ตอนที่ 8

1489 Words
ฟึบ... ความรู้สึกถึงได้กลับมา ความทรงจำในค่ำคืนที่ผ่านพ้นกลับมาในมโนสำนึก เขากับเธอมีอะไรกัน และตอนนี้เธอก็ไม่มีเสื้อผ้าอยู่บนร่างกายแม้แต่ชิ้นเดียวใบหน้าของหญิงสาวค่อย ๆ แดงระเรื่อ แล้วแกล้งทำเป็นหลับตาลงเหมือนยังไม่ตื่นขยับตัวนอนหันหลัง หมับ... มือหนาคว้าร่างของเธอเอาไว้ ก่อนจะดึงร่างบางให้หันหน้าเข้ามาหา โบนิตาโชว์รอยยิ้มกว้าง ๆ พร้อมกับทำตาหยี ๆ “อรุณสวัสดิ์” หิรัญเอ่ยขึ้นมาก่อน “อรุณสวัสดิ์” น้ำเสียงสุดเขิน “นอนหลับสบายดีใช่ไหม” เขาถามอีกคำถามหนึ่ง คนได้ยินถึงกับยิ้มเจื่อน ๆ ลง หน้าตายิ่งแดงระเรื่อเข้าไปใหญ่ ‘คนบ้าทำไมถามแบบนี้’ “อื้อ...” “สายแล้วนะ ไม่สิต้องบอกว่าใกล้เที่ยงวันแล้ว เธอหิวหรือยัง” อยู่ ๆ ท้องของเธอก็ร้องขึ้นมาเสียงดังจนทั้งสองได้ยิน “หลักฐาน ลุกขึ้นไปอาบน้ำแล้วเดี๋ยวมากินอะไรกัน” เขาทำท่าจะลุกขึ้น เธอรีบรั้งแขนของเขาเอาไว้ทันที “เอ่อ... ฉันอยากจะขอร้องคุณ” “หือ” หิรัญทำหน้าสงสัย เธอชะงักงัน พ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ “เมื่อคืนนี้เป็นแค่ เอ่อ...” “ว่า...” นัยน์ตากลมโตของเขาจ้องมา เธอกลืนน้ำลายเอื้อก ๆ รู้สึกทั้งอายและอยากเสกให้ตัวเองหายไปจากเตียงนอนของเขาได้ยิ่งดี “คุณทำลืมได้ไหมว่า ฉันไม่ได้มาที่นี่ หรือแบบว่า... เอ่อ... อ่า...” “จะเอาแบบนั้นเหรอ” เขามองเธอด้วยสายตาที่แปลกไป “อือ...” เธอพยักหน้าหงึก ๆ พอเห็นเขาคลี่ยิ้มเธอก็หายใจออกมาแบบโล่ง ๆ “เดี๋ยวผมจะไปทำอะไรให้กิน” เขาลุกขึ้น เดินหันหลังจากไป ‘กล้ามเป็นมัดสวยจัง หน้าตาหล่อดูดีมาก เฮ้อ... แล้วเขาเป็นใคร นางส้มเอ๊ย แกเมามากเลยมากับเขา แล้วเมื่อคืนแกเป็นคนจัดการเขาก่อน อ้าย... จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน’ เธอนึกไปถึงเรื่องราว ๆ ต่าง ๆ ปะติดปะต่อได้ ก็เกิดความกระดากอายขึ้นไปอีก เธอถลันตัวลุกขึ้นนั่ง หยิบผ้าขึ้นคลุมไปทั้งตัว ‘กลั้นใจ กลั้นใจ ฮึบ ๆ ’ เธอบอกตัวเอง ก่อนจะโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม หิรัญมายืนอยู่ใกล้ ๆ แล้วก้มหน้าลงมามอง โบนิตาตกใจหน้าแดง ไม่คิดว่าเขาจะกลับเข้ามาในห้องอีก “อุ้ย... ตกใจหมดเลย” เขายื่นผ้าเช็ดตัวให้ “ขอบคุณ” พูดออกมาเบา ๆ อายตัวจะม้วนอยู่แล้ว หิรัญหันหน้าเดินออกไปจากห้องอีกครั้ง พร้อมกับรอยยิ้ม โบนิตารีบลุกขึ้นมาจัดการตัวเอง มองดูเตียงนอนที่ยับย่นเหมือนกับสมรภูมิรบอะไรแบบนั้น กว่าเขาจะให้เธอหลับ โบนิตาจำได้ว่านายคนนั้นเสร็จในตัวเธอสองรอบ แต่ตัวเองนับครั้งไม่ถ้วน ‘ฟิน’ ‘ยั้ย... บรึ๋ย... บ้าไปแล้ว แกจะมารู้สึกฟินอะไรตอนนี้’ หญิงสาวตำหนิตัวเอง รีบจัดที่นอนพับผ้าห่มเอาไว้ให้เขาแบบลวก ๆ รอยสีแดงปรากฏอยู่บนที่นอนเป็นดวง ๆ อย่างเห็นได้ชัด ‘เลือดอะไรวะ’ ‘ก็โดนเขาเจาะไข่แดง ก็ความบริสุทธิ์ของแกไง’ ‘น่าเสียใจฉิบหายเลย ไม่น่าเมาปลิ้นขนาดนั้นเลย ฮือ... ยายส้ม’ เธอทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แต่ย้อนเวลากลับไปไม่ได้อีกแล้ว “นี่คุณ... อาหารใกล้เสร็จแล้วนะ” เขาตะโกนเข้ามา “ค่ะ” เธอตะโกนกลับ รีบหมุนตัวเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว พออาบน้ำเสร็จเธอเปิดประตูออกมา หิรัญยืนยิ้มพร้อมกับส่งเสื้อผ้าของตัวเขาเองให้ “ชุดนี้เล็กสุดแล้ว” เขาบอก “ขอบคุณค่ะ” เธอรับมันมาถือเอาไว้ แล้วหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง ชายหนุ่มนั่งรอเธออยู่ที่โต๊ะกินข้าว โบนิตารวบผมเอาไว้เหลือแต่หน้าม้านิด ๆ ที่ตกลงมา ใบหน้าใสบริสุทธิ์ไม่มีแป้งหรือเครื่องสำอาง เขาได้เห็นใบหน้าของเธอชัด ๆ ก็ตอนนี้ ประตูและหน้าต่างที่ระเบียงถูกเปิดเอาไว้หมด ลมเย็น ๆ โชยพัดเข้ามา ทำให้ต้นไม้ใหญ่สีเขียวชอุ่มปลูกอยู่ในสวนบ้านของเขาเต็มไปหมด “น่าอยู่จังนะคะ บ้านของคุณ” เธอเอ่ยชม นั่งลงตรงข้ามกับเขา มีท่าทีเอียงอาย “เรียกผมว่ากาย” เขาแนะนำตัว “ส้มค่ะ” ตอบด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม จริง ๆ ขายขี้หน้ามากกว่าจะมานั่งบอกชื่อของตัวเอง ถ้าเธอตื่นมาก่อนที่เขาจะตื่นคงจะแจ้นออกไปจากบ้านหลังนี้แล้วแต่พอมองออกไปด้านนอก กำแพงบ้านของเขาสูง ๆ “กินสิ ซุปใสแก้แฮงก์ได้ แล้วก็ไข่ดาว ขนมปัง ไส้กรอก ในบ้านก็มีของกินอยู่แค่นี้แหละ” “ขอบคุณค่ะ” แล้วก็หันไปหาซุปใส หยิบช้อนแล้วตั้งใจกิน “มีอะไรที่คุณส้มพูดได้มากกว่าขอบคุณไหม” เธอช้อนตาขึ้นมามองเขา ทำเป็นอร่อยกับซุปตรงหน้า ไม่ยอมตอบคำถาม “กินเสร็จ เดี๋ยวผมไปส่ง” “โอะ ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวส้มกลับเอง” เธออายจะตายแล้ว คำพูดของหิรัญที่น้ำเสียงปกติ หนุ่มหล่อหน้าตาดี แล้วดูบ้านช่องของเขาแล้วน่าจะรวย คงมีสาว ๆ เรียงหน้ามานอนด้วยเป็นเรื่องปกติ ‘หื้อ ปกติตรงไหน’ เธอถามตัวเอง “ตรงนี้ ซอยนี้เป็นซอยตัน แถบนี้ทั้งแถบมีแต่บ้านของผม ถ้าจะเดินออกไปเรียกแท็กซี่ก็ประมาณกิโลฯ หนึ่ง เดินไหวไหม” ลำของแสงแดดที่ฟาดไปกับต้นไม้ ทำให้เธอรู้ว่าถ้าหลุดออกจากตรงนี้ไป ก็คงจะร้อนมาก ๆ “รบกวนคุณหรือเปล่าคะ” สุดแสนทำหน้าเกรงใจ “ถ้าจะรบกวนก็คงจะเป็นมาตั้งแต่เมื่อคืน” เขาจะย้อนให้เธอคิดไปถึงเมื่อคืนอีกทำไม เธอยักคอกลืนน้ำลายอีกครั้ง “ก็ได้ ไปส่งก็น่าจะดี” เธอตอบรีบกินอาหารตรงหน้าเหมือนหิวมาก ๆ แต่ไม่รู้จะทำอะไรที่ดีกว่านี้มากกว่า ‘มูมมามจริง ๆ ’ หิรัญหัวเราะ ไม่น่าเชื่อโบนิตากินทุกอย่างที่เขาทำไว้ให้จนเกลี้ยง “โอ้โห... จะบอกคุณให้นะ ไม่มีใครกินฝีมือผมได้หมดเลย มีแต่คุณคนเดียว อร่อยหรือ” โบนิตาส่ายหน้า “ฉันคงหิว” หิรัญถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดัง “คุณจะดื่มกาแฟไหม” “ไม่ค่ะ ขอบคุณ ฉันไม่ดื่มกาแฟ” หิรัญพยักหน้า “เสื้อผ้าของคุณเปียก แต่ผมซักให้แล้ว จะรอให้มันแห้งก่อน หรือว่าจะกลับเลย” “กลับเลยค่ะ” เธอรีบยกน้ำส้มขึ้นดื่ม “แต่ผมหากางเกงในของคุณไม่เจอนะ” พรวด... น้ำส้มพุ่งออกมาจากปากของโบนิตา โชคดีที่เขานั่งอยู่ใกล้แต่ไม่โดน เธอรีบหยิบทิชชูขึ้นมาเช็ดน้ำส้มที่ตัวเองทำเลอะเทอะ “อา... ไม่เป็นไรค่ะ ค่อยซื้อใหม่” อายแทบแทรกแผ่นดินหนี รู้ทั้งรู้ว่ามันคงเปียกโชกอยู่ในกระเป๋าสะพายของตัวเองนั่นแหละ หิรัญกลั้นขำจนหน้าแดงที่ได้เห็นปฏิกิริยาของเธอแบบนี้ “งั้นขอยืมเสื้อผ้าของคุณไปนะ” “ไม่ต้องเอามาคืน ผมยกให้” “อ้อ... ค่ะ อืม อิ่มแล้ว เราไปกันได้หรือยัง” “ได้สิ กระเป๋าสะพายคุณอยู่ตรงนั้น ผมเก็บเสื้อผ้าของคุณใส่ถุงให้ แล้วก็เราไปกัน” เธอหุบปากเงียบ ได้แต่นั่งพยักหน้า พอเขาเดินหายไป โบนิตาก็รีบเก็บจานชามของเขาไปล้างให้อย่างรวดเร็ว ยืนตรงสะพายกระเป๋ารอเขาอยู่ที่หน้าประตูบ้านแล้ว “เมื่อก่อนที่บ้านฉัน เราก็ปลูกต้นนี้ค่ะ เวลาดอกมันออกมาเหลืองไปทั้งสวนเลย” “เหลืองอินเดีย มีนาฯ เมษาฯ ก็จะเริ่มบาน ไว้คุณค่อยมาดูสิ” “ไม่เป็นไร ดูเอาในอินเทอร์เน็ตก็ได้” เธอพูดเหมือนกลัวว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้งหนึ่งอย่างนั้นแหละ หญิงสาวรับถุงที่ใส่ผ้ามาจากมือของเขา แล้วเดินขึ้นไปนั่งบนรถที่เธอนั่งมาเมื่อคืน รอเขาเดินไปเปิดประตูรั้ว สายตาของโบนิตามองไปตามถนนที่วิ่งเข้าไปในสวนบ้าน ‘บ้านกว้างขนาดนี้ คงอยู่รวมกันหลายครอบครัว’ ทันใดนั้น มีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งมาหาหิรัญ แล้วไปคอยเปิดปิดประตูรั้วให้เขา “ฮู้...” เธอพ่นลมออกมาจากปาก ก้มหัวลง และยกเอากระเป๋าถือขึ้นมาบังหน้า เพื่อไม่ให้ชายคนนั้นเห็นตัวเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD