ตอนที่ 17

1349 Words
มะดันส่งสายตาอ้อนวอนคุณภุชงค์และคุณศิริพักตร์และสีหน้าหนักอกหนักใจ แม่ดาราสาวก็ยังร้องไห้เป็นเผาเต่า “ถ้าไม่งั้นภาพลักษณ์นางเอกแสนดีของอลิเชียที่มะดันสร้างมาพังพาบแน่ ๆ ตาย ๆ คิวงานฉันจะกระเจิดกระเจิงขนาดไหน วันนี้ก็มีสายโทร. เข้ามาแคนเซิลงานไปสองงานแล้ว ไม่เห็นใจกันบ้างหรือคะ” มะดันสบตากับหิรัญ “เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ แกสร้างปัญหาเองนะ” คุณพ่อทำเสียงเข้ม รู้สึกเข้าใจฝั่งผู้หญิงมากกว่า “พ่อทำไมพูดแบบนี้ล่ะครับ ผมจะหาอยู่ว่าใครเป็นมือดี ในห้องนั้นก็มิดชิด มีคนมาแอบถ่ายรูปแบบนั้นออกไปได้ยังไง” “มิดชิด นั่นมันห้องทำงานนะลูก” คุณศิริพักตร์ชักจะเหลือทนกับพฤติกรรมของเขาที่เป็นเพลย์บอยตามรอยของคุณพ่อสมัยหนุ่ม ๆ ดีว่าคุณภุชงค์ยังมีความรับผิดชอบและรักเธอจริง ๆ จึงได้แต่งงานกัน “แกต้องรับกับความผิดนี้ ทำตามที่คุณมะดันขอร้อง และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พ่อสั่งให้แกต้องตามติดไปกับหนูอลิสทุกงาน” “พ่อครับ งานผมก็มีทำนะครับ ไม่ได้ว่างไปตามหลังใคร” มะดันนั่งเคืองมองหิรัญตาขุ่น “ทีเมื่อก่อนไปนั่งเฝ้านอนเฝ้านะคะคุณหิรัญ” สายตากราดเกรี้ยว ก็ตอนนั้นยังไม่ได้ไง มันทำให้ทุกคนคิดแบบนั้น “ใช่ งานแกก็มีทำ แต่เรื่องนี้มันเกิดขึ้นมาแล้ว ตัวแกก็ต้องรับผิดชอบ พ่ออยากเห็นแกเป็นลูกผู้ชายมากกว่านี้นะ ไปทุกงานที่นอกเหนือจากเวลางานของแก” คุณพ่อเข้าข้างอลิเชียอย่างเห็นได้ชัด “คุณมะดันกับหนูอลิส พ่อต้องขอโทษแทนหิรัญด้วย” คุณมะดันก็พ่นลมหายใจแบบโล่งอก นางเอกหน้าหวานจึงยิ้ม อลิเชียยิ้มออกมาทั้งน้ำตา ยกมือไหว้ทั้งสองท่านอย่างนอบน้อม “ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่มากค่ะที่เข้าใจอลิส” เธอขยับตัวเข้าไปหาทั้งสองท่าน นั่งลงไปกับพื้นแล้วกราบงาม ๆ บนตักของคนทั้งสอง คุณภุชงค์กับคุณศิริพักตร์ยกมือลูบหัวของเธออย่างเอ็นดู มองหน้าลูกชายคนเล็กเหมือนกับเป็นตัวร้าย หิรัญเกิดอาการเซ็งเป็นที่สุด “ถือว่าพี่ขอร้องแล้วกันนะคะ เพราะผลเสียไม่ได้เกิดกับคุณหรืออลิสเท่านั้น พวกเรา ๆ ที่ทำงานกับน้องอลิสก็พลอยโดนหางเลขไปด้วย โต ๆ กันแล้วทำอะไรก็เห็นใจคนอื่นกันบ้าง คุณหิรัญต้องยอมรับนะคะว่ากำลังคบกับนางเอกของประชาชนคนทั้งประเทศ คนดี ๆ กัน อย่าให้มะดันต้องมานั่งแก้ข่าวใส่ร้ายใครเลย มะดันไม่อยากทำ” มะดันลุกขึ้นยืน “ลาละค่ะคุณพ่อคุณแม่” คุณมะดันเดินจากไปแบบเชิด ๆ อลิเชียลุกขึ้นเดินเข้าไปฉวยจับมือกับหิรัญ “ถ้าอลิสทำผิดต่อพี่กาย ให้พี่กายด่าอลิสก็ได้นะคะ อย่าถึงกับบอกเลิกกับอลิสเลย อลิสรักพี่กายนะคะ พี่อย่าเอาอะไรที่อลิสทำไม่ดีมาเป็นข้ออ้างเพื่อเลิกกับอลิสนะคะ ต่อไป อลิสจะปรับปรุงตัว เรื่องไหนที่พี่กายไม่ชอบ อลิสจะไม่ทำแล้วจริง ๆ ค่ะ อลิสเสียใจ” น้ำเสียงน่าสงสารเป็นที่สุด โผเข้ากอดเขาต่อหน้าพ่อกับแม่ คุณภุชงค์ทำหน้าตาร้ายเข้าใส่หิรัญ พอ ๆ กับสายตาของคุณแม่ที่ไม่เคยมองเขาแบบตำหนิแบบนี้มาก่อนเลย “ไปสิ ไปส่งน้องทำงาน” คุณพ่อเอ่ยปากไล่ หิรัญไม่มีคำพูด อลิสตีบทนางเอกผู้น่าสงสารเสียจนทุกคนเชื่อ เขาจึงเดินออกมาพร้อม ๆ กันกับเธอ อลิสเปลี่ยนเป็นอีกหน้า เช็ดน้ำตาออกจนเกลี้ยง “พี่กายไม่มีทางจะทิ้งอลิสไปไหนได้หรอกค่ะ” เธอดึงเขาขึ้นรถ ก่อนจะขึ้นไปนั่งอีกฝั่ง หิรัญเซ็งสุด ๆ เดินขึ้นไปนั่งเป็นคนขับ “ไปพารากอนค่ะ” เธอสั่งเขา พร้อมกับเอาอุปกรณ์แต่งหน้าขึ้นมาจัดเต็ม ใบหน้าที่เดินยิ้มแย้มเข้าไปส่งอลิเชียถึงขอบเวที โดยมีพี่มะดันกำกับอยู่ข้างหลัง “หลังจากเสร็จงานก่อนนะคะพี่นักข่าว น้องอลิสกับคุณหิรัญจะให้สัมภาษณ์” มะดันยิ้มกว้างสุดตัว หิรัญขอตัวเดินหนีไปเข้าห้องน้ำ ติ๊ง ติ๊ง (นี่คือบทสัมภาษณ์ค่ะ ถือว่าพี่ขอร้องก็แล้วกัน คุณหิรัญ) มะดันส่งข้อความเข้ามายาวเหยียด ซึ่งเป็นเรื่องให้เขาแค่ยิ้ม และยอมรับว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่กับอลิเชีย และประทับใจในตัวเธออย่างไร ที่อัมพวา โบนิตาเปิดประตูออกมานั่งที่ระเบียง ยังคงเห็นคุณปลื้มนั่งอยู่ตรงนั้น “คุณปลื้มไม่เอนหลังบ้างหรือคะ” “ผมไม่ชอบนอนกลางวัน อ๋อ หนังสือที่ผมบอกว่าจะให้คุณน่ะครับ” ปลื้มยื่นหนังสือให้ โบนิตายกมือไหว้แล้วรับเอามาถือเอาไว้ “นักเขียนแจกลายเซ็นลงไปในนี้หรือยังคะ” คุณปลื้มยิ้มแก้มปริ “จะเอาลายเซ็นของผมจริง ๆ หรือครับ จะว่าไปแล้วคุณส้มเป็นคนแรกเลยนะครับที่ขอผม” เขาส่งเสียงหัวเราะออกมา เธอยื่นหนังสือกลับ เขารับไปแล้วเซ็นให้แล้วส่งกลับ “ถ้าอีกหน่อยคุณปลื้มมีชื่อเสียงโด่งดัง ส้มจะเอาหนังสือเล่มนี้ออกมาประมูล” “โอ้โห... คงไม่ถึงขนาดนั้นมั้งครับ ว่าแต่คืนนี้จะไปดูหิ่งห้อยกับผมไหม” “ไปสิคะ ครั้งที่แล้วมาฝนดันตกเสียก่อน ส้มเลยไม่ได้เห็นฝูงหิ่งห้อยน่ะค่ะ” “กินขนมไหมคะ หรือจะเอาผลไม้ดี” “ผมมีส้มแล้ว” เขาหยิบจานที่ใส่ส้มเขียวหวานขึ้นมา “ลองดูครับ หวานเชียว” “ขอบคุณค่ะ” เธอนั่งชมวิวไปเงียบ ๆ โดยมีคุณปลื้มเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ฟัง ดูท่าทางเขามีความสุขที่ได้แบ่งปันเรื่องราวของตัวเอง โบนิตามีหน้าที่พยักหน้า ออกความคิดเห็น และซักถามเขาเป็นเรื่อง ๆ ไป ทั้งสองคนดูเข้ากันได้ดี ในตอนนั้น โบนิตากลับเข้าไปในห้อง เธอได้หยิบขนมเม็ดขนุน ทองหยอด และฝอยทองออกมา กลิ่นของความหวานโดนใจฝูงผึ้งที่ทำรังอยู่ด้านบนหลังคาบริเวณใกล้ ๆ เป็นอย่างมาก มันเริ่มบินเข้ามาวนเวียน “ต้องรีบช่วยส้มกินแล้วค่ะคุณปลื้ม” “ท่าทางมันคงหวานมาก” “กินเถอะค่ะ นิด ๆ หน่อย ดูสิแค่อย่างละสี่ห้าชิ้นเองค่ะ” จังหวะที่ชายหนุ่มกำลังหยิบเขาก็สัมผัสโดนตัวผึ้ง แล้วมันก็ต่อยฉึกไปที่ง่ามมือของเขา “โอ๊ย... ผึ้งต่อยผม” เขาบอกเธอ “ไหนคะ ตรงไหนคะ” โบนิตาตกใจ เธอรีบเก็บขนมหวานที่ส่งกลิ่นยั่วผึ้งกลับลงไปในถุงพลาสติกทันที มือของคุณปลื้มตรงบริเวณที่โดนผึ้งต่อยมันบวมเป่งขึ้นมาทันใดและดูเหมือนจะมีอาการลุกลาม เธอพยายามมองหาว่ายังมีเหล็กในของผึ้งตัวน้อย ๆ อยู่บนมือหรือเปล่า “เออ คุณส้ม ผมว่า ผมน่าจะแพ้นะ” เขาเหมือนจะพูดด้วยความลำบาก เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา โบนิตาถึงกับตกใจมาก ตาและปากของเขาเริ่มบวม มันดูผิดรูป “คุณปลื้มเคยโดนผึ้งต่อยไหมคะ” “ไม่เคยครับ ผมรู้สึกแน่น ๆ เหมือนจะหายใจไม่ค่อยออกครับ” เขาเป็นแบบนั้นจริง ๆ “เดี๋ยวส้มจะตามคนมาช่วยค่ะ คุณปลื้มรอสักครู่นะคะ” หญิงสาวแทบกระโดดตัวลอย วิ่งลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว เธอตามคนมาช่วยคุณปลื้ม สภาพของเขาดูน่ากลัวมาก มีอาการแน่นเจ็บที่หน้าอกเหมือนจะหายใจไม่ค่อยออก โชคดีที่มีสถานพยาบาลอยู่ใกล้ ๆ จึงได้มีการปฐมพยาบาลเขาและรีบนำตัวคุณปลื้มส่งโรงพยาบาล
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD