“แล้วแปลกตรงไหนถ้าพ่อจะคัดสรรคนที่จะเข้ามาทำงานใกล้ชิดด้วยตัวเอง”
“ค่ะ ไม่แปลก” นิ่งอยู่กึ่งอึดใจ ก่อนจะพูดต่อ “เพียงแต่ว่า...”
ทิราภามองบิดาด้วยสายตาครุ่นคิด
“หนูแค่อดรู้สึกไม่ได้ว่าพ่อทำอะไรผิดปกติวิสัย ปกติพ่อไม่เคยยุ่งเรื่องรับคนเข้าทำงาน แต่รายนี้ดูเหมือนจะพิเศษ”
“พ่อก็แค่อยากจะลองเลือกคนที่ต้องทำงานใกล้ชิดด้วยตัวเองก็เท่านั้นแหละ เห็นว่ามีคุณสมบัติตามที่พ่อต้องการก็รับไว้”
ถึงบิดาจะพยายามพูดให้เห็นว่า ‘ไม่มีอะไรในกอไผ่นอกจากหน่อไม้’ ทิราภาก็ยังรู้สึกอยู่ดีว่า ‘ในกอไผ่มีมากกว่าหน่อไม้’ แต่จะเซ้าซี้ก็คงไม่ได้คำตอบจริงๆ
บิดาของเธอนั้นนับเป็นนักธุรกิจระดับแถวหน้าของเมืองไทย แม้ว่าในสายตาคนในแวดวงธุรกิจด้วยกันไม่ได้มอง วาที รัตนกุลชรเป็นเพียงพ่อค้าที่ประสบความสำเร็จ แต่มองว่าเขาคือพ่อมดแห่งวงการอุตสาหกรรมไทย
ด้วยวัยเพียงยี่สิบสามเมื่อเขาก่อตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดรัตนกิจ ผลิตปุ๋ยจากมูลค้างคาวออกจำหน่าย สามปีให้หลังกิจการของเขาก็ครอบคลุมการผลิตยาฆ่าแมลงชนิดต่างๆ จากพืชธรรมชาติ ไม่กี่ปีต่อจากนั้นเขารุกเข้าสู่ตลาดเคมีภัณฑ์อย่างเต็มตัว ‘ห้างหุ้นส่วนจำกัด รัตนกิจ’ ได้กลายเป็น ‘รัตนกิจอุตสาหกรรม’ มีขอบข่ายงานกว้างและลึก ผลิตภัณฑ์ที่ถูกผลิตออกจำหน่ายมีนับไม่ถ้วนประเภทและชนิด มีห้องทดลองทันสมัยใหญ่โต มีเครื่องมือต่างๆ สำหรับงานวิจัยค้นคว้าครบครัน
ปีที่ผ่านมานี้เองรัตนกิจอุตสาหกรรมได้สร้างความฮือฮาด้วยการประกาศถึงความสำเร็จเกี่ยวกับการทดลองวิจัย สร้างเม็ดพลาสติกเทียมที่สามารถย่อยสลายได้ภายในระยะเวลารวดเร็วกว่าการย่อยสลายของพลาสติกที่ใช้กันอยู่ทั่วไปถึงแปดสิบเท่า
ทิราภากำลังจะลุกกลับออกไป เมื่อมีเสียงเคาะประตูเบาๆ
ผู้ที่เยี่ยมหน้าเข้ามาเป็นหญิงสาววัยสามสิบกลางๆ
วาทีเลิกคิ้ว เมื่อเห็นเลขาส่วนตัวเหลือบมองบุตรสาวของเขาแล้วทำท่าลังเล
เมื่อรับจิรางค์ ภัทรไชย เข้ามาทำหน้าที่แทนสมสุข สว่างศรี เขาไม่ได้คาดหวัง ว่าหญิงสาวจะมีความสามารถทัดเทียมเลขาคนเก่าที่ร่วมงานกับเขามาตั้งแต่เขาเริ่มก่อตั้งบริษัท แต่หญิงสาวก็พิสูจน์ตัวเองได้ภายในเดือนแรกว่าหล่อนคือเลขาทรงประสิทธิภาพคนหนึ่ง
ถ้าจะแตกต่างจากเลขาคนเก่าของเขาที่ขอเกษียณตัวเองออกไปเลี้ยงหลานอยู่กับบ้าน ก็คงเป็นที่วัยกับรูปร่างหน้าตา
นอกจากอายุน้อยกว่าสมสุข หล่อนยังมีรูปร่างหน้าตาสะสวยชวนมอง
พูดจริงๆ บ่อยครั้งมากเลยละที่เขาเห็นว่าเลขาของเขาคนนี้ นอกจากจะหน้าตาอ่อนเยาว์กว่าอายุสักสิบปี หล่อนยังมีความงามเย้ายวนภายใต้ท่าทีเอาการเอางาน
เขาคิดว่าหล่อนคงตกใจอาจถึงขั้นลาอออกจากงานไปเลยก็ได้ ถ้าได้รู้ว่ากลิ่นกายหอมอ่อนๆ จากเครื่องประทินโฉมสำหรับหญิงสาวของหล่อน ทำให้เขาเกิดอาการตื่นตัวทางเพศ
หลายครั้งยามมองหล่อนหันหลังเดินออกประตู หลังจากรับคำสั่งเรื่องงานจากเขาเรียบร้อย ขณะมองแผ่นหลังตั้งตรงระเรื่อยลงมาที่สะโพกกลมผาย มายังเรียวขายาวงามบนรองเท้าส้นสูง เขาถึงกับปวดหนึบแก่นกายชายที่ปรารถนาจะได้รับการปลดปล่อยความเครียดจากราคะที่พุ่งขึ้นมา
“ท่านประยุทธ์โทรมาค่ะ ท่านจะรับสายเลย หรือว่า...”
จิรางค์ชะงักการรายงาน เหลือบมองบุตรสาวนายจ้างอีกแวบ
“เรียนท่านเดี๋ยวผมโทรกลับ”
“ได้ค่ะ”
ทิราภาถามขึ้นทันทีที่เลขาหน้าห้องของบิดาผลุบกลับออกไปพร้อมดึงประตูปิดให้อย่างเรียบร้อย
“ท่านประยุทธ์ที่ว่านี้คงไม่ใช่ท่านรัฐมนตรีกลาโหมคนปัจจุบันหรอกนะคะ”
“เผอิญว่าใช่ เอาละ หนูหมดธุระกับพ่อแล้วใช่มั้ย” วาทีพูดเรื่อยๆ ด้วยน้ำเสียงปกติ
ทิราภาทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างแต่เปลี่ยนใจ ลุกเดินออกประตูไปเงียบๆ
แต่แทนที่จะตรงไปยังห้องทำงานของตน กลับเข้าไปหยุดที่หน้าโต๊ะทำงานเลขาของบิดาแทน
“คุณจิรางค์รู้มั้ยคะคุณพ่อมีธุระติดต่อกับรัฐมนตรีกลาโหมด้วยเรื่องอะไร”
จิรางค์ยิ้มให้หญิงสาววัยอ่อนกว่าเก้าปีด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานก่อนตอบ
“ดิฉันไม่ทราบจริงๆ ค่ะ รู้แค่ว่าท่านรัฐมนตรีฯ ติดต่อมาหลายครั้งตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งซ่อมครั้งหลังสุด ทีแรกดิฉันยังคิดว่าหรือทางพรรคการเมืองที่ท่านรัฐมนตรีสังกัดส่งท่านมาทาบทามคุณพ่อของคุณทิลงเล่นการเมืองอีกคน”
“เลือกตั้งซ่อมล่าสุดผ่านไปหลายเดือนแล้วนี่” ทิราภาตั้งข้อสังเกต “จะว่าติดต่อกันเรื่องธุรกิจ เท่าที่รู้ท่านนายพลประยุทธ์เป็นทหารอย่างแท้จริง หลายบริษัทเคยพยายามทาบทามเชิญท่านไปเป็นที่ปรึกษาบ้างอะไรบ้าง หวังจะอาศัยชื่อและยศตำแหน่งของท่านให้บริษัทของตนเป็นที่น่าเกรงขาม แต่ท่านปฏิเสธหมด ยังให้เหตุผลขำๆ ด้วยว่าถ้าท่านเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจ ก็คงเป็นนายทหารใจซื่อมือสะอาดต่อไปไม่ได้เพราะมัวคิดถึงผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ”
“ดิฉันก็ได้ยินมาอย่างนั้นเหมือนกัน ยังแปลกใจเมื่อท่านลาออกจากราชการมารับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม”
จิรางค์สนับสนุนความเข้าใจบุตรสาวนายจ้าง ก่อนแทรกแง่คิดของตนเข้าไป
“เป็นไปได้มั้ยคะ เมื่อท่านลาออกจากงานราชการ และยังหันมาเล่นการเมืองท่านเริ่มสนใจธุรกิจการค้าขึ้นมา”
“เป็นอย่างนั้นจริงก็แล้วไปเถอะค่ะ กลัวแต่ว่าท่านจะติดต่อคุณพ่อด้วยธุระอย่างอื่นนะสิคะ”