องค์หญิงดาเนียนั้นขึ้นชื่องดงาม ความงดงามที่มิอาจละสายตาไปจากใบหน้าที่พระเจ้าทรงปั้นได้เลยเมื่อเธอปรากฏตัว ผมยาวสลวยสีบรอนซ์ทอง ดวงตากลมโตแวววาวราวกับอัญมณี แก้มสีชมพูระเรื่อ ริมฝีปากเชิดรั้นขึ้นมาอย่างเอาแต่ใจรับพอดีกับจมูกที่โด่งเป็นสัน
ในคราเป็นที่ดาเนียเป็นดรุณีน้อย องค์จักรพรรดิทรงมีรับสั่งให้จิตรกรมากมายเดินทางเข้ามาในพระราชวังเพื่อวาดภาพองค์หญิงที่แสนจะงดงามราวกับนางฟ้าตัวน้อย...
และความงดงามของดาเนียนั้นได้รับสืบทอดมาจาก จักรพรรดินีคลาร่า องค์จักรพรรดิตกหลุมรักคลาร่าตั้งแต่แรกพบ ศรของเทพแห่งความรักปักลงบนหัวใจที่แห้งแล้งของบุรุษผู้สูงศักดิ์
ความงามลึกล้ำที่สะกดสายตาผู้มอง
"น่าแปลกที่องค์หญิงเดินทางมาหาแม่"
ใช่เธอก็คิดว่ามันแปลกเหมือนกันที่คนเป็นแม่ไม่เดินทางไปหาลูกเลย ในชีวิตครั้งที่แล้วเธอไม่ทันได้คิดเรื่องนี้เพราะดาเนียคิดว่าไม่มีแม่ก็ไม่เป็นไร เธอจะยังมีพ่อที่รักเธอมากกว่าใครอยู่
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว
"ออกไป...ให้หมด!"
จักรพรรดินีปรายตามองหน้าลูกสาวที่วันนี้ให้บรรยากาศแตกต่างจากเดิม นิ้วมือเรียวยาวนั้นยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่มพร้อมกับกำลังรอฟังเรื่องสำคัญที่ลูกสาวของเธอจะกล่าวออกมา
"เสด็จแม่เพคะ เหตุใดพระองค์ถึงไม่เดินทางไปหาลูกบ้าง?"
"มาเรียกร้องความสนใจอะไรกันองค์หญิง มันไม่ช้าไปหน่อยงั้นหรือ เจ้าอยู่ในวัยสาวที่งดงามสะพรั่งมิใช่วัยเด็กน้อยที่จะมาโวยวายของความรักจากข้า"
ภาพที่เสด็จแม่ถูกเสด็จพ่อฆ่าตายในคมดาบเดียวนั้นยังคงติดค้างอยู่ในหัวอย่างชัดเจน แวบหนึ่งในความคิดเธอคิดว่าจะมาพาเสด็จแม่หนีไปด้วยกัน เพื่อหลบเลี่ยงความตายที่จะคืบคลานเข้ามาหา
"ลูกมีเรื่องอยากจะสอบถาม และหวังอย่างยิ่งว่าเสด็จแม่จะตอบมาตามความจริง"
"หากคำตอบนั้นทำให้องค์หญิงออกไปจากที่ได้โดยไว แม่ก็ยินดีที่จะตอบ"
รังเกียจกัน ถึงเพียงนั้นเชียวหรือ? หากเธอไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของเสด็จพ่อ เช่นนั้นเสด็จแม่ก็ควรจะรู้สิว่าเธอไม่มีใครแล้ว ชีวิตนี้ของเธอมีเพียงท่านแม่คนเดียว
แล้วเหตุใดถึงยังเลือกจะหันหลังให้ลูกสาวคนนี้อีก?
ดาเนียก้มหน้าลง เธอพยายามกะพริบตาถี่ๆ เพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกสติ
"ลูก...มิใช่องค์หญิงใช่ไหมเพคะ ลูกไม่ใช่ลูกของเสด็จพ่อ..."
"หุบปากเดี๋ยวนี้นะดาเนีย! เสียสติไปแล้วหรืออย่างไร"
"เสด็จแม่รับปากแล้วว่าจะตอบมาตามตรง เช่นนั้นก็ตอบลูกมาสิเพคะ!"
จักรพรรดินีคลาร่าปาแก้วน้ำชาในมือลงพื้นจนมันกระจายไปทั่ว แก้วน้ำชาที่แสนสวยงามแตกออกเป็นเสี่ยงๆเหมือนกับหัวใจของดาเนียในยามนี้
"เพล้ง!!!"
"ออกไป!..แล้วอย่ามาที่นี่อีกหากว่าข้ามิได้เรียกหา"
ดาเนียหัวเราะ เธอหัวเราะทั้งๆ ที่ดวงตานั้นรื้นไปด้วยหยาดน้ำตา คำตอบมันชัดเจนแล้ว ทุกคำตอบมันชัดเจนจากการกระทำของเสด็จแม่หมดแล้ว แววตาที่สั่นไหวยามที่เธอหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด เสด็จแม่ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อนเพราะการเป็นจักรพรรดินีจะต้องสำรวมกิริยาท่าทาง การที่เสด็จแม่สติแตกเช่นนี้มันชัดเจนยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
"ลูกจะหนีไปเพคะ หนีไปให้ไกลจากเสด็จแม่ที่ใจร้าย และพระราชวังที่แสนเจ็บปวดแห่งนี้!"
"เจ้าหนีไปไม่ได้นะองค์หญิง เจ้าจะต้องอยู่ที่นี่ ในที่ของเจ้า!"
ยังต้องอยู่ที่นี่เพื่ออะไรล่ะ อยู่เพื่อรอความตายอีกงั้นหรือ?
ดาเนียมิได้กล่าวคำใดออกมา เธอเลือกที่จะเดินออกไปจากที่นี่แล้วรีบวิ่งไปที่พระราชวังเซลาฟิมของท่านพี่ไคแลน
เธอไม่ควรลังเลอีกแล้ว ต้องเริ่มต้นแผนการเดี๋ยวนี้เลย!
ไคแลนยกมือขึ้นมาโอบกอดดาเนียที่กำลังวิ่งเข้ามาหาเขา เธอดูบอบบางราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ ดวงตากลมโตทั้งสองข้างแวววาวและคลอเคลียไปด้วยหยาดน้ำตาที่กำลังจะเอ่อล้นออกมา
"มีสิ่งใดที่ทำให้เจ้าเสียใจกัน ดาเนียของพี่"
รอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนของเขาทำให้เธอรู้สึกแปลกใจ เธอหลับตาลงช้าๆ ก่อนจะซบลงที่ตรงอกแกร่งของเขา
"..ไปพบเสด็จแม่มาอย่างนั้นหรือ?"
"เพคะ"
เธอคิดเป็นร้อยรอบเรื่องการบอกความจริงกับเขา การเป็นน้องสาวนั่นอาจจะทำให้ไคแลนและเธอมีช่องว่างระหว่างความสัมพันธ์ของเรา
ต้องทำให้ช่องว่างนี้หายไปก่อนเขาถึงจะยินยอมช่วยเหลือเธอแบบทุ่มสุดตัว เธอจำเป็นจะต้องบอกกล่าวความจริงกับเขา ความเสี่ยงนี้จะทำให้ช่องว่างระหว่างเราหายไป
คราวนี้เขาจะช่วยเธอหรือลงมือฆ่าเธอ เรื่องนี้ก็จะต้องมารอลุ้นกันอีกรอบ
"หากข้าบอกกล่าวเรื่องที่ข้ากำลังเสียใจกับพี่ พี่จะ...ช่วยเหลือหรือจะทอดทิ้งข้าไปคะ?"
รู้แล้วงั้นหรือ? ดูจากท่าทางที่แสนทรมานของดาเนียในตอนนี้นางคงจะรู้ความจริงจากปากของจักรพรรดินีแล้วว่านางไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของท่านอา...
"ดาเนีย เจ้าคือน้องของพี่ แน่นอนว่าต่อให้เจ้าจะเป็นเช่นไร ที่ข้างๆ พี่นั้นเว้นเอาไว้เพื่อเจ้าเสมอ พี่คนนี้จะคอยช่วยเจ้าเอง ด้วยทุกสิ่งทุกอย่างทุกอำนาจที่พี่มี..."
หัวใจของเธอกำลังเต้นแรง ดาเนียนั่งลงบนตักของไคแลนเธอยกมือขึ้นมากอบกุมใบหน้าที่หล่อเหลาและเย็นชาของเขาพร้อมกับพรมจูบเบาๆ ไล่ไปตามสันกราม
เขาโอบกอดเอวของเธอเอาไว้หลวมๆ นี่คือความใกล้ชิดที่เกินพอดีของคำว่าพี่น้องไปแล้ว
"ที่จริงแล้วข้าไม่ใช่.."
เขานิ้วชี้ขึ้นมาวางทาบบนริมฝีปากของเธอราวกับจะบอกให้เธอหยุดยั้งคำพูดที่กำลังจะกล่าวออกมา
"....พี่รู้ดาเนีย พี่รู้ว่าเจ้ากำลังเป็นทุกข์เรื่องอะไร ไม่ต้องบอกกล่าวความจริงกับพี่หรอกนะ บอกเพียงแค่ว่าในยามนี้เจ้าต้องการสิ่งใดก็พอ"
รู้แล้ว...งั้นหรือ? ไคแลนรู้เรื่องที่เธอเป็นองค์หญิงตัวปลอมแล้วงั้นหรือ เขารู้ได้อย่างไรกัน?!!
ถึงจะตกใจแต่ดาเนียนั้นต้องตั้งสติ เธอยกยิ้มขึ้นมาพร้อมกับขบกัดที่ปลายคางของเขาเบาๆ
"หากความต้องการของข้าคือการนอนร่วมเตียงกับพี่เล่า...."
ไคแลนจ้องมองไปในดวงตาของเธอ เขาหอมแก้มเธอเบาๆ ราวกับขนนกปัดผ่าน
"ดาเนีย พี่บอกกล่าวกับเจ้าไปแล้วว่าเจ้าเป็นของพี่ เรื่องเช่นนี้ไม่ต้องรีบร้อนหรอก จงใช้ชีวิตในฐานะองค์หญิงของจักรวรรดินี้เช่นเดิม ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอำนาจในมือเจ้าก็จะยังคงอยู่"
เธอก้มหน้าลงไปแอบอิงแนบอกของไคแลน ดาเนียถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอเพียงแค่ทำทีกล่าวไปว่าจะนอนกับเขาเท่านั้น เอาเข้าจริงเธอในตอนนี้ไม่มีจิตใจจะไปร่วมเตียงกับใครหรอก!
"เพียงแต่เจ้าอย่าลืมก็แล้วกันดาเนีย ว่าเจ้าคือของพี่"
เธอไม่มีทางลืมแน่นอนว่าเธอคือตุ๊กตากระเบื้องเคลือบที่แสนงดงามในตู้โชว์ของเขา หน้าที่ของเธอคือการทำตัวอ่อนแอและเปราะบางเพื่อให้เขาเชื่อว่าตุ๊กตาตัวนี้จะยังคงอยู่ในตู้โชว์ของเขาต่อไป..
ดาเนียรู้ดีว่าเธอกำลังเล่นกับไฟ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ