน” “กูไม่เคยร้ายกับใครก่อน” “...เรื่องของมึงนะ...แต่มึงรู้ใช่ไหมว่าอัญชัน...” “กูไม่ได้ชอบอัญชันไง บอกไปแล้ว” น่านฟ้าบอกอชิไปตามตรง “ถ้างั้นมึงก็ควรบอกให้ชัดเจน อัญชันจะได้ตัดใจ ดีเหมือนกันถ้ามึงมีแฟนน้องกูจะได้ไปเจอคนอื่น” น่านฟ้ามองหน้าอชิ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ “ออกไปได้แล้ว กูจะพักผ่อน” อชิพยักหน้ารับ แต่เพียงไม่นานก็มีพยาบาลสาวสวยเปิดประตูเข้ามา และนั่นก็ทำให้อชิรู้ได้ทันทีว่าไม่ได้พักผ่อนหรอก มันน่าจะทำอย่างอื่น “มึงนะมึงไอ้เชี้ยน่าน!” “แก้ขัด!” “แก้บ่อยนะมึง” “เสือก ออกไปก็ล็อคด้วย!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD