ตอนที่ 9

1434 Words
เมื่อเขาขึ้นมานั่งในรถและเห็นเธอทำแบบนั้น “ทำอะไร” เขาถามทันทีที่เห็นปฏิกิริยาของเธอ “เปล่า เดี๋ยวคนในบ้านคุณจะว่าเอาได้ค่ะ” เธอจะมีหน้าไปมองสบตากับใครได้ ถ้าใครรู้ว่าเธอเร่มานอนกับเขาถึงในบ้านของชายหนุ่ม รถยนต์แล่นผ่านมาตามทางที่โบนิตาบอก ทั้งสองคนแทบจะไม่พูดไม่จากันเลย และเธอเอาแต่สนใจทุกสิ่งที่อยู่บนถนนและข้างทาง “ใกล้ถึงแล้วนะคุณ จอดหน้าทางเข้าเลย คุณไม่ต้องเข้าไปส่งฉัน” เธอรีบบอก เพราะอยากขจัดความยุ่งยากในหัวใจออกไปให้เร็วที่สุด เขาชะลอความเร็ว อ่านป้ายหน้าคอนโดฯ ว่าชื่ออะไร ‘ชารีน่าคอนโดมิเนียม’ แล้วหยุดจอดรถที่ริมฟุตพาท มือน้อย ๆ คอยจับอยู่ที่เปิดประตู หมับ...เขาคว้าร่างของเธอเอาไว้ “เดี๋ยวคุณส้ม” เขาเรียกเธอ “คะ” เธอหันหน้ามา ‘กำลังจะได้ลงรถจะยื้อเอาไว้ทำไม’ ‘หรือว่าจะขอเบอร์โทร. ฉันเพื่อต่อความสัมพันธ์’ “ร้านขายยาอยู่ตรงหน้า อย่าลืมเดินเข้าไปซื้อยาคุมฉุกเฉิน เพราะเมื่อคืนผมปล่อยใน” ‘OMG’ โบนิตาอ้าปาก จะต้องพูดขอบคุณเขาอีกหรือเปล่านี่ “อื้อ...” เธอพยักหน้าหงึก ๆ หน้าออกสีแดง รีบเปิดประตูออกจากรถ หัวใจเต้นแรงแทบทะลุออกมาข้างนอก แต่ในแวบแรก เธอรู้สึกเจ็บจี๊ด เขาไม่ได้อยากสานสัมพันธ์ แค่ไม่อยากให้เธอมาทำตัวเขาเองให้มีปัญหา “ขอบคุณค่ะ” เธอยังเอ่ยปากบอกเขา แล้วเดินลิ่ว ๆ หายไปยังร้านขายยาอย่างที่เขาบอก ตอนที่เธอคุยกับเภสัชกร เธอยังมองออกมาข้างนอก ยังเห็นรถของหิรัญจอดอยู่ ‘คงอยากจะให้แน่ใจว่าเราซื้อยาแล้วจริง ๆ ’ มันจุกจนพูดไม่ออก โบนิตาออกมาจากร้านขายยาก็เดินเลี้ยวเข้าไปทางคอนโดฯ เธอไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับมามองรถของเขาว่าแล่นออกไปจากจุดนั้นหรือยัง ปึง... ร่างเล็ก ๆ กระโดดขึ้นไปนอนหมดแรงอยู่บนที่นอน น้ำตาไหลพราก ๆ มันแน่นไปทั้งอกเลย ร่างที่นอนทับกระเป๋าอยู่ รับรู้ได้ถึงความสั่นของอะไรบางอย่างในนั้น “ฮัลโหล เอมเหรอ” น้ำเสียงที่แสนเหนื่อยล้า (“แกกลับถึงบ้านปลอดภัยดีนะเมื่อคืน”) “อื้อ... ปลอดภัยดี” ตอบไปแบบนั้น แต่ในใจมันเจ็บลึก ๆ (“เฮ้อ... ฉันก็เพิ่งตื่น เมื่อคืนขอโทษนะส้ม ฉันเมาไม่รู้เรื่องเลย”) “ใช่ วันหลังไม่ดื่มแบบนั้นแล้วนะ” (“ฮา... แต่สนุกมากเลยแก ทิ้งทวนเนอะ”) “เอ่อ ทิ้งทวนจริง ๆ” (“วันนี้ฉันคงไม่ได้ไปหาแกแน่ ๆ อุตส่าห์นัดกันจะไปกินข้าวดูหนัง”) “นอนพักเหอะ ไหนจะเพิ่งบินกลับมา เดี๋ยวร่างก็พัง อีกอย่างพี่ไกด์จะว่าเอาได้” (“เป็นไง สามีฉัน”) เอมมาลินทำเสียงตื่นเต้น “หล่อ ดูดี น่ารัก สมใจแกทุกอย่างเลยนะ” โบนิตาคิดแบบนั้นจริง ๆ (“เอมจ๋า ลุกขึ้นจากที่นอนได้แล้ว คุยกับใคร”) เสียงพี่ไกด์ดังเข้ามา “เอมแกให้เวลากับพี่ไกด์เถอะ แกยังอยู่เมืองไทยอีกนาน แล้วตอนนี้ฉันก็รู้สึกง่วงมาก ๆ” (“ก็ได้ ๆ แค่นี้นะ รักแกนะส้ม”) “จ้า รักเหมือนกัน” โบนิตาวางสาย แต่ในหัวมีแต่เรื่องและใบหน้าของผู้ชายที่เขาบอกว่าเขาชื่อ กายเต็มไปหมด การจะเอาเรื่องนี้ออกจากหัวมันคงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เธอลุกขึ้นเช็ดน้ำตาออกไป หยิบแผงยาขึ้นมากิน แล้วอ่านฉลาก กินมันลงไปในท้องอย่างรวดเร็ว ‘เดี๋ยวได้ท้องไม่มีพ่อ เขาก็คงกลัวผู้หญิงเดินเอาที่ตรวจครรภ์ไปให้ถึงหน้าบ้านมั้ง’ ‘นี่คุณ ดูนี่สิ ฉันท้องกับคุณ’ ใบหน้าแสนเศร้า ที่บ้านพ่อภุชงค์กับคุณศิริพักตร์ “เป็นอะไร ฮัมเพลงมาแต่ไกล มีอะไรเกิดขึ้น” พี่ปลื้มพี่ชายของกายทักขึ้น “ก็ไม่มีอะไรครับ” “แต่หน้าแกมันฟ้องว่าต้องมีอะไร” “เปล่า” หิรัญก็ยังยิ้ม “แม่ครับ พ่อครับ” ปลื้มเรียกพ่อกับแม่ คุณภุชงค์กับศิริพักตร์ยกอาหารว่างออกมา “อะไรน่ะแม่ น่ากินจัง กลิ่นหอมมาก” กายถาม “ถ้วยฟูฟักทอง” “ขอผมชิ้นหนึ่งนะครับ” “แล้วสองคนเอะอะอะไรกัน” คุณพ่อถาม “ก็พ่อดูหน้ากายดิ” “ก็น้องมันมีความสุข” พ่อตอบแทน “ใช่ครับ ใครจะเหมือนพี่ปลื้ม หน้านิ่วคิ้วขมวดทุกวัน” กายว่าพี่ชาย “ผมจะไปเที่ยวพักร้อน พ่อกับแม่สั่งให้กายไปทำงานแทนผมหน่อยนะครับ” แทนที่จะสั่งและบอกน้องชายไปตรง ๆ “จะบ้าเหรอ ผมไม่ถนัด ผมไม่ไปทำแน่นอนครับ” “ไปเหอะน่า แค่ไปดูเรื่องราคา มีบริษัทโฆษณามาพรีเซนต์งานแล้วเหมียวก็อยู่ด้วย นะ นะ” พี่ปลื้มลุ้นสุดใจ “เมื่อไหร่” พี่ชายยิ้มกว้าง ถ้าตอบแบบนี้แสดงว่ากายตกลง “วันจันทร์” “ก็ได้ บ่าย ๆ นะ เช้าผมตื่นไม่ไหว” “สิบสามนาฬิกาครับผม จัดให้” “อะไรกันไม่รู้สองคนเนี่ย เจอกันเป็นไม่ได้ ชอบปะทะคารมกัน” คุณพ่อทำบ่น “แล้วเมื่อไหร่ใครจะแต่งงานมีหลานให้แม่ แม่อยากเลี้ยงหลานแล้วนะ” คุณศิริพักตร์เริ่มบ่นบ้าง “แล้วแม่อยากให้ใครแต่งงานก่อนล่ะครับ” “ก็พี่ปลื้มสิ พี่ปลื้มเป็นพี่” “โอ๊ย... แม่ครับ ผมยังหาแฟนไม่ได้เลย” ปลื้มโอดครวญ “พ่อหาให้เอาไหม” คุณพ่อเสนอหน้า “ใคร” คุณศิริพักตร์หันไปหา สายตามีแต่คำถาม รู้สึกสนุกที่จะได้แกล้งลูกชายสองคนนี้ “หนูนิด หนูหน่อย แล้วก็นุ้ก” ภุชงค์เอ่ยถึงสามสาว ลูกของกฤกษ์และแพรวา “พ่อครับ ให้น้องเขาไปมีความสุขเถอะ อย่าให้ยายหนูนิด หนูหน่อย หนูนุ้กมาลำบากใจกับพี่ปลื้มเลย” กายส่งสายตาร้าย ๆ ให้พี่ชาย “ทำไม ฉันมันเป็นคนยังไง” พี่ชายยังขมวดคิ้วเข้าหากันไม่เลิก “เอ้... ปลื้มกับกายนี่ยังไงนะ อายุสามสิบกว่ากันแล้วยังทำตัวทะเลาะกันเป็นเด็ก ๆ” แม่ติง “แม่ครับผมจะหาแฟน แล้วแต่งงานมีหลานให้แม่เลยนะครับ” กายเอาหน้า “ก็แหงสิ ยายอลิสก็ตามตื๊อแกอยู่นี่ หรือว่าตกลงเป็นแฟนกันแล้ว” พี่ชายหมายถึง อลิเชีย แคมเบิล ที่เป็นดาราสาวชื่อดัง นางแบบด้วย “ฮึ... ขี้เกียจทำให้ชีวิตมันยุ่งยากน่ะครับ ผมหาเมียแบบแม่ดีกว่าเนอะ จริงไหมครับพ่อ แต่งงานกับผู้หญิงธรรมดาที่ไม่ต้องแต่งเสริมเติมจริตมากมาย” คุณพ่อพยักหน้า ดึงภรรยาเข้ามากอด แล้วหอมโชว์ลูกชาย สองท่านรักกันมาก “กาย แล้วเมื่อเช้า ใครที่แกพากลับไปส่งเอาตอนสาย ๆ” พี่ชายขัดคอ น้องชายออกอาการตกใจหน้าเหวอแต่ก็รีบปรับเป็นปกติ นึกว่าไม่มีใครเห็นนอกจากเพิ่มที่มาเปิดปิดประตูให้ “ใคร ที่ไหน” กายทำเสียงสูง “ไม่ต้องมาทำไก๋เลย ฉันเห็น เมื่อเช้าฉันวิ่งออกกำลังกาย แต่เห็นผู้หญิงเขาแต่งตัวไม่เรียบร้อย เลยไม่ได้เข้าไปทักทาย” พี่ปลื้มตอบ พ่อกับแม่จ้องหน้าลูกชาย เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองท่านได้ยินเรื่องนี้ หิรัญพาผู้หญิงมานอนที่บ้านครั้งแรก น่าจะเป็นคนแรกด้วย หิรัญส่ายหน้า รีบหยิบขนมเข้าปากอีกหนึ่งชิ้น ตอนนี้ต้องทำให้ปากไม่ว่างเอาไว้ก่อน แล้วรีบหยิบอีกหนึ่งชิ้นเอามาไว้ในมือ “ไปก่อนนะแม่ ลืมไปว่ามีธุระ” เขารีบลุกขึ้นเดินหนีไปเฉย ๆ ทั้งสามคนหัวเราะที่จับผิดหิรัญได้ “จะทำตัวเป็นเพลย์บอยกันไปถึงเมื่อไหร่ อย่าให้เหมือนตอนที่คุณพ่อหนุ่ม ๆ นะ” ศิริพักตร์พาดพิงสามี “อ้าว... ทำไมหาเรื่องพ่อไปได้ ไปไล่บี้ถามเอากับเจ้ากายไป” คุณภุชงค์แกล้งทำเสียงดังใส่เมีย เธอจับปลายจมูกของเขาบีบแรง ๆ “แต่จะว่าไป ผมก็ปล้ำคุณในบ้านหลังนั้นเหมือนกันนะ” “อะ...ลูกนั่งอยู่” เผียะ แม่ตีไปที่แขนของพ่อ ปลื้มได้แต่นั่งหัวเราะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD